WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Mayบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
 
Market summary
          เมื่อวานที่ผ่านมา SET มีความผันผวนสูง โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงซื้อเด่นใน CPALL และกลุ่ม ICT นำโดย DTAC, ADVANC และหุ้นขนาดกลาง ที่เกี่ยวข้องกับประเทศจีน อย่าง DDD, PTG  อย่างไรก็ตาม กลุ่ม Global play โดยเฉพาะโรงกลั่นถูกแรงขายอย่างหนัก นำโดย TOP, IRPC ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,624.0 จุด (-0.9 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.1 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.8 หมื่นลบ.
          นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 ที่ 1,289 ลบ. (กองทุนพลิกขายสทธิสูงกว่า 3,978 ลบ.) พร้อมเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิที่ 9,125 สัญญา
 
Investment theme
          Globay play ยังถูกแรงขายอย่างต่อเนื่อง  : ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา หุ้นกลุ่ม Global play นำโดยกลุ่มพลังงาน, ปิโตรเคมี และโรงกลั่นถูกแรงขายทำกำไรเฉลี่ยกว่า 10% โดยนอกเหนือจากความกังวลผลประกอบการ 4Q18 ที่คาดออกมาต่ำทั้ง YoY, QoQ ยังถูกปัจจัยกดดันหลัง IMF ปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกลงจาก 3.7% เหลือ 3.5% (ถือเป็นการปรับลง 2 ครั้งติดต่อกันในการประชุมรอบล่าสุด) และเห็นได้ชัดว่าเกิด Roation เข้ามายังกลุ่ม Domestic play และ Defensive สอดคล้องกับมุมมองของเราอย่างค้าปลีก, รถไฟฟ้า และ โรงไฟฟ้า เบื้องต้นเราคาดหากผลการประชุมการเจรจาการค้าที่จะเกิดขึ้นที่สหรัฐในช่วงคืนวันพฤหัสที่ 31 ม.ค. ออกมาระหว่าง Base-Worst Case (ติดตามรายละเอียดได้ใน Trading idea) กลุ่ม Global play จะยังถูกแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง และสำหรับการลงทุนวันนี้ เราประเมิน SET แกว่งในกรอบแคบ 1,620 จุด +/- ด้วยมูลค่าการซื้ขายที่เบาบางเพื่อรอ 3 ปัจจัยในคืนวันพฤหัสนั่ นคือ 1) FOMC 2)  Tradewar และ 3) รายละเอียดการคุมราคายาและค่ารักษาพยาบาล 
          Investment Theme: เราประเมินเป้าหมาย SET สิ้นปีที่ 1,743 จุด อย่างไรก็ตามใน 1Q19 มองว่าจะเป็นช่วงที่มีความผันผวนสูงไม่ต่างจากไตรมาสที่ผ่านมา มองกรอบการแกว่งตัวบริเวณ 1,540-1,645 จุด คงคำแนะนำถือหุ้น BEM, EGCO, VGI, CPALL, BJC และทยอยสะสม  AOT พร้อมสัดส่วนเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% 
 
Big issue
          เมื่อคืนที่ผ่านมา : คาดนายกตัดสินใจอนาคตทางการเมืองในวันที่ 4-8ก.พ. นี้ / สศอ.รายงาน MPI เดือนธ.ค.ขยายตัว 0.75% กลุ่มยานยนต์เติบโตดี / Brent กลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้งที่ 61.2 เหรียญ 
 
แบ่งผลเจรจาการค้า 3 Cases          
          แบ่งผลเจรจาการค้าเป็น 3 Cases : ภายหลังการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจบลง เราคาดเร็วๆนี้ จะมีการแถลงผลการเจรจาอย่างเป็นทางการ โดยเราแบ่งผลลัพธ์เป็น 3 Cases นำโดย  1) Best case กล่าวคือยืนยันไม่ขึ้นอัตราภาษี 25% , ยกเลิกการขึ้นรอบใหม่ 2.67แสนล้านเหรียญ, ยกเลิกวงเงิน  2.5 แสนล้าน ที่มีอยู่ในปัจจุบันออก คาด SET ปรับตัวขึ้นทะลุแนวต้าน 1,645 จุด แนะซื้อ PTTEP, PSL, WICE และ 2) Base case กล่าวคือ ยืนยันไม่ขึ้นอัตราภาษี 25%, ยกเลิกการขึ้นรอบใหม่ 2.67 แสนล้านเหรียญ, แต่ยังคงภาษีวงเงินเดิม 2.5 แสนล้านเหรียญ คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,585-1,620 จุด แนะซื้อ AOT, TU และ 3) Worst case กล่าวคือขึ้นอัตราภาษี 25%, ขึ้นวงเงินภาษีอีก 2.67 แสนล้าน รวมเป็น 5.1 แสนล้านเหรียญ คาด SET เปิด Downside 1,540- จุด ซึ่งถือเป็นภาพจะส่งผลเสียต่อทั้งปัจจัยเศรษฐกิจโลก, การเมืองโลก 
 
          Trading idea -  ทยอยสะสม SPA ราคาเป้าหมาย 15.800 บาท คาดราคาหุ้นตอบรับงบ Q4 ที่คาดอ่อนตัว 9%QoQ ที่ 47 ล้านบาทไปแล้ว ในขณะที่ภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้งในรอบ 5 เดือน
 
Technical View
          มีแรงซื้อกลับเด่นที่แนวรับ มองเป็นโอกาสซื้อที่แนวรับ  :  ดัชนีแกว่ง Sideway Down จากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลงตามราคาน้ำมันโลก แต่มีแรงซื้อโดดเด่นในช่วงบ่ายจากกลุ่มสื่อสารและค้าปลีกช่วยประคองดัชนี ระยะสั้นยังมองว่าดัชนีแกว่งตัวขึ้นตามกรอบ Uptrend ย่อย มองโซนแนวต้านระยะสั้นที่ 1630 ระหว่างหากผ่านได้ คาดมี Sentiment ส่งต่อ มองแนวต้านถัดไปที่ 1640 และ 1665 จังหวะ Rebound ยังมองเป็นโอกาสขายทำกำไรตามแนวต้าน เนื่องจากแนวโน้มหลักขณะนี้ยังเป็นการแกว่ง Sideway ในกรอบ 1600-1665
          กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: หาก Rebound พิจารณาแรงขายตามแนวต้าน 1630 และ 1640 หากหลุด 1615 แนะนำ Lock Profit ทั้งหมด 2) ไม่มีหุ้น: หากอ่อนตัวทดสอบแนวรับ 1615 แล้วไม่หลุด มองเป็นโอกาสสะสมหุ้น เพื่อเล่น Rebound ไปที่แนวต้าน
          แนวรับ : 1600, 1615 แนวต้าน : 1630, 1640
 
Keep an eye on…
          ปัจจัยต่างประเทศ :  31 ม.ค. ประชุม Trade war , FOMC  
          ปัจจัยในประเทศ :  ความคืบหน้าโครงการประมูล EEC 
 
หุ้นเทคนิค:
          RATCH (B 53.50-54.50, Tp 56.50/58.50, Cut 53.00)
          PTG (10.00-10.20, Tp 11.00//11.50, Cut 9.80)
 
ข่าวเด่นเช้านี้
 
BANPU ทุ่ม 300 ล้านดอลลาร์ ลุยก๊าซธรรมชาติอัพยอดพุ่ง (ทันหุ้น)
          BANPU อัดฉีดงบ 300 ล้านดอลลาร์ เดินหน้าลงทุนธุรกิจผลิตก๊าซธรรมชาติ หวังต่อยอดความสำเร็จบริหารจัดการ พร้อมมองหาโอกาสการลงทุนอัพกำลังผลิต ตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจพลังงานแบบครบวงจร
          ความเห็น : เรามีมุมมองเป็นบวกต่อการกระจายความเสี่ยงธุรกิจของ BANPU ออกจากถ่านหินไปสู่ก๊าซฯ ที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าในระยะยาว แม้ปัจจุบันถ่านหินยืนในระดับสูง เชิงปัจจัยพื้นฐาน แนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 22 บาท จาก Valuation ที่ไม่แพง อย่างไรก็ตามจากความกังวลต่อแนวโน้มราคาถ่านหินในช่วงที่เหลือของปีจะถูกกดดันจากอุปสงค์ที่อ่อนตัวหลังฤดูหนาว และอุปทานที่เพิ่มขึ้นทั้งจากประเทศจีนและอินโดนีเซีย เชิงกลยุทธ์การลงทุนเราแนะนำให้ทยอยลดน้ำหนักการลงทุน  
 
AOT รับอานิสงส์ตรุษจีน เที่ยวบิน-ผู้โดยสารทะลัก (ทันหุ้น)
          AOT คาดช่วงตรุษจีนผู้โดยสารทั้ง 6 ท่าอากาศยาน เพิ่มขึ้น 4% ไม่ต่ำกว่า 5.3 ล้านคน เที่ยวบินโต 7.2% กว่า 35,000 เที่ยวบิน จากช่วงเดียวกันปีก่อน พร้อมคาดการณ์ว่าประเทศไทยเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ที่ชาวจีนจะเดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนมากที่สุด
          ความเห็น : สัญญาณนักท่องเที่ยวจีนเดือน ธค. +2.8%YoY ฟื้นตัวครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ตามคาด คาดเพิ่มแรงหนุนเชิงบวก ผสานกับการเข้าสู่ช่วงตรุษจีน ซึ่งน่าจะช่วยให้จำนวนนักท่องเที่ยวเร่งตัวมากยิ่งขึ้น อีกทั้งคาดความคืบหน้าในการเปิดประมูล Duty Free ใหม่ในช่วงเดือน กพ. จะเพิ่มกำไรให้ AOT มากยิ่งขึ้นในช่วงถัดไป ดังนั้นยังคงแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 75 บาท เทคนิคแกว่งขึ้น ต้าน 70/72 รับ 68 บาท  
 
ส่ง 'มินิบิ๊กซี' ข้ามโขงยึด 45 สาขาลุยค้าปลีก (ประชาชาติธุรกิจ)
          บิ๊กซีลุยตลาดซีแอลเอ็มวี นำร่อง ส่งร้าน "มินิบิ๊กซี" เสียบแทน "เอ็มพ้อยท์มาร์ท" ร้านสะดวกซื้อในเครือบีเจซีที่ทำตลาดในลาวมานานวางฐานค้าปลีกแน่น หวังสร้างการรับรู้ ก่อนเตรียมส่งโมเดลเต็มรูปแบบไฮเปอร์ มาร์เก็ตข้ามโขงเข้าไปปักธง
          ความเห็น :  เป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ของ BJC ในการขยายธุรกิจค้าปลีกไปใน CLMV ทั้งในรูปแบบของร้านสะดวกซื้อ และไฮเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งคาดจะสนับสนุนการเติบโตของบริษัทในระยะยาว โดยในปีนี้จะเปิดไฮเปอร์มาร์เก็ตสาขาแรกในกัมพูชา แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 65 บาท เทคนิคลุ้นรีบาวน์ ต้านสั้น 50 รับ 48 บาท
 
HMPRO เดินหน้าธุรกิจปี 62 อวด 23 ปีกำไรโตปีละ 29% (ข่าวหุ้น)
          "HMPRO" โชว์ศักยภาพรับปี 62 โตอย่างยั่งยืน ฟุ้งตลอด 23 ปีกำไรโตเฉลี่ยปีละ 29%  มุ่ง "ปรับตัว เปลี่ยนแปลง แข็งขัน" เน้นสร้างความประทับใจ เสริมสินค้าใหม่เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ พร้อมพัฒนาช่องทางการจำหน่าย
          ความเห็น :  คาด HMPRO ยังเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพจากการบริหารจัดการที่ดี มีแบรนด์แข็งแกร่ง การขยายสาขาต่อเนื่อง อีกทั้งอัตรากำไรเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงและการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการภายในบริษัท แนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 17.20 บาท เทคนิคแกว่งขึ้น ต้าน 16 รับ 15.2 บาท  
 
'บีทีเอส' ลุยประมูลรถไฟฟ้า 3 สาย (กรุงเทพธุรกิจ)
          คาดผู้โดยสารแตะ 2 ล้านคน/วันในปี 2564 "บีทีเอส" เตรียมความพร้อมประมูลเดินรถไฟฟ้า 3เส้นทาง  คาดรัฐ เปิดขายซองมี.ค.-เม.ย.นี้ ประเมินผู้โดยสารเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แตะ 1.5-2 ล้านคนต่อวันในปี64 หนุนกำไรโตปีละ30% ช่วง 5ปีข้างหน้า
          ความเห็น :  คาดภาพรวมผลการดำเนินงานยังขยายตัวดี แรงหนุนเพิ่มเติมจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายตอนใต้เริ่มเดินรถปลายปี 61 ผสานกับกำไรจากบริษัทลูกเร่งตัวขึ้นเด่น เช่น VGI เริ่มรับรู้รายได้จาก Kerry express เต็มไตรมาสเป็นไตรมาสแรก โดยภาพระยะกลางคาดเติบโตจากโครงการภาครัฐที่ยังทยอยประมูลออกมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นแนะทยอยสะสม ราคาเป้าหมาย 12.1 บาท เทคนิคแกว่งขึ้น ต้านสั้น 10.1 รับ 9.8 บาท
 
          นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ 
          Research Department Tel. 02-658-5000

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!