- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 30 January 2019 14:54
- Hits: 3054
บล.กรุงศรี : Money Wizard
Daily Strategy
" ติดตาม FOMC และการเจรจาการค้า "
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้ปิดทรงตัว -0.98 จุด (-0.06%) ปิดที่ 1,624 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน รวมถึงแรงขายลดความเสี่ยงเพื่อติดตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC 29 - 30 ม.ค. ส่งผลให้ภาวะตลาดส่วนใหญ่เป็นการเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีประเด็นเฉพาะตัว ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,289 ล้านบาท และ Net Long TFEX 9,125 สัญญา แต่ขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 361 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index แกว่งตัว 1,615 - 1,635 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้น หลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเวเนซุเอลาซึ่งจะทำให้ไม่สามารถส่งออกน้ำมันไปต่างประเทศได้ รวมถึงรัฐสภาอังกฤษลงมติรับร่างแก้ไข Brexit ค้านแยกตัวแบบไม่มีข้อตกลงต่อ EU ซึ่งหลังจากนี้นายกฯเมย์จะกลับไปแก้ไขร่างข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่เพื่อเจรจากับผู้นำ EU ต่อไป นอกจากนี้ Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงไหลเข้าต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงขายสลับกดดันจากการชะลอซื้อ/ขายเพื่อรอผลการประชุม FOMC เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนรอบใหม่ในวันที่ 30 - 31 ม.ค.ซึ่งเป็น 2 ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อทิศทางการลงทุนในช่วงถัดไป
กลยุทธ์การลงทุน : Selective Buy
- กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO) ได้ประโยชน์เม็ดเงินที่จะสะพัดมากขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง
- STEC, AMATA, WHA ได้ประโยชน์ภาวะการเมืองปลดล็อคและวันเลือกตั้งที่ชัดเจน
- กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ครม.ขยายเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ถึงวันที่ 30 เม.ย.19 และคาดจำนวน นทท.จีนขยายตัวขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน
- หุ้น Defensive Stock ในช่วงตลาดผันผวน (BEM, BGRIM, TPIPP และ TTW)
หุ้นแนะนำวันนี้: BBL(ปิด 212 ซื้อ/เป้า 245) เรายังเลือก BBL เป็น Top pick ของกลุ่มธนาคาร จากคุณภาพสินทรัพย์ดีสุด แนวโน้มกำไรโตโดดเด่น และมีแรงกดดันจากการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายพนักงานจากกฎหมายแรงงานฉบับใหม่น้อยสุด เนื่องจากบริษัททยอยบันทึกค่าใช้จ่ายมาแล้วในช่วง 4Q18 ที่ผ่านมา, ERW (ปิด 7.2 ซื้อเก็งกำไร/เป้า 8.2) ได้ Sentiment บวกจากนักท่องเที่ยวจีนเดือน ธ.ค.18 เพิ่มขึ้น yoy เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน มองผลบวกจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจากภาครัฐจะยังหนุนให้นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีกในเดือน ม.ค.- เม.ย. 19 เลือก ERW และ AOT เป็น Top pick กลุ่มท่องเที่ยว, AMATA (ปิด 22.7 ซื้อเก็งกำไร/เป้า Consensus 27.5) คาดกำไร 4Q18 ออกมาดี จากยอดขายและยอดโอนที่สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด ขณะที่ กกต.ประกาศวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเป็นบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง อาทิ นิคมฯ และ ค้าปลีก
Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS
KSS report วันนี้ : TCAP (ปิด 53.5 ปรับเป็นถือ/เป้าใหม่ 58 จาก 63), Power Sector (Top pick : BGRIM)
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
(+/-) ประชุม Fed คืนนี้ ตลาดรอความชัดเจน 2 ประเด็น คือ 1) การส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และ 2) แนวทางการลดขนาดงบดุล : เราคงมุมมองเดิมคาดการประชุมของเฟดในคืนวันนี้จะมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5% ตามเดิม แต่สิ่งที่ตลาดให้ความสนใจอยู่ที่ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ซึ่งจะมีการชี้แจงแนวทางในการดำเนินนโยบายการเงินในปีนี้ อาทิ 1) การส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ซึ่งเฟดอาจจะลดจำนวนครั้งในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากเดิมที่เคยส่งสัญญาณว่าจะขึ้นอัตราดอกประมาณ 2-3 ครั้ง และ 2) แนวทางการลดขนาดงบดุลมูลค่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเฟดอาจจะส่งสัญญาณลดจำนวนเงินในการลดขนาดงบดุลในแต่ละเดือนลงจากเพดานสูงสุดที่ระดับ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนเป็น 3 -3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งทั้ง 2 แนวทางนับเป็นสัญญาณบวกต่อสภาพคล่องในตลาดคาดจะช่วยผลักดันให้ Fund Flow ไหลเข้าตลาดเกิดใหม่มากขึ้น
(+) Brexit ยังมีทางออก วานนี้รัฐสภาอังกฤษลงมติเห็นชอบร่างแก้ไข Brexit ค้านการแยกตัวแบบไม่มีข้อตกลง (ผลกระทบน้อยกว่า No deal) : วานนี้รัฐสภาอังกฤษเปิดให้รัฐสภาลงมติต่อร่างแก้ไขข้อตกลงเพื่อแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปตามที่สมาชิกต้องการ ซึ่งสมาชิกรัฐสภาเสนอร่างแก้ไขทั้งหมด 7 ฉบับ พบว่ารัฐสภาเห็นชอบเพียง 2 ฉบับคือร่างข้อตกลงที่ออกจากสหภาพยุโรปแบบมีข้อตกลง ขั้นตอนจากนี้เชื่อว่านางเทเรซ่า เมย์ จะนำร่างที่ผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภาไปแก้ไขในร่างข้อตกลงของนางเทเรซาร์ เมย์ จากนั้นจะให้รัฐสภาลงมติเห็นชอบอีกครั้งในวันที่ 26 ก.พ. หากไม่ผ่านการเห็นชอบคาดว่า อังกฤษจะเปิดให้เลื่อนการ Brexit ออกไปจากกำหนดเดิมในวันที่ 29 มี.ค.
(+) กลุ่มธุรกิจน้ำมัน - ราคาน้ำมันดิบ WTI ฟื้นตัว 1.3$/bbl จากข่าวสหรัฐคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันเวเนซุเอลา : ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมาเพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 53.31 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสหรัฐประกาศคว่ำบาตรเวเนซุเอล่าอย่างเป็นทางการ โดยสหรัฐประกาศคว่ำบาตรบริษัทปิโตรเลออส เดอ เวเนซุเอลา (PDVSA) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเวเนซุเอลา ด้วยการอายัดทรัพย์สินมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์ และจะทำให้เวเนซุเอลาไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบได้
นักวิเคราะห์ ปัจจัยพื้นฐาน :
อาทิตย์ จันทร์สว่าง Registration No.16475
นักวิเคราะห์ เทคนิค และ นักกลยุทธ์:
ชัยยศ จิวางกูร Registration No. 15942
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์:
ยุภาวณี เล้าตระกูลชัย
ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี