WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Mayบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
 
Market summary
          เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งผันผวนแดนบวกสลับลบ โดยมีแรงซื้อในกลุ่มธนาคาร (KBANK SCB BBL) ค้าปลีก (CPALL) ขนส่ง (BEM BTS) ขณะที่มีแรงขายในหุ้นกลุ่ม Global plays โดย ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,620.5 จุด (+3.1 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.6 หมื่นลบ. ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 6.7 หมื่นลบ.
          นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิที่ 3,876 ลบ. (กองทุนซื้อสุทธิ 1,406 ลบ.) แต่เปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิที่ 4,795 สัญญา
 
Investment theme
          เจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนยังยืดเยื้อ : เมื่อวานที่ผ่านมาถ้อยแถลงของนาย Wibur Ross รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ระบุถึงการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ยังมีความเสี่ยงหลายประเด็น เช่น ยอดขาดดุลสหรัฐฯที่สูงมาก, การที่จีนวางแผนจะครอบครองอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงในปี 2025 ส่งผลให้การเจรจาการค้า ณ ปัจจุบันยังคงห่างไกลจากการบรรลุข้อตกลง กลับมาบั่นทอนความคาดหวังของตลาดต่อการประชุม 31 มค.นี้ ส่วนประเด็น Government shutdown ยังคงยืดเยื้อเช่นกัน โดยวานนี้วุฒิสภาสหรัฐฯโหวตคว่ำร่างกฎหมายงบประมาณ 2 ฉบับ ส่งผลให้การปิดส่วนราชการบางส่วนของสหรัฐฯกินระยะเวลากว่า 35 แล้ว ถือเป็นการปิดที่ยาวนานมากสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งหากเป็นแบบนี้ต่อไปคาดจะกระทบต่ออัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ US ในปีนี้ได้  ส่วนปัจจัยในประเทศ วันนี้แนะจับตาต่อเนื่องสำหรับ กรณีโครงการประมูลรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่จะมีการเจรจากับผู้ที่เสนอราคาต่ำที่สุดในรอบที่ผ่านมา (กลุ่ม CP และพันธมิตร) ซึ่งหากทุกอย่างสามารถเดินหน้าได้จะเป็นการกระตุ้นความเชื่อมั่นต่อการลงทุนจากนักลงทุนต่างๆ มากยิ่งขึ้น เนื่องจากโครงการนี้ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สำคัญของโปรเจค EEC ซึ่งจะมีโครงการประมูลอื่นๆ ทยอยออกมาต่อเนื่อง 
          Investment Theme: เราประเมินเป้าหมาย SET สิ้นปีที่ 1,743 จุด อย่างไรก็ตามใน 1Q19 มองว่าจะเป็นช่วงที่มีความผันผวนสูงไม่ต่างจากไตรมาสที่ผ่านมา มองกรอบการแกว่งตัวบริเวณ 1,540-1,645 จุด คงคำแนะนำถือหุ้น BEM, EGCO, VGI, CPALL, BJC และทยอยสะสม  AOT 
 
Big issue
          เมื่อคืนที่ผ่านมา : ECB คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำต่อไป ยังคงมีความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ / PMI Eurozone ภาคการผลิตเดือน มค. ที่ 50.5 ลดลงจาก 51.4 และต่ำกว่าคาดที่ 51.4 จุด 
 
แบ่งผลเจรจาการค้า 3 Cases
          แบ่งผลเจรจาการค้าเป็น 3 Cases : ภายหลังการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจบลง เราคาดเร็วๆนี้ จะมีการแถลงผลการเจรจาอย่างเป็นทางการ โดยเราแบ่งผลลัพธ์เป็น 3 Cases นำโดย  1) Best case กล่าวคือยืนยันไม่ขึ้นอัตราภาษี 25% , ยกเลิกการขึ้นรอบใหม่ 2.67แสนล้านเหรียญ, ยกเลิกวงเงิน  2.5 แสนล้าน ที่มีอยู่ในปัจจุบันออก คาด SET ปรับตัวขึ้นทะลุแนวต้าน 1,645 จุด แนะซื้อ PTTEP, PSL, WICE และ 2) Base case กล่าวคือ ยืนยันไม่ขึ้นอัตราภาษี 25%, ยกเลิกการขึ้นรอบใหม่ 2.67 แสนล้านเหรียญ, แต่ยังคงภาษีวงเงินเดิม 2.5 แสนล้านเหรียญ คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,585-1,620 จุด แนะซื้อ AOT, TU และ 3) Worst case กล่าวคือขึ้นอัตราภาษี 25%, ขึ้นวงเงินภาษีอีก 2.67 แสนล้าน รวมเป็น 5.1 แสนล้านเหรียญ คาด SET เปิด Downside 1,540- จุด ซึ่งถือเป็นภาพจะส่งผลเสียต่อทั้งปัจจัยเศรษฐกิจโลก, การเมืองโลก 
          Trading idea -  CPALL (ราคาเป้าหมาย 81.0) แนวโน้มกำไร 4Q61 มีโอกาสสูงกว่าที่ตลาดประเมินไว้ จาก %SSSG ที่คาดจะสูงกว่า 3% / ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี (AOT, EGCO, BEM VGI)
 
Technical View
          เปลี่ยนจากขาลงเป็น Sideway หากอ่อนตัวไม่หลุด 1600-1610 ยังน่าสะสม:  ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มค้าปลีก ธนาคารและขนส่ง ทำให้ขณะนี้ดัชนีเปลี่ยนแนวโน้มจากขาลงเป็น Sideway ในกรอบ 1600-1660(EMA200Day) เนื่องจากดัชนีเพิ่งเริ่มต้น Break เส้น Downtrend ระยะยาว อาจมีจังหวะย่อพักตัวในระยะสั้น มองว่าหากอ่อนตัวไม่หลุด 1600-1610 ยังมองเป็นโอกาสสะสมหุ้นเพื่อลุ้นการแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1640 และ 1660 ยังคงแนะนำให้พิจารณาแรงขายตามแนวต้านเพื่อเล่นรอบเช่นเดิม
          กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound พิจารณาแรงขายตามแนวต้าน 1640 และ 1660 เพื่อขายทำกำไรเล่นรอบ แต่หหากหลุด 1610 แนะนำ Lock profit และพิจารณาแนวรับถัดไปที่ 1600  2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวหากไม่หลุดแนวรับ 1600-1610 มองเป็นโอกาสซื้อเพื่อเล่น Rebound
          แนวรับ : 1600, 1610 แนวต้าน : 1640, 1660
 
Keep an eye on…
          ปัจจัยต่างประเทศ :  แถลง Trade war
          ปัจจัยในประเทศ :  ความคืบหน้าโครงการประมูล EEC 
 
หุ้นเทคนิค:
          GFPT (B 13.50-13.80, Tp 14.50/15.00, Cut 13.30)
          CKP (4.60-4.64, Tp 4.84//5.00, Cut 4.50)
 
ข่าวเด่นเช้านี้
 
CK รับโปรเจ็กต์ สัญญาก่อสร้าง มูลค่า 779 ล้าน (ทันหุ้น)
          CK รับโปรเจ็กต์จาก BEM มูลค่ากว่า 779 ล้านบาท ในงานก่อสร้างและปรับปรุงทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานคร และงานซ่อมแซมโครงสร้างทางพิเศษศรีรัช ระยะเวลาดำเนินการ 12 เดือน
          ความเห็น : CK มีบริษัทลูก คือ BEM, CKP, TTW ซึ่งจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน และ เงินปันผล  และ ยังช่วยป้อนงานให้กับ CK  แต่มูลค่างาน 779 ล้านบาท ไม่มากนักเมื่อเทียบกับขนาด Backlog 5.5 หมื่นล้านบาท คาดหวังการประมูลงานภาครัฐในอนาคตจะช่วยเพิ่มงานในอนาคต เฉพาะเงินลงทุนในบริษัทลูก คือ BEM, CKP, TTW มีมูลค่าประมาณ 6 หมื่นล้านบาท หรือ คิดเป็น 35 บาทต่อหุ้น เราแนะนำ ซื้อในช่วงอ่อนตัว ประเมินราคาเป้าหมาย 31 บาท
 
CPALL อวดยอดขายทะลักช็อปช่วยชาติ-เลือกตั้งหนุน (ทันหุ้น)
          CPALL โบรกประเมินผลงาน Q4/2561 กำไรปกติที่ 5.6 พันล้านบาท มีรายได้กว่า 1.34 แสนล้านบาท ด้วยแรงซื้อจากผลฤดูกาล-โปรโมชั่นแสตมป์-ท่องเที่ยวโต หนุนยอดขาย SSSG ขยายตัว 3-4% จับตาปี 2562 โตต่อเนื่องจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, ช็อปช่วยชาติเฟส 2 ช่วงเทศกาลตรุษจีน บวกการจับจ่ายใช้สอยในประเทศช่วงการเลือกตั้งช่วยดัน จึงเชียร์ซื้อ ชูราคาเหมาะสม 90 บาท
          ความเห็น : กำไร 4Q61 มีโอกาสดีกว่ากว่าที่ตลาดคาดจากผลการดำเนินงานของร้านเซเว่นฯ ซึ่งคาด SSSG สูงกว่า 3% โดยได้ผลบวกจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อากาศร้อน และแสตมป์ได้รับการตอบรับดี ผลประกอบการยังมีแนวโน้มดีต่อเนื่องโดยได้อานิสงส์จากการเลือกตั้ง แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 81 บาท
 
กพช. เห็นชอบแผน PDP 2018 สิ้นปี 80 กำลังผลิตไฟฟ้าพุ่ง 7.7 หมื่นเมกะวัตต์ (ข่าวหุ้น)
          กพช. ประกาศเห็นชอบแผน PDP 2018 ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ลั่นสิ้นปี 2580 ไทยมีกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 77,211 MW ชี้ในช่วงปี 2561-2580 ปลดออกจากระบบ 25,310 MW พร้อมเติมเข้ามาใหม่แทน 56,431 MW
          ความเห็น :  เราปรับน้ำหนักลงทุนกลุ่มโรงไฟฟ้าขึ้นเป็น Overweight (จาก Neutral) หลัง กพช. อนุมัติแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (2561-2580), PDP 2018 เราเชื่อว่าแผนดังกล่าวจะหนุนให้ความน่าสนใจของกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ (IPP) จากโอกาสเติบโตในอนาคต ขณะที่การต่ออายุโรงไฟฟ้า SPP ถือข่าวเชิงบวก  EGCO ยังคงเป็น Top pick ของเรา
 
'TEAMG' รายได้ปีนี้โต 15% ลุยประมูลงานเติมแบ็กล็อก (ทันหุ้น)
          TEAMG ฉายภาพธุรกิจปี 2562 ทิศทางสดใส พร้อมตั้งเป้ารายได้โต 5-15% เตรียมรับรู้จาก Backlog ที่มีอยู่ 3,400-3,500 ล้านบาท ที่คาดว่าจะรับรู้ปีนี้ประมาณ 1,200 ล้านบาท ลุยประมูลงานเพิ่มต่อเนื่อง คาดปริมาณงานในมือปีนี้เติบโต 10% พร้อมทุ่ม 50 ล้านบาท พัฒนาระบบแอดวานซ์เทคโนโลยี
          ความเห็น :  เรามอง TEAMG เป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนของภาครัฐ มีโอกาสได้งานโครงการใหม่ๆเข้ามาเติม backlog ปัจจุบันที่ทยอยรับรู้  2-3 ปีข้างหน้า เรามองราคาหุ้นมี downside ที่จำกัด จากราคาซื้อขายอยู่บน P/E ที่ต่ำเพียง 10-11 เท่า  และมีเงินปันผลยังคงอยู่ในระดับสูง 7-8% ต่อปี ราคาเหมาะสมอิง Consensus เท่ากับ 2.5 บาทต่อหุ้น
          นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ 
          Research Department Tel. 02-658-5000

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!