- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 19 May 2014 15:03
- Hits: 3556
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้มีลุ้นการเมืองดีขึ้นแต่แนะนำให้รอซื้อช่วงลบมากกว่าซื้อไล่ราคา!
กลยุทธ์ : เนื่องจากปัญหาการเมืองไทยอาจมีโอกาสจบเร็วกว่าคาด ดังนั้นเริ่มเลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อได้บ้างช่วงตลาดปรับตัวลง แต่ยังแนะนำให้จำกัดพอร์ตไว้ก่อน เพื่อรอดูความชัดเจนของสถานการณ์การเมืองอีกครั้ง
หุ้นเด่นทางเทคนิค : MATCH, JMART, DCC(short)
แนวโน้ม : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET พลิกกลับมาบวกได้ดีตั้งแต่ช่วงสายจนกระทั่งปิดทำการ จากความคาดหวังเชิงบวกว่าผลการประชุมหาทางออกของประเทศจากว่าที่ประธาน สว. จะได้ข้อยุติ แต่หลังตลาดปิดทำการถ้อยแถลงของที่ประชุมถือว่ายังไม่ได้มีความชัดเจนมากนัก ทำให้ FSS คาดว่าเช้านี้ SET อาจมีแรงขายทำกำไรกดดันให้กลับไปแกว่งผันผวนและย้อนลงอีกครั้ง เพื่อรอดูท่าทีของรักษาการหน้าที่นายกฯ ที่นัดหมายเข้าหารือกับว่าที่ประธาน สว.ในวันนี้ก่อน ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ยังค่อนข้างไร้ทิศทาง เพราะแม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปจะปิดเป็นบวกได้จากตัวเลขด้านที่อยู่อาศัยของสหรัฐที่ยังดูดี และผลประกอบการของบริษัทเอกชนในยุโรปที่ยังแข็งแกร่ง แต่ก็เคลื่อนไหวได้ในกรอบจำกัด อย่างไรก็ตามจากการที่การชุมนุมในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาไม่ได้เกิดเหตุการณ์รุนแรงจากทั้ง 2 ฝ่าย ประกอบกับแกนนำฝ่ายต่อต้านรัฐบาลประกาศว่าถ้าสัปดาห์นี้ยังไม่ประสบความสำเร็จในการจัดตั้งรัฐบาลคนกลาง ในต้นสัปดาห์หน้าก็จะยุติการชุมนุม ซึ่งอาจทำให้ SET เริ่มมีลักษณะแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้นบ้างจากแรงซื้อเก็งกำไรในเรื่องนี้ ดังนั้นสามารถเลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อได้บ้างในช่วง SET เป็นลบ แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด
แนวรับ 1402-1397 , 1395-1390 จุด แนวต้าน 1407-1409 , 1412-1415 จุด
Fund Flow สัปดาห์ที่ผ่านมากลับมาไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาค US$1,910 ล้าน จากที่ไหลออก US$923 ล้านเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนศุกร์ที่ผ่านมายังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 โดยไหลเข้าตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$458 ล้าน อินโดนีเซีย US$184 ล้าน ไต้หวัน US$66.6 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$20.7 ล้าน และเวียดนาม US$6.8 ล้าน ยกเว้นไทยที่ไหลออก US$94 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย Flow น่าจะยังไหลเข้าต่อ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) GDP 1Q14 ของไทยมีโอกาสต่ำกว่าตลาดคาด Bloomberg consensus คาดว่า GDP 1Q14 ของไทยขยายตัว 0.5% Y-Y แต่ลดลง 2.2% Y-Y เป็นคาดการณ์ที่ค่อนข้างดีมาก จึงมีโอกาสสูงที่จะต่ำกว่าคาด แต่เราคาด -1.2% Y-Y, -2.6% Q-Q และคาดการณ์ทั้งปี +2% สำหรับการประชุมกนง.วันที่ 18 มิ.ย.นี้ จะมีการปรับลดคาดการณ์ GDP ในปีนี้อีกครั้งจากที่คาด +2.7% แต่เราเชื่อว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง
(+) จำนวนนักท่องเที่ยวเริ่มฟื้น นักท่องเที่ยวเดือนเม.ย. ซึ่งเข้าสู่ช่วง Low season มีจำนวน 2.022 ล้านคน ลดลงเพียง 1.7% Y-Y ดีขึ้นมากจากเดือนมี.ค. ที่ลดลงถึง 9.4% Y-Y โดยนักท่องเที่ยวจาก East Asia ซึ่งอ่อนไหวมาก (ยกเลิกเร็วแต่ก็กลับมาเร็ว) ลดลงน้อยกว่าเดือนก่อน แต่ชาวยุโรปและอเมริกันยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง การยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินปลายเดือนมี.ค. ทำให้สถานการณ์ท่องเที่ยวคลี่คลายอย่างรวดเร็ว สะท้อนศักยภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย Top pick ยังคงเป็น MINT (เป้าหมาย 31 บาท)
(+) SIRI บริษัทรายงานกำไรสุทธิที่สูงถึง 830 ล้านบาทใน 1Q14 มาจากกำไรจากการขายอาคารสิริภิญโญและที่ดิน 1,072 ล้านบาท หากตัดรายการดังกล่าวออก จะพลิกเป็นขาดทุน 42 ล้านบาท ผิดไปจากที่ตลาดคาดมาก เพราะมีการตั้งสำรองโบนัสพนักงาน ถ้าไม่รวมค่าใช้จ่ายนี้ จะเป็นกำไรปกติ 118 ล้านบาท (-89% Q-Q และดีขึ้นจากขาดทุน 86 ล้านบาทใน 1Q13) เรายังคงราคาเป้าหมายที่ 2 บาท และกำไรปกติในปีนี้ที่คาดโต 25% Y-Y เพราะแนวโน้มรายได้โอนจะดีขึ้นในช่วงที่เหลือ ราคาหุ้นสะท้อนผลประกอบการที่น่าผิดหวังไปแล้ว จึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ซื้อ จากเดิมถือ
(0) STANLY หากไม่รวมรายการพิเศษคือเงินประกันน้ำท่วม กำไรจากการดำเนินงานปกติใน 4Q13 (ม.ค.-มี.ค. 2014) ลดลง 18% Q-Q และ 43% Y-Y ต่ำกว่าคาด การลดลงทั้ง Q-Q และ Y-Y เป็นไปในทิศทางเดียวกับกลุ่ม เราคาดกำไรปกติปี 2014 (เม.ย. 2014-มี.ค. 2015) เติบโต 13% Y-Y โดยเชื่อว่าแนวโน้มจะดีขึ้นในครึ่งปีหลัง ยังคงแนะนำซื้อ คงราคาเป้าหมาย 240 บาท ทั้งบริษัทประกาศจ่ายปันผล 6 บาท/หุ้น (yield 2.8%) XD 9 ก.ค.
(0) TUF เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรในช่วงที่เหลือของปีนี้ตามธุรกิจทูน่าที่ดีขึ้น และธุรกิจกุ้งที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งทำให้ยังคงประมาณการกำไรปกติปีนี้เติบโตก้าวกระโดด 109% Y-Y และคงราคาเป้าหมาย 70 บาท (PE 15 เท่า) แต่ราคาหุ้นมี upside เพียง 2% คงคำแนะนำถือ
(-) BEC เราปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 50 บาทจากเดิม 52.50 บาท จากการปรับประมาณการกำไรปีนี้ลง 6% เป็น 5.03 พันล้านบาท ลดลง 10% Y-Y สะท้อนกำไรที่น่าผิดหวังใน 1Q14 เป็นกำไรที่ลดลงมากที่สุดในกลุ่ม และมากกว่ากำไรของทั้งกลุ่มที่เราคาดลดลงเฉลี่ย 5% Y-Y ขณะเดียวกัน PE อยู่ในระดับแพงที่ 20.5 เท่า คงคำแนะนำขาย เช่นเดียวกับหุ้นตัวอื่นในกลุ่มมีเดียที่เราเชื่อว่าต้นทุนและค่าใช้จ่ายของทีวีดิจิตอลจะเริ่มกดดันผลประกอบการตั้งแต่ 2Q14 เป็นต้นไป
ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาพลิกกลับมาปิดบวกได้ 45.50 จุด หลังจากร่วงแรง 2 วันก่อนหน้า โดยจากตัวเลขการสร้างบ้านที่ออกมาค่อนข้างน่าพอใจ ขณะที่ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำกว่าคาด
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดสลับมีทั้งบวกและลบ โดยตลาดแกว่งตัวตลอดทั้งวันโดยประเด็นที่นักลงทุนกังวลยังเป็นเรื่องของเศรษฐกิที่ชะลอตัว
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดเช้านี้ปรับตัวสลับมีทั้งบวกและลบ โดยตลาดหุ้นนิเคอิปรับตัวขึ้นจากตัวเลขยอดสั่งซื้อเครื่องจักรขยายตัวมากกว่าคาดมาก
ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกทางข้าง คาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-32.50 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปรับตัวขึ้น 0.52 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 102.02 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ออกมาดีเกินคาด รวมถึงความกังวลด้านอุปทานจากลิเบียลดลง
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ขยับลง 0.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,293.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงหลังแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852