- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 22 January 2019 23:22
- Hits: 3007
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบ โดยมีแรงขายเด่นใน BDMS (-8%) หลังกลต.ระบุมาตรการลงโทษผู้บริหารระดับสูง อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อเด่นใน KBANK, TU และโรงไฟฟ้า EGCO และกลุ่มโรงกลั่นอย่าง TOP, ESSO, SPRC โดย ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,588.3 จุด (+4.6 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.3 หมื่นลบ. ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.8 หมื่นลบ.
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายหุ้นไทยอีกครั้งในรอบ 8 วันทำการ ที่ 1,145.7 ล้านบาท กองทุนพลิกกลับมาซื้อสุทธิ 2,861 ล้านบาท) และเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิที่ 6,311 สัญญา
Investment theme
3ปัจจัยหลักการลงทุน (การเมืองโลก / การเงิน / เศรษฐกิจ) : ปัจจัยการเมืองโลกเป็นหนึ่งในตัวแปรกำหนดทิศทางการลงทุน เห็นได้ชัดจากปัญหาขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน นำมาซึ่งการเริ่มสงครามการค้าในปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันเรายังคงมีมุมมองเชิงลบต่อปัจจัยการเมืองโลกและเศรษฐกิจ และมีมุมมองเป็นกลาง (พลิกจากลบ) ต่อปัจจัยการเงินภายหลังเริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัวของการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐและแผนการลดขนาดงบดุลของ FED โดยลำดับถัดไป เราแนะติดตามการแถลงอย่างเป็นทางการจากฝั่งสหรัฐหลังการประชุมในวันที่ 31 ม.ค.นี้ เบื้องต้นเราคาดผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีแนวโน้มดีขึ้น ภายหลังจีนเริ่มมีท่าทีอ่อนลงด้วยการเสนอลดยอดเกินดุลการค้าต่อสหรัฐเหลือ 0 เหรียญ ใน 6 ปีจากปีที่ผ่านมา เกินดุลการค้าสหรัฐสูงกว่า 3.2 แสนล้านเหรียญ ซึ่งหากสหรัฐยอมถอยด้วยการยกเลิกภาษีในระดับมากกว่า 2.0 แสนล้านเหรียญ จะทำให้ปัจจัยเศรษฐกิจและการเมืองโลก อาจพลิกกลับมาเป็นกลาง (จากเป็นลบ) และคาดจะเป็นแรงผลักดันให้ตลาดหุ้นโลกกลับมาคึกคักอีกครั้ง
Investment Theme: เราประเมินเป้าหมาย SET สิ้นปีที่ 1,743 จุด อย่างไรก็ตามใน 1Q19 มองว่าจะเป็นช่วงที่มีความผันผวนสูงไม่ต่างจากไตรมาสที่ผ่านมา มองกรอบการแกว่งตัวบริเวณ 1,540-1,645 จุด คงคำแนะนำถือหุ้น BEM, EGCO, VGI, CPALL, BJC และทยอยสะสม AOT
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา : ก.พาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกเดือนธ.ค. ติดลบ 1.72% (ทั้งปี เติบโต 6.7%) / จีนรายงาน GDP ไตรมาสสี่เท่ากับตลาดคาดที่ 6.4%YoY รวมทั้งปี เติบโต 6.6% / IMF ปรับประมาณการณ์ GDP โลกปี 2019 ลงเหลือ 3.5% (จาก 3.7%)
แบ่งผลเจรจาการค้า 3 Cases
แบ่งผลเจรจาการค้าเป็น 3 Cases : ภายหลังการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจบลง เราคาดเร็วๆนี้ จะมีการแถลงผลการเจรจาอย่างเป็นทางการ โดยเราแบ่งผลลัพธ์เป็น 3 Cases นำโดย 1) Best case กล่าวคือยืนยันไม่ขึ้นอัตราภาษี 25% , ยกเลิกการขึ้นรอบใหม่ 2.67แสนล้านเหรียญ, ยกเลิกวงเงิน 2.5 แสนล้าน ที่มีอยู่ในปัจจุบันออก คาด SET ปรับตัวขึ้นทะลุแนวต้าน 1,645 จุด แนะซื้อ PTTEP, PSL, WICE และ 2) Base case กล่าวคือ ยืนยันไม่ขึ้นอัตราภาษี 25%, ยกเลิกการขึ้นรอบใหม่ 2.67 แสนล้านเหรียญ, แต่ยังคงภาษีวงเงินเดิม 2.5 แสนล้านเหรียญ คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,585-1,620 จุด แนะซื้อ AOT, TU และ 3) Worst case กล่าวคือขึ้นอัตราภาษี 25%, ขึ้นวงเงินภาษีอีก 2.67 แสนล้าน รวมเป็น 5.1 แสนล้านเหรียญ คาด SET เปิด Downside 1,540- จุด ซึ่งถือเป็นภาพจะส่งผลเสียต่อทั้งปัจจัยเศรษฐกิจโลก, การเมืองโลก
Trading idea - วันนี้แนะย่อตั้งรับกลุ่ม Big Caps ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี (AOT BEM EGCO CPF CPALL) และ กลุ่มปันผลสูง (LH, SCCC, RATCH, MAJOR)
Technical View
ไม่ผ่านแนวต้าน 1595 ระยะสั้นอาจอ่อนตัวทดสอบแนวรับ 1580/1570: แรงขายกดดันต่อเนื่องจากหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล แม้จะมีแรงซื้อช่วยในกลุ่มพลังงาน แต่ดัชนียังคงไม่สามารถผ่านแนวต้านระยะสั้นที่ 1595 ได้อย่างเด็ดขาด ประกอบกับขณะนี้ Modified Stochastic ในกราฟ 60 นาทีเข้าเขต Overbought ทำให้คาดว่าในระยะสั้นดัชนีจะมีแนวโน้มอ่อนตัวลง มองแนวรับที่ 1580 และ 1570 แนะนำรอสะสมหุ้นตามแนวรับดังกล่าว เพื่อเล่น Rebound ขายทำกำไรในระยะสั้นตามแนวต้านต่างๆ
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: หากหลุด 1580 มองเป็นโอกาสขายทำกำไรในระยะสั้น แล้วกลับไปรอดูแนวโน้มที่แนวรับ 1570 หรือหาก Rebound ไปขายตามแนวต้าน 1595 และ 1605 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวหากไม่หลุดแนวรับ มองเป็นโอกาสซื้อเพื่อเล่น Rebound
แนวรับ : 1570, 1580 แนวต้าน : 1595, 1605
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ : แถลง Trade war / การปลดล็อก Gov Shutdown
ปัจจัยในประเทศ : จับตารัฐบาลแถลงประเด็นการเลื่อนการเลือกตั้ง, จับตา กพช.หารือ 24 ม.ค. / แหล่งข่าวระบุ กกต.เตรียมประกาศวันเลือกตั้งไม่เกิน 26 ม.ค.
หุ้นเทคนิค:
GLOBAL (B 17.00-17.40, Tp 18.20//19.00, Cut 16.60)
GULF (82.00-83.00, Tp 86.50//89.00, Cut 81.00)
ข่าวเด่นเช้านี้
SIRI โชว์แบ็กล็อก 6.4 หมื่นล้าน จับมือ 'ออมสิน' ออกสินเชื่อ HomeForLife (ข่าวหุ้น)
"แสนสิริ" ตุนแบ็กล็อกเต็มมือ 64,000 ล้านบาท จ่อบุ๊กปี 62 ประมาณ 17,000 ล้านบาท พร้อมเร่งระบายสต๊อกมูลค่า 10,000 ล้านบาท ในไตรมาส 1/62 ล่าสุดออกแคมเปญ "โปรหมดเปลือก" และจับมือ "แบงก์ออมสิน" ออกสินเชื่อ "HomeForLife" เพื่อกระตุ้นยอดขายต้นปี
ความเห็น : ในปี 2561 SIRI ทำ Presales ได้ 48,328 ล้านบาท (+25% YoY) ใกล้เคียงเป้าที่ตั้งไว้ที่ 50,000 ล้านบาท และมี backlog ที่รอบันทึกรายได้ในปี 2562 ที่ 7,890 ล้านบาท และส่วนจาก JV ที่ 7,851 ล้านบาท เราคาดทิศทางผลประกอบการของ 4Q61 จะเด่นที่สุดของปี แต่ในปี 2561 คาดรายได้ 27,590 ล้านบาท (-10.8% YoY) และคาดกำไรสุทธิของปีนี้อ่อนตัว 4.2% เท่ากับ 2,666 ล้านบาท คงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 1.62 บาท/หุ้น เทคนิคแกว่งในกรอบ 1.23-1.30 บาท
PTTEP ลุ้นปี 61 โตเท่าตัว ฟันกำไรเฉียด 4 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น)
PTTEP มีลุ้นไตรมาส 4/61 อวดกำไรสุทธิ 12,172 ล้านบาท โต 29% ขานรับราคาขายก๊าซพุ่ง-ปริมาณขายก๊าซโต หนุนกำไรสุทธิทั้งปี 61 เพิ่มขึ้นเฉียด 4 หมื่นล้านบาท โตเกือบเท่าตัว โบรกฯ เชียร์ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 151 บาท/หุ้น
ความเห็น : ข่าวนี้สอดคล้องกับรายงานที่เรานำเสนอไปก่อนหน้าต่อประเด็นผลประกอบการ 4Q61 จะทำจุดสูงสุด ของปี เท่ากับ 11,804 ล้านบาท (+50.7% YoY, +22.35% QoQ) ตลาดจะค่อยๆ กลับเข้าสู่สมดุลใหม่ หลังการปรับลดการผลิตของกลุ่ม OPEC+ ใน 1Q62 คงคำแนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 152 บาท เทคนิคแกว่งขึ้น ต้าน 130 รับ 125 บาท
'ATP30' เจาะนิคมหนุนธุรกิจ ดีลลูกค้าเพิ่ม-ปั๊มมาร์จิ้นสูง (ทันหุ้น)
บอสใหญ่ ATP30 "ปิยะ เตชากูล" กางแผนงานปี 2562 ปักหมุดลูกค้ากลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ตั้งเป้ารายได้โต 10% เร่งเครื่องปั๊มมาร์จิ้น กดต้นทุนในองค์กรลดฮวบ เชื่ออัตรากำไรขั้นต้นวิ่งชน 27% เผยเตรียมให้บริการลูกค้าใหม่กุมภาพันธ์นี้ ถอยรถรอบริการ 10 คัน ด้านโบรกเชื่อการเติบโตระยะยาวยังแจ่ม เคาะพิกัด 2.40 บาท
ความเห็น : เราเชื่อว่าทิศทางกำไรของบริษัทจะทำ all time high ต่อไปได้เรื่อยๆ จากการเป็นธุรกิจแบบ new economies ซึ่งแม้ว่าจะสวนทางกับราคาหุ้นเนื่องจากตลาดยังให้น้ำหนักกับหุ้นขนาดใหญ่ แต่เราเชื่อว่าในระยะยาวราคาหุ้นจะกลับมาได้ตามกำไร แนะนำสะสมซื้อ เป้าหมาย 2.32 บาท เทคนิค สร้างฐานในกรอบ 1.46 ต้าน 1.55 บาท
"พาณิชย์" เล็งเลิกคุมนำเข้าปลาทูน่า ให้กรมประมงดูแลแก้ปัญหาซ้ำซ้อน (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา)
กรมการค้า ต่างประเทศเตรียมยกเลิกประกาศ คุมนำเข้าปลาทูน่าชนิดครีบเหลือง และผลิตภัณฑ์ หลัง ครม.ไฟเขียว ให้เลิกคุม เพื่อลดความซ้ำซ้อนใน การบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานภาครัฐให้อยู่ภายใต้กฎหมายของ กรมประมงเพียงแห่งเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ
ความเห็น : ส่วนใหญ่ TU นำเข้าปลาทูน่าสายพันธุ์ Skipjack มากกว่า Yellow Fin อย่างไรก็ดี คาดเป็นบวกเล็กน้อยต่อ TU ในด้านลดความซ้ำซ้อนทางกฏหมาย ขณะที่ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตดีจากต้นทุนวัตถุดิบปลาทูน่าลดลง แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 21.70 บาท เทคนิคสวยแกว่งขึ้น ต้านสั้น 18.5/19.0 รับ 18 บาท
ลุยสายสีส้มบางขุนนนท์-มีนบุรี บอร์ด PPP ไฟเขียวลงทุน 2.35 แสนล้าน (แนวหน้า)
นางปานทิพย์ ศรีพิมล ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการ PPP เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2562 มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
ความเห็น : รูปแบบโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเป็นแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐลงทุนค่างาน จัดกรรมสิทธิ์ที่ดินส่วนตะวันตก และ ภาคเอกชนลงทุนค่างานโยธาโครงการส่วนตะวันตก และค่างานระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถไฟฟ้า บริหารการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาทั้งเส้นทาง มีระยะเวลาเดินรถ 30 ปี ขั้นตอนต่อไปจะต้องผ่านมติ ครม. แล้ว รฟม. จะออก TOR คาดยังใช้เวลา เราให้น้ำหนักกลุ่มรับเหมาเท่าตลาด
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000