WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เคเคเทรด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

HIGHLIGHT ลุ้นผลการหารือรักษาการนายกฯ-ประธานวุฒิสภา ถ้าไม่คืบหน้ามีโอกาสหมุนลงอีกครั้ง
SET View
   ประเด็นหลักวันนี้ ในทางเทคนิคแนวโน้มของ SET ในช่วงต้นสัปดาห์ยังคงมีโอกาสแกว่งตัวเหนือแนว 1-3 ของเส้น Speed Line บริเวณ 1,375 จุดได้ โดยจะมีปัจจัยหนุนจากความเป็นไปได้ที่รักษาการนายกรัฐมนตรีจะมีการหารือกับรักษาการประธานวุฒิสภาในระยะเวลาอันใกล้นี้ อย่างไรก็ดีเรามองการดีดตัวขึ้นในช่วงสั้นของ SET ยังคงมีความเสี่ยง เนื่องจากเรายังคงมองไม่เห็นจุดร่วมที่จะทำให้ฝ่ายรัฐบาล, วุฒิสภา, องค์กรอิสระ และผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่ายเห็นผองต้องกัน ดังนั้นข้อสรุปที่ออกมาจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อาจนำไปสู่ความเสี่ยงทางการเมืองในรูปแบบใหม่ขึ้นมาได้ นอกจากนี้จากท่าทีของกองทัพฯที่ออกมา ทำให้ในกรณีที่มีความรุนแรงเกิดขึ้นอีก อาจนำไปสู่การประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงที่เข็มข้นอย่างกฎอัยการศึก ซึ่งในทางสถิติตั้งแต่ตลาดหุ้นไทยก่อตั้งขึ้นมีการประกาศใช้กฎอัยการศึก 3 ครั้ง (2519, 2534 และ 2549) พบว่าโดยเฉลี่ย 1 วันและ 1 สัปดาห์ หลังการประกาศใช้ SET ปรับตัวลง 2.8% และ 0.8% ตามลำดับ ดังนั้นสำหรับแนวโน้มระยะ 1 เดือน ตราบใดที่ SET ยังกลับไปปิดเหนือ 1,410 จุดไม่ได้ SET ยังมีโอกาสลงไปแกว่งตัวในกรอบ 1,330-1,300 จุดในช่วงที่เหลือของ พ.ค.2557
  ประเด็นการเมืองจะเป็นปัจจัยกดดันสำคัญให้ตลาดหุ้นไทยยังคงไม่ได้รับปัจจัยหนุนจากทิศทางของกระแสเงินที่ไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นโลก และภูมิภาคอีกครั้งมากเท่าที่ควร สะท้อนออกมาจากการที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (8-14 เม.ย.2557) มีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นโลกราว 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์ โดยเป็นการไหลเข้าทั้งในส่วนของตลาดหุ้นสหรัฐ, ยุโรป, ญี่ปุ่น และตลาดเกิดใหม่ ขณะที่ในส่วนของตลาดหุ้นในกลุ่ม TIP โดยรวมมีกระแสเงินทุนไหลเข้าราว 190 ล้านดอลลาร์ แต่เป็นการไหลเข้าเฉพาะตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ราว 176 และ 68 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยมีกระแสเงินทุนไหลออกสวนทางออกมาราว 54 ล้านดอลลาร์
   กลยุทธ์การลงทุน การลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) กรณีที่ SET ยังกลับไปปิดเหนือ 1,410 จุดไม่ได้ แนะนำ “ ดีดขึ้นขาย” กลับมาถือเงินสด 100% ขณะที่การลงทุนระยะกลาง (3-6 เดือน) แนะนำ “รอเพิ่มพอร์ตหุ้น” จากเดิม 50% มาเป็น 75% ในกรอบ 1,330-1,300 จุด โดยยังคงเน้นหุ้นกลุ่ม “Value Investing” ได้แก่ AP, SIRI, HEMRAJ, AAV, MAJOR, ESSO และ SAMART

 

Stock Picks
      SIM (+) ราคาหุ้นในปี 2557 ปรับตัวลดลง 0.6% YTD ถือว่า Laggard มาเมื่อเทียบกับหุ้นแม่อย่าง SAMART และกลุ่มสื่อสารที่ปรับตัวขึ้น 37.8% และ 15.6% YTD ตามลำดับ ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2Q57 ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากใน 1Q57 ตามยอดขายเครื่องโทรศัพท์ที่เพิ่มขึ้น และการเปิดตัว Smart phone ใหม่ 7 รุ่น ราคาเครื่องเฉลี่ย 3-8 พันบาท ขณะเดียวกัน SIM มีจุดแข็งจากการมีช่องทางจำหน่าย และตัวแทนจำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศ นอกจากนี้เราคาดว่าธุรกิจ MVNO จะเริ่มพลิกกลับมาเป็นกำไรในปีนี้ ประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 5.20 บาท แนะนำ “ซื้อ”
      CK (+) เราประเมินว่าราคาหุ้นในปัจจุบันสะท้อนความเสี่ยงจากความล้าช้าของโครงการภาครัฐไปแล้ว ขณะที่ในเชิงของผลการดำเนินงานบริษัทยังคงระดับรายได้เฉลี่ยได้ที่ราว 7.5-8.5 พันล้านบาทต่อไตรมาส และอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 10% ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ราว 1 แสนล้านบาท และในปี 2557 บริษัทอยู่ระหว่างรอการเซ็นสัญญามูลค่า 2 หมื่นล้านบาท จากโครงการโรงไฟฟ้า และเขื่อนน้ำบาก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนรายได้ในอนาคตให้มีความต่อเนื่อง แม้ว่าจะยังไม่ได้รับงานจากรัฐบาลก็ตาม ประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 22.44 บาท แนะนำเพียง “ซื้อ”

 

Technical Plays
      ดัชนี หุ้นเมื่อวันก่อนปิดบวกยืนเหนือระดับ 1395 จุด (เส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน) เป็นรูปแบบขาขึ้นระยะสั้น คาดว่าดัชนีหุ้นจะแกว่งตัวในกรอบ 1400-1410 จุด กลับมาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน ราคายังมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นต่ออีก 1-2 วัน แนวต้านหลัก 1425 จุด

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!