- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 17 January 2019 15:04
- Hits: 3821
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
บวกกรอบแคบๆ ต่อไป
KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ ไซด์เวย์/บวกแคบๆ ต่อไป... หลังเมื่อวานนี้กระชากแรงทั้งลง-ขึ้น ก่อนปิดทรงๆ ตัว (ใกล้เคียงที่ประเมินไว้)... โดยเรามองว่า SET Index น่าจะยังอ่อนแอกว่าตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากแม้ว่าปัจจัยต่างประเทศดูดีขึ้น แต่ปัจจัยในประเทศยังมีความไม่แน่นอนอยู่ในช่วงสั้นๆ ทั้งนี้ในส่วนของต่างประเทศนั้น i) สถาบันการเงินขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ เช่นโกลด์ แมน แซค และแบงก์ ออฟ อเมริกา รายงานกำไรไตรมาส 4/2561 สูงกว่าที่ consensus คาดการณ์ และหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ และ ii) ในฝั่งอังกฤษ นายกฯ เทเรซา เมย์ รอดพ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้เมื่อคืนนี้ และจะเริ่มเจรจากับนักการเมืองอังกฤษเพื่อหาแผนสอง (Plan B) ของ Brexit ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยุโรปแถลงแล้วว่าพร้อมเลื่อนเส้นตายของ Brexit ออกไปจากเดิม ณ 29 มี.ค. 2562 สะท้อนการประนีประนอมของทั้ง 2 ฝ่าย อย่างไรก็ดีปัจจัยภายในยังไม่ชัดเจนนัก ตลาดจับตางบไตรมาส 4/2561 ของกลุ่มธนาคารซึ่งจะคึกคักในวันพรุ่งนี้และวันจันทร์หน้า ท่ามกลางความกังวลของการลดประมาณการกำไร (EPS revision) ของตลาดหุ้นไทย โดยนับจากต้นปี 2562 consensus ได้ปรับลด EPS ปี 2562 แล้ว 1.2% สู่ 114.7 --- อย่างไรก็ดีประมาณการดังกล่าวต่ำกว่า EPS ปี 2562 ของฝ่ายวิจัย KGI ซึ่งประเมินอยู่ที่ 117.0
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร SCCC, MEGA*
SCCC (เป้าพื้นฐาน 304 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 216 บาท / แนวต้าน 226 บาท และถัดไป 240 บาท (Stop loss 204 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน Preview ผลประกอบการ SCC* ประเมินธุรกิจปูนซีเมนต์จะเป็นธุรกิจเดียวของ SCC* ที่มีกำไรเติบโตเด่น +7% QoQ และ +38% YoY (ธุรกิจปิโตรเคมีอ่อนแอ, ธุรกิจกระดาษโต YoY แต่ทรง QoQ) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานของ SCCC (ที่ทำธุรกิจปูนซีเมนต์) จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับธุรกิจปูนซีเมนต์ของ SCC*
MEGA* (เป้าพื้นฐาน 35 บาท) 1) หากทะลุผ่านแนวต้าน 29.5 บาทไปได้ แนะนำ "เก็งกำไรตาม" โดยประเมิน MACD และ RSI ยกจุดต่ำสุดขึ้นก่อนราคาหุ้น (Bullish divergence) มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 32.5 บาท / แนวรับ 28.5 บาท (Stop loss 28 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไรจะโตเฉลี่ย +13% ต่อปี CAGR 2561 - 63 โดยคาดแนวโน้มความต้องการสินค้าเพื่อสุขภาพในประเทศกำลังพัฒนายังเติบโตได้ดี (โดยเฉพาะที่ MEGA* ลงทุนไว้ที่พม่าและเวียดนาม คาดจะโตเด่น) 3) ราคาหุ้นที่ปรับลงสะท้อนความกังวลเรื่องอัตราการเติบโตของกำไรในปี 2561 ที่ชะลอตัวไปพอสมควรแล้ว โดย PE ปี 2562 ลดลงเหลือ 20 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ +25 เท่า)
หุ้นเชิงปริมาณ & พื้นฐาน "Quantamental"
หุ้นเด่น Quantamental: ทยอยเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้น หุ้นเด่น CPF* (Stop loss 24 บาท), KTB* (Stop loss 19.0 บาท), TASCO* (Stop loss 13.6 บาท) และ ASK (Stop loss 23.1 บาท) ... อย่างไรก็ดีสถานการณ์การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังต้องจับตา อาจส่งผลต่อประมาณการฯ ปี 2562 ได้
หุ้นมีข่าว
(0 โรงกลั่น / + น้ำมันปาล์ม เช่น GGC, UVAN, OCEAN) ธพ.เร่งถก 6 โรงกลั่นน้ำมัน หนุนใช้ยูโร 5 แก้ปัญหาฝุ่น (ไทยโพสต์) ธพ.ถก 6 เอกชนกลั่นน้ำมัน ทำแผนปรับปรุงโรงกลั่นภายใต้มาตรฐานยูโร 5 กำหนดให้สรุปสัปดาห์หน้า พร้อมเผยยอดใช้ บี20 จ่อทะลุเป้า 10 ล้านลิตร ลุยกำหนดสเปก ก่อนเตรียมเปิดหัวจ่ายตามปั๊มทั่วไป
(+) คลังจ่อเพิ่มทุนควบ TMB* 'สศค.' ชี้ต้องจ่ายเพื่อรักษาสัดส่วนหุ้นใหญ่ (กรุงเทพธุรกิจ) ที่ปรึกษาเร่งเอ็มโอยูดันรวมธนชาตเสร็จก่อนเลือกตั้ง สศค.หนุนควบรวมกิจการทหารไทยกับธนชาต ระบุช่วยลดต้นทุนเพิ่มความแข็งแกร่ง เผยคลังใส่เงิน เพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้น ด้านที่ปรึกษาการเงินเร่งสรุปเอ็มโอยู ควบกิจการ ก่อนเสนอแผนให้รมว.คลังแบงก์ชาติเห็นชอบ และส่งครม.อนุมัติให้แล้วเสร็จก่อนเลือกตั้ง
(+) นักลงทุนผวาเกณฑ์จัดหนี้ป่วนหุ้น MTC* - SAWAD* (กรุงเทพธุรกิจ) หุ้นลิสซิ่งร่วงหนัก หลัง 'ทิสโก้' ประกาศจัดชั้นลูกหนี้ใหม่ หวั่นลามกระทบอุตฯ ด้านผู้บริหาร "เมืองไทยฯ - ศรีสวัสดิ์"ยืนยันไม่จำเป็นต้องปรับชั้นลูกหนี้ใหม่ทำตามเกณฑ์ธปท. เหตุตามทวงหนี้รัดกุมเพียงพอ และพอร์ตลูกค้าปกติสูงถึง 90% ไร้กังวล เอ็นพีแอล
(-) สหภาพกทพ. ค้านหัวชนฝา ชี้ควรจ่ายหนี้แค่คดีที่สิ้นสุด (ข่าวหุ้น) สหภาพแรงงาน "กทพ." ยื่นหนังสือค้านต่อสัญญาทางด่วนให้ BEM* อีก 37 ปี แลกยุติทุกข้อพิพาท ชี้กทพ.ควรชำระหนี้แค่คดีที่ศาลพิพากษา 4,300 ล้านบาท ไม่ควรนำคดีที่ยังไม่สิ้นสุดมาคิดรวมแล้วต่อสัมปทานให้ BEM* ฟาก "อาคม" ส่งไม้ต่อให้คณะกรรมการกำกับโครงการฯพิจารณาข้อดี-ข้อเสียประกอบ ขณะที่บอร์ดกทพ.ถก 23 ม.ค.นี้
(+) RML ทุ่มหมื่นล้านปั้น3ธุรกิจหนีอสังหาฯซบ (กรุงเทพธุรกิจ) "ไรมอนแลนด์" ปรับโครงสร้างธุรกิจหนีอสังหาฯ ชะลอ บุก 3 ธุรกิจ ออฟฟิศให้เช่า โรงแรม ศูนย์สุขภาพ เพิ่มรายได้ ประจำ 1.3 หมื่นล้านใน 5 ปี เตรียมงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้าน 5 ปี ซื้อโรงแรม สร้างอาคาร ลงทุน ศูนย์สุขภาพ ปั้นศูนย์เจริญพันธุ์ รองรับคนจีนมีบุตรยาก
(+) LH* เล็งผุดแนวราบ 16 โปรเจ็กต์ มั่นใจ 62 กวาดทะลุ 33,000 ล. (ไทยโพสต์) แลนด์แอนด์เฮ้าส์กางแผนปี 62 ทุ่มงบลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท จ่อผุดแนวราบ 16 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 29,960 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าสิ้นปีมียอดขายรวม 33,000 ล้านบาท
(+) TQM ฟันธงปีนี้เบี้ยรถดันโบรกฯโต (โพสต์ทูเดย์) ทีคิวเอ็มคาดประกันภัยรถรุ่งตามยอดขายรถ พร้อมเพิ่มช่องทางขายใหม่ผ่านไลน์
(+) IVL* ทุ่ม 2.5 พันล.เข้าเทกโอเวอร์กิจการอินเดีย (โพสต์ทูเดย์) IVL* ใช้งบ 2,500 ล้าน ซื้อหุ้น-ทำเทนเดอร์ฯ Indo Rama Synthetics (India) ผู้ผลิตชั้นนำในผลิตภัณฑ์โพลี เอสเตอร์ต่างๆ ในประเทศอินเดีย
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
CPALL* (เป้าพื้นฐาน 90 บาท) ประเมินแนวรับ 74 บาท / แนวต้าน 76 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 73 บาท)
RS* (เป้าพื้นฐาน 20.7 บาท) ประเมินแนวรับ 15 บาท / แนวต้าน 15.7 บาท และ 16.8 บาท (Stop loss 14.7 บาท)
COM7* (เป้าพื้นฐาน 26 บาท) ประเมินแนวรับ 12.4 บาท / แนวต้าน 14 บาท (Stop loss 12 บาท)
CENTEL* (เป้าพื้นฐาน 45.5 บาท) ประเมินแนวรับ 38 บาท / แนวต้าน 41.25 บาท (Stop loss 38 บาท)
BGRIM* (เป้าพื้นฐาน 31 บาท) ประเมินแนวรับ 27.25 บาท / แนวต้าน 29 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 27.25 บาท)
KTB* (เป้าพื้นฐาน 22.4 บาท) ประเมินแนวรับ 19.9 บาท / แนวต้าน 20.6 บาท (Stop loss 19.2 บาท)
EGCO* (เป้าพื้นฐาน 280 บาท) ประเมินแนวรับ 246 บาท / แนวต้าน 255 บาท (Trailing Stop ล๊อกกำไร 246 บาท)
CK* (เป้าพื้นฐาน 30 บาท) ประเมินแนวรับ 24.5 บาท / แนวต้าน 26 บาท (Stop loss 24.5 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลุ่ม Non-bank "Under review" อยู่ระหว่างทบทวนน้ำหนักการลงทุน แม้ฝ่ายวิจัยฯยังคงประเมินแนวโน้มกำไร 4Q61 ของกลุ่มยังโดดเด่น (ออกบทวิเคราะห์วันที่ 9 ม.ค.) แต่สำหรับในระยะต่อไป จะมีประเด็นเรื่องกฎหมายคุมธุรกิจ Non-Bank ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภา/คณะรัฐมนตรี และการมีธุรกิจ non-bank เข้ามาจดทะเบียนใน SET เพิ่มขึ้นในปี 2562 ซึ่งจะทำให้การแข่งขันในธุรกิจนี้เข้มข้นมากขึ้น และเนื่องจากความไม่แน่นอนในประเด็นนี้ ทำให้ยังคงชอบหุ้นที่มี risk profile ต่ำอย่างเช่น KTC* และ MTC*
AOT* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 82.12 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 1Q62 (ต.ค.-ธ.ค.61) = 6.55 พันล้านบาท (+5.4% YoY, +24.9% QoQ) เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารชาวจีนฟื้นตัวดีขึ้น นอกจากนี้ AOT* ตั้งเป้าจะออก TOR เพื่อเปิดประมูลพื้นที่เพื่อการพาณิชย์ (terminal หลัก 31,000 ตรม. และ satellite terminal อีก 7,000 ตรม.) ภายในเดือน ก.พ. 2562 และจะมีการเปิดประมูลผู้ประกอบการเคาน์เตอร์รับสินค้าในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปี 2563 สำหรับ Upside ต่อประมาณการฯของฝ่ายวิจัยฯคือ โอกาสในการปรับขึ้นภาษีสนามบิน (Passenger Service charge: PSC)
SEAFCO แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 12 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 4Q61 = 103 ล้านบาท (+54.5% YoY, -1.9% QoQ) ผลจากการรับรู้รายได้โครงการ One Bangkok แต่กำไรเริ่มทรงตัว QoQ เพราะถึงขีดจำกัดของ Capacity แล้ว
PYLON แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 8.4 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 4Q61 = 66 ล้านบาท (+151.2% YoY, +11.2% QoQ) ผลจากการรับรู้รายได้โครงการ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง และประเมินอัตรากำไรขั้นต้นขยับขึ้นจากสัดส่วนงานมาร์จิ้นต่ำลดลง