SET ฟื้นตัวช่วงบ่ายปิด +0.03% ที่ 1,577.41 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อวันที่ 5 ติดต่อกัน 1.8 พันล้านบาท

 

SET แกว่งตัวย่ำฐานบริเวณแนวรับ 1,575 +/- จุด เพื่อปรับสูงขึ้นต่อในระยะสัปดาห์คงเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,630 จุด มอง 1) การประชุมFed ปลายเดือนนี้ ส่งสัญญาณ “หยุด Hawkish” ไม่ขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 2ครั้งปีนี้ หนุนเงินทุนไหลเข้า EM และไทย ล่าสุดต่างชาติซื้อสุทธิ 5 วันติดต่อกัน 2) Valuation ของ SET ที่ earnings yield gap 4.5-5.0% ใกล้จุดต่ำสุดปลายปี 2015

 

ทำอะไรดี: 1.เราแนะนำ “ขาย” TU (TP 15.3 บาท) แม้คาดกำไรปีนี้จะฟื้นตัว 17% จากฐานต่ำในปีก่อน แต่จากธุรกิจ seafood ในยุโรป-สหรัฐฯ ที่เป็นธุรกิจหลักอยู่ในภาวะอิ่มตัวแล้ว ชอบ CPF (TP 29.0 บาท) มากกว่า

2. “ซื้อ” TISCO (TP 95 บาท) มองราคาหุ้นปรับลดลงจากความกังวลต่อการนักเกณฑ์ NPL เปลี่ยนไป ไม่ได้กระทบพื้นฐาน รับปันผล 7.3% ในอีก3-4 เดือนข้างหน้า ขณะที่ KTC (TP 40 บาท) ปรับลดลงตามกลุ่ม MicroFinance มาที่ PE19 11.8x และคาดกำไร 2018 จะเติบโตสูง 55%3. “ซื้อ” Consumption Play อย่าง CPALL และ CPN ต่อ

 

แนะนำ “ถือ” AMATA CPALL COM7 CPN HMPRO EA RS ROBINS STEC และ WHA (ไม่เปลี่ยน)

TU: “ขาย” พื้นฐาน 15.3 บาท (เดิม 16 บาท)...เราไม่ได้เปลี่ยนมุมมอง “ขาย” ต่อ TU แม้ราคาทูน่าที่อ่อนตัวลงจะเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นต่อกำไรก็ตาม และกำไรปีนี้จะเติบโต 17%เนื่องจากฐานที่ต่ำในปีก่อน แต่ภาพระยะยาวเรามองธุรกิจอาหารทะเลซึ่งเป็นรายได้หลัก 79% ในตลาดสหรัฐฯ-ยุโรปค่อนข้างอิ่มตัว และการผลักต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปให้ผู้บริโภคทำได้จำกัด คงคำแนะนำ “ขาย” ที่ PE19 14.9x ยังไม่น่าสนใจ

 

นายกฯอังกฤษ: “รอด” การมติไม่ไว้วางใจ และจะนำเสนอแผนBrexit ฉบับใหม่ต่อสภาฯไม่เกิน 21 ม.ค.นี้ โดยเรามองมีโอกาสที่การออกจาก EU ของอังกฤษจะ “ล่าช้า” ออกจากกำหนดเดิม(ดู scenario หน้า 2)

เลือกตั้ง: คาด กกต.จะสามารถประกาศวันเลือกตั้งได้ภายใน25 ม.ค.นี้ และเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถจัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 10 มี.ค.นี้

ยังมี Momentum ส่งขึ้นต่อ: (The Technical Story)

SET ฟื้นตัวขึ้นปลายตลาด มีด่านการรีบาวด์ที่ 1,586 จุด ทะลุได้มีโอกาสกลับขึ้นทดสอบ 1,600+/- จุด ส่วนแนวรับมีที่ 1,575 จุด หากยืนไม่อยู่อาจถอยกลับลงไปที่ 1,565 จุด

 

TOP เข้าซื้อ เป้าหมาย 71 / 74

BH เข้าซื้อ เป้าหมาย 185 / 189

GULF เข้าซื้อที่ 82.25 เป้าหมาย 85 / 86.50

Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)

“รอเปิด” Long S50H19 หากทะลุ 1,054 เป้าหมาย 1,071 / 1,090

“Long” Block CPALL เป้าหมาย 75.00 / 77.50...Leverage 16x

TradeCode: Buy > MINT, TOA, S

Tactical Portfolio: Tactical Portfolio สัปดาห์ก่อน (8-14 ม.ค.) ให้ผลตอบแทน +0.2% ดีกว่า SET ที่ให้ผลตอบแทน -0.6% โดยหุ้นกลุ่มค้าปลีกให้ผลตอบแทนสูงกว่า SET อย่าง ROBINS +4.2%, RS +2.6% และCPALL +2.1% ขณะที่หุ้นกลุ่มนิคมฯ และรับเหมาฯ พักฐานในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้เรามองการแกว่งตัวระยะสั้นของตลาดไม่น่ากลัว และเป็นการสร้างฐานเพื่อปรับสูงขึ้นต่อในระยะสัปดาห์ ด้วย valuation ปัจจุบันอยู่ในโซนถูก ขณะที่ประเด็น Brexit มองมีโอกาสเห็นการ “เลื่อน” ออกจากกลุ่มEU ออกไปมากกว่าการออกจาก EU แบบ “No Deal” ทั้งนี้เราไม่มีการปรบัTactical Portfolio ในสัปดาห์นี้ We expect Brexit to “Delay

 

 AMATA: ได้ประโยชน์โดยตรงจากนโยบาย EEC ของรัฐบาล และมูลค่าไม่เเพง

 AOT: ได้ประโยชน์ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวและการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ปีหน้า

 CPALL: ธุรกิจ 7-11 ที่ขยายสาขาต่อเนื่อง มีอำนาจต่อรองสูง และเสนอสินค้าและบริการเข้าถึงคนทุกกลุ่ม

 CPN: เข้าสู่การเติบโตรอบใหม่ด้วย 18% EPS CAGR ช่วง 2018-21F จากการเปิดศูนย์การค้า 3 แห่ง/ปี และ operating leverageจากการปรับค่าเช่า

 EA: เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโน้มของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า

 HMPRO: ผู้นำตลาดปรับปรุงบ้าน ที่คาดความต้องการฟื้นตัวปีหน้าและมีกลยุทธ์การเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นที่ดี

 KCE: ได้ประโยชน์จากแนวโน้มเงินบาทที่อ่อนค่า ในขณะที่การเติบโตของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์เร่งตัวขึ้นชัดเจนในตลาดโลก

 MTC: ผู้นำธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ เติบโตสูง ด้วยความเสี่ยงด้านกฎระเบียบที่ลดลง

 STEC: กำไรจะกลับมาเติบโตโดดเด่นจากรายได้ และ margin ที่ฟื้นตัว

 WHA: ได้ประโยชน์โดยตรงจากนโยบาย EEC ของรัฐบาล และมูลค่าไม่เเพง

+BSM มั่นใจปี 2019 รายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท รับอานิสงส์โอน 2 คอนโดมิเนียมใหม่ เล็งผุดโครงการเพิ่มไตรมาสละ1 แห่ง มูลค่า 350-400 ล้านบาท แย้มงบปี 2018 โกยรายได้ 640 ล้านบาท โต 7%(ข่าวหุ้น)

 

0EGCO จบดีลใหญ่โรงไฟฟ้าพาจู เกาหลี 1823 MW แล้ว ใช้เงิน 2.62 หมื่นล้านบาท ซื้อหุ้น 49% พร้อมเปิดทางดำเนินธุรกิจร่วมกับพันธมิตร SK E&S(ทันหุ้น)

 

0IVL เทกโอเวอร์อีกแล้ว ทุ่มเงิน 2,579 ล้านบาท ซื้อหุ้น IRSL จำนวน 1,442 ล้านบาท พร้อมตั้งงบเทนเดอร์อีก 1,137ล้านบาท บกุ ตลาดโพลีเอสเตอร์อินเดียเต็มตัว มั่นใจปิดดีลภายในไตรมาส 2Q19(ข่าวหุ้น)

 

+JKN เล็งแผนลุยโปรดักชั่นสร้างสยามรามเกียรติ์ คาดชัดเจนปีนี้ ฟากผู้บริหาร ตั้งเป้ารายได้ปี 2019 โต 15-20% เดินเกมขายคอนเทนต์ ขยายลูกค้าเพิ่ม(ทันหุ้น)

 

+LH ปักธงปี 2019 โกยรายได้รวมพุ่ง 37,000 ล้านบาท หลังตุนแบ็กล็อก 10,000 ล้านบาท จ่อบุ๊กรายได้ปี 2019 กว่า6,000 ล้านบาท และมีสินค้าพร้อมโอน 56,000 ล้านบาท เล็งเปิดใหม่ 16 โครงการ มูลค่า 29,960 ล้านบาท(ข่าวหุ้น)

 

0MTC ลั่นไร้ผลกระทบการจัดชั้น NPL แบบใหม่ ยันเป็นตามแนวทางธปท.อยู่แล้ว มั่นใจปีนี้คุมได้ไม่เกิน 2% จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1.26% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระบบ ลุยเปิดสาขาใหม่อีก 600 สาขา(ทันหุ้น)

 

+PTG มั่นใจปี 2019 รายได้นิวไฮ 1.4-1.5 แสนล้านบาท คาดปริมาณขายน้ำมันเพิ่ม 15-20% ลุยขยายสาขาธุรกิจน้ำมันและ non-oil ต่อเนื่อง ล่าสุดมอบประกาศนยี บัตรให้พนักงานร้านสะดวกซื้อ Max Mart เก็บเงินคืนหญิงชาวบราซิล(ข่าวหุ้น)

 

+RML ปักธง 5 ปี ดันรายได้พุ่ง 13,000 ล้านบาท ส่วนปี 2019 วางเป้ากวาดรายได้ 5,000 ล้านบาท หลังตุนแบ็กล็อก11,000 ล้านบาท จ่อบุ๊กรายได้ปี 2019 กว่า 30% เล็งเปิดคอนโดมิเนียมลักซ์ชัวรี่ 2 โครงการ มูลค่า 11,000 ล้านบาท(ข่าวหุ้น)

 

+SANKO กดต้นทุนค่าใช้จ่าย ลดปริมาณผลิตของเสีย หวังปั๊มมาร์จิ้นให้อยู่ในระดับ 17-20% ด้านผู้บริหารสั่งจับตาดูสถานการณ์ในประเทศ ตั้งเป้าโกยยอดขายปี 2019 อยู่ที่ 600 ล้านบาท เชื่อออเดอร์ไหลเข้าเพียบ พร้อมลงทุนเพิ่มกำลังการผลิต หากเจอโอกาสเหมาะสม(ทันหุ้น)

 

+SQ วางเป้าปี 2019 รายได้ทะยาน 20% จากปี 2018 โครงการเรียงคิวบุ๊กอื้อ พร้อมเดินหน้ารุกชิงงานต่างแดนเฉียด1 หมื่นล้านบาท เติม Backlog เพิ่ม จากเดิมราว 3.4 หมื่นล้านบาท หนุนกนิ ยาว(ทันหุ้น)

 

+TACC วางเป้าปี 2019 รายได้โต 15-20% ลุยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเดิม-ออกสินค้าใหม่กลุ่มสินค้าเครื่องดื่ม เบเกอรี่เล็งเพิ่มคาแรกเตอร์สไตล์ตัวใหม่ พร้อมหวนกลับไปลุยตลาดกัมพูชาเต็มสูบ(ข่าวหุ้น)

 

+TKT แย้มผลงานปี 2019 เทิร์นอะราวด์ ธุรกิจผ่านจุดต่ำสุด หลังคุมเข้มค่าใช้จ่าย ตั้งเป้ารายได้โต 5-10% ตุนงานในมือกว่า 1 พันล้านบาท คาดรับรู้ปีนี้ทั้งหมด พร้อมส่งมอบออเดอร์รถโมเดลใหม่กลางปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้าใหม่เพิ่ม มั่นใจกำลังการผลิตเพียงพอ มองแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์เติบโตต่อเนื่อง(ทันหุ้น)

 

0 WP แย้มปี 2019 ยอดขาย LPG ทรงตัวใกล้เคียงปี 2018 ระดับ 820,000-830,000 ตัน เน้นขยายลูกค้าภาคครัวเรือนมากขึ้น ลุ้นล้างขาดทุนสะสมหมดภายในปีนี้และเล็งจ่ายปันผลปี 2020 นอกจากนี้ ในปี 2019 สตาร์ตสร้างคลังเก็บก๊าซ LPG เฟส 3 ที่ อ.บางปะกง ขนาด 9,500 ตันแล้ว คาดแล้วเสร็จปี 2020(ข่าวหุ้น)