WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBSบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
“รอปัจจัยใหม่ๆ เพื่อนบ้านรีบาวด์เล็กๆ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ปรับขึ้น +0.41 จุด ปิดที่ 1577.41 จุด มูลค่าการซื้อขายปานกลางที่ 50 พันล้านบาท สอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาคแถบนี้ที่Sideways คาดว่ายังตอบรับการที่จีนจะมีมาตรการลดภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้ดาวโจนส์และน้ำมันวันก่อนปรับขึ้นดี เก็งกำไรหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินที่ประกาศงบช่วงนี้ แต่การโหวต Brexit ไม่ผ่าน มีผลที่จำกัดกับ SET ผู้ขายสุทธิรายเดียวเป็น สถาบัน 4.3 พันลบ. ผู้ซื้อสุทธิมากคือ รายย่อย 2.1 พันลบ. ส่วนนักลงทุนต่างประเทศและพอร์ตโบรกเกอร์ซื้อสุทธิ ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์วันนี้คือ
# ระยะสั้นคาดว่า SET จะ Sideways ปัจจัยบวกคือ ดาวโจนส์ปรับขึ้นหลังกำไรกลุ่มแบงค์ออกมาดี น้ำมันดิบปรับขึ้นเล็กน้อย เงินบาทแข็งค่า มี Flows เข้า และตลาดหุ้นเพื่อนบ้านรีบาวด์เล็กๆ ด้าน Brexit ดีขึ้น มีโหวตไว้วางใจนายกฯ แต่สถานการณ์ยังไม่แน่นอน
# ส่วนปัจจัยลบคือ ยังไม่กำหนดวันเลือกตั้ง ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นสร้างบ้าน ม.ค.อ่อนลง การ Shut Down ยังดำเนินต่อ ดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับลงเล็กน้อยเช่นเดียวกับตลาดน้ำมันล่วงหน้า
# กลยุทธ์ คือ ระยะสั้น หากมีการรีบาวด์ เก็งกำไรรอบสั้นแนวต้านเป็น 1580-1590 จุด ด้านการซื้อลงทุนระยะกลาง รออ่อนตัว แนวรับที่ 1560-1550 จุด ส่วนดัชนีฯเป้าหมายทางพื้นฐานปี 2562 ยังเป็น 1780 จุด (+0.5 SD) ด้วยคาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรปี 61-62 ที่ +8%/+6% ตามลำดับ แนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีหุ้น Top Pick ในงวด 1Q62 คือ AOT,BBL,CPALL,HANA,PTT และ WHA
# หุ้นเด่น TMB-TCAP : ระยะนี้มีการเก็งกำไรข่าวการควบรวมกิจการกัน ทางฝ่ายวิจัยฯ DBSVTH แนะนำซื้อ TMB ให้ราคาพื้นฐาน 2.83 บาท (มี Upside 25%)และแนะนำซื้อ TCAP ให้ราคาพื้นฐาน 66 บาท (มี Upside 26%) โดยในปี 2562 คาดการณ์ว่า TMB จะมีการเติบโตของกำไรสุทธิ 5% ขณะที่ TCAP -2% เพราะอัตราภาษีจ่ายสูงขึ้นหลังไม่มีผลขาดทุนจากการชำระบัญชี SCIB มาหักภาษีแล้ว แต่ธนาคารจ่ายปันผลดี คาด Yield 4.5% ในปี 2561 และ 4.7% ในปี 2562(ส่วน TMB ให้ Dividend Yield ประมาณ 2.8% ต่อปี)
 
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นลบ {“ปิดลบ”ใต้“SMA10วัน” (โดยมี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก”(มีOversold ในกราฟรายนาที) ก็อาจจะมีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1580 – 1590 (หรือ 1600) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1575” จุด}
 
ส่วนหุ้นเข้ามาใหม่มีสัญญาณบวกทางเทคนิคหรือมีโอกาสทำ New High ได้ คือ SCCC,ASIAN,AOT,VIBHA ด้านหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ CPALL,BTS,MAKROสำหรับหุ้นที่หลุด List คือ PTT,HMPRO,BEM,TU และหุ้นอยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit TOA,GLOW,BA
นักกลยุทธ์&นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
 
 
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : CPF (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 30.00)
In The News : BEM: สหภาพแรงงานกทพ.ค้านต่ออายุสัมปทานทางด่วน
MTC : ไม่ถูกกระทบจากการจัดชั้น NPL เพราะทำตามแนวทางธปท.อยู่แล้ว
TCAP & TMB : สศค.ไม่ยอมรับข้อเสนอยกเว้นภาษีโอนหรือซื้อขายบริษัทลูก
Turnover List Watch : คาดว่าไม่มีหลักทรัพย์ใดติด Cash Balance
 
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ: ผลประกอบการกลุ่มสถาบันการเงินออกมาดี
# ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคารายใหญ่ทั้ง 2 แห่งได้แก่ โกลด์แมน แซคส์และแบงก์ ออฟ อเมริกาได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ทะยานขึ้น 9.5% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 7.2% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น1.3% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 3.7% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก เพิ่มขึ้น 2.7% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 0.8%
 
+/- อังกฤษ: ผลลงมติให้ความไว้วางใจนายกอังกฤษ นางเทเรซา เมย์
# สมาชิกสภาสามัญชนของอังกฤษลงมติด้วยคะแนนเสียง 325-306 เสียง ให้ความไว้วางใจต่อรัฐบาลของนางเทเรซา เมย์นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยหลังจากนี้ นางเมย์จะต้องนำเสนอแผนการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ฉบับใหม่ต่อรัฐสภาภายในวันที่ 21 ม.ค. หลังจากรัฐสภาได้ลงมติคว่ำร่างข้อตกลง Brexit ของนางเมย์เมื่อวานนี้
 
-สหรัฐ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน ม.ค.62 อ่อนลงเทียบรายปี
# สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเพิ่มขึ้น 2 จุด สู่ระดับ 58 ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน แต่เมื่อเทียบรายปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านร่วงลง 14 จุดในเดือนม.ค. ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคานำเข้าร่วงลงเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนธ.ค. โดยปรับตัวลง 1.0% เมื่อเทียบรายเดือนหลังจากดิ่งลง 1.9% ในเดือนพ.ย.
 
-สหรัฐ: ปัญหา Shut Down ยังดำเนินต่อไป
# นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐที่ล่วงเข้าสู่วันที่ 27 ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเป็นประวัติการณ์ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมห์ และแกนนำพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรส ยังไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการจัดสรรงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์
 
+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดาวโจนส์ปรับขึ้น สะท้อนผลประกอบการสถาบันการเงินออกมาดี
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,207.16 จุด พุ่งขึ้น 141.57 จุด หรือ +0.59% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่2,616.10 จุด เพิ่มขึ้น 5.80 จุด หรือ +0.22% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,034.69 จุด เพิ่มขึ้น 10.86 จุด หรือ +0.15%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) หลังจากธนาคารรายใหญ่อย่างโกลด์แมน แซคส์ และแบงก์ ออฟ อเมริกา เปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงกว่าคาด โดยรายงานดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น และสามารถสกัดปัจจัยลบจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐ
 
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ปรับขึ้นเล็กน้อย สะท้อนสต็อคน้ำมันดิบต่ำกว่าคาด
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 52.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 61.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 และลดลงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
 
- ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ปิดปรับขึ้น วิตก Shut Down และ Brexit
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 5.40 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่1,293.80 ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) รวมทั้งสถานการณ์ชัตดาวน์ที่ยืดเยื้อในสหรัฐ
 
• ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจประจำสัปดาห์นี้
# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนม.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค.และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
 
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
• ธปท.มองปี 62 ความเสี่ยงจากปัจจัยต่างประเทศสูง แต่คาดไทยรับมือได้
# ธปท.ชี้ปี 2562 นโยบายการเงินโลก สงครามการค้าทำให้ความเสี่ยงสูง มั่นใจเสถียรภาพเศรษฐกิจไทยยังรับมือได้
 
+ คลังเตรียมชง ครม.เคาะควบรวม "TMB TBANK" ภายในเดือนนี้
# คลังเตรียมชง ครม.เคาะควบรวม "TMB TBANK" ภายในเดือนนี้ และต้องควบรวมเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้ (Aspen)
# ผลกระทบ: ฝ่ายวิจัยฯ DBSVTH คาดว่าถ้า TMB และ TCAP มีการควบรวมกิจการกันจริงก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะจะมีSynergies เกิดขึ้น ประหยัดต้นทุนในการดำเนินงาน มี Economy of scale เพิ่มขึ้น ขณะที่ทั้งสองธนาคารมีจุดแข็งในการทำธุรกิจต่างกัน โดย TMB เด่นในธุรกิจสินเชื่อรายใหญ่และ SME รายเล็ก และ TBANK เด่นในธุรกิจรายย่อยโดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อ แนะนำ ซื้อทั้งสองหลักทรัพย์
 
-/• DTC: ผลกระทบเหตุการณ์ก่อความไม่สงบในบริเวณดุสิต คอมเพล็กซ์โรงแรมดุสิตดีทูไนโรบีประเทศเคนย่า
# DTC เผยเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมดูแลพื้นที่-ตรวจสอบสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณดุสิต คอมเพล็กซ์ ในเคนย่าอย่างใกล้ชิด -พนักงานไทยทุกคนปลอดภัย (DTC)
 
+ PTG: ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ทำนิวไฮ 1.4-1.5 แสนลบ.
# PTG ตั้งเป้ารายได้ปี 62 ทำนิวไฮ แตะ1.4-1.5 แสนลบ. -ปริมาณขายน้ำมันโต 18-20% รุกขายสถานีบริการน้ำมัน-Nonoil ต่อเนื่อง วางงบลงทุนปีนี้ที่ 3.5 พันลบ. รองรับขยายสาขาบริการน้ำมัน 180-200 สาขา -ขยายNon-oil 150 สาขา คาดปี 62 เพิ่มสมาชิก Max card อีก 2 ล้านสมาชิก หวังสิ้นปีแตะ 12 ล้านสมาชิก (Aspen)
 
+/- RML: ลั่นผลงานปี 62 เทิร์นอะราวด์ หลังตุนBacklog ในมือ 1.1 หมื่นลบ. รับรู้ปีนี้ 30%
# RML ลั่นผลงานปี 62 เทิร์นอะราวด์ หลังตุนBacklog ในมือ 1.1 หมื่นลบ. รับรู้ปีนี้ 30% - รับรู้รายได้จากโรงแรมใหม่เตรียมเปิดโครงการคอนโดฯในปี 62 จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 1.1 หมื่นลบ. - เปิดโรงแรมใหม่ 2 แห่ง มูลค่ารวม 4 พันลบ. อยู่ระหว่างศึกษาซื้อโรงแรมในประเทศเพิ่ม 1 แห่ง คาดได้ข้อสรุปภายในปี 62 (Aspen)
# ผลกระทบ: คาดว่ากำไรสุทธิปี 62 จะกลับมาฟื้นตัว เป็น 358 ล้านบาท เทียบกับปี 61 ที่มีกำไรสุทธิเป็น 72 ล้านบาทสืบเนื่องจากคาดว่ารายได้รวมจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 52% y-o-y เนื่องจากการโอน The Lofts อโศกจำนวนมาก อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น และยังมีการบันทึกกำไรจากการขายห้องชุดที่มีไว้เพื่อขายคือ Diplomat 39 แต่P/E ปี 62 ซื้อขายสูงเป็น 13.2 เท่า ราคาพื้นฐานใหม่เลื่อนไปใช้ปี 62 แทนปี 61 ได้เป็น 1.03 บาท ซึ่งประเมินด้วยForward P/E ปี 62 ที่ 12 เท่า ราคาปิดมีส่วนลด (Downside) ได้อีก 9% แนะนำในเชิงลบคือ เต็มมูลค่า (Fully Valued)
นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!