- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 17 January 2019 14:18
- Hits: 1472
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งผันผวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม Leasing (MTC, SAWAD, KTC, JMT) ที่มีประเด็นความกังวลการจัดชั้น NPL แบบใหม่ โดยหุ้นในกลุ่มปรับลงแรงในช่วงครึ่งวันเช้า แต่มีการรีบาวน์กลับมาได้เด่นจากคาดประเด็นนี้ไม่ได้กระทบต่อผลประกอบการ ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,577.4 จุด (+0.41 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.02 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 3.8 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 ที่ 1,842 ล้านบาท (กองทุนขายสุทธิสูงถึง 4,247 ล้านบาท) แต่เปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิที่ 3,194 สัญญา
Investment theme
สภาอังกฤษโหวตไว้วางใจ เมย์ / จับตาผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ : ปัจจัยต่างประเทศหลักที่ทั่วโลกกำลังติดตามอย่างใกล้ชิด คือ ประเด็นการแยกตัวของอังกฤษจากออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป (Brexit) โดยวานนี้มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางไว้รัฐบาล "เทเรซ่า เมย์" ซึ่งท้ายสุดจบลงที่ฝ่ายรัฐบาล ได้รับความไว้วางใจ ด้วยคะแนนเสียง 325 ต่อ 306 เสียง ส่งผลให้นางเทเรซ่า เมย์ ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษต่อไป โดยหลังจากนี้ทางเทเรซ่า เมย์ จำเป็นต้องรีบจัดทำแผนการ Brexit รอบใหม่อีกครั้ง (Plan B) เพื่อเสนอต่อรัฐสภาอังกฤษอีกครั้ง โดยหากรอบนี้รัฐสภาโหวตผ่านก็จะยังคงเป็นไปตามกำหนดการเดิมที่อังกฤษ จะแยกตัวออกจากกลุ่มสหภาพยุโรปในวันที่ 29 มีค. นี้ ส่วนประเด็นในประเทศระยะสั้นแนะติดตามการรายงานผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยตลาดประเมินกำไรโดยรวมของ 9 ธนาคาร ที่ 4.68 หมื่นล้านบาท (-13%QoQ, +14%YoY) ซึ่งธนาคารที่รายงานออกมาแล้ว เช่น TISCO กำไรถือว่าใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด แต่มีการจัดชั้น NPL ใหม่ ซึ่งปัจจัยนี้ส่งผลให้วานนี้กลุ่ม Leasing มีความกังวลในช่วงแรกเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ดีราคาหุ้นในกลุ่ม Leasing มีการฟื้นตัวกลับมาได้จากการที่คาดจะไม่ส่งผลกระทบเช่นเดียวกับ TISCO
Investment Theme: เราประเมินเป้าหมาย SET สิ้นปีที่ 1,743 จุด อย่างไรก็ตามใน 1Q19 มองว่าจะเป็นช่วงที่มีความผันผวนสูงไม่ต่างจากไตรมาสที่ผ่านมา มองกรอบการแกว่งตัวบริเวณ 1,540-1,645 จุด คงคำแนะนำถือหุ้น BEM, EGCO, VGI, CPALL, BJC และทยอยสะสม AOT
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา : สภาอังกฤษ โหวตไว้วางใจ รัฐบาลเทเรซ่า เมย์ 325 ต่อ 306 เสียง / สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ลดลง -2.68 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดที่ -1.48 ล้านบาร์เรล
แบ่งผลเจรจาการค้า 3 Cases
แบ่งผลเจรจาการค้าเป็น 3 Cases : ภายหลังการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจบลง เราคาดใน 1-2 วันนี้ จะมีการแถลงผลการเจรจาอย่างเป็นทางการ โดยเราแบ่งผลลัพธ์เป็น 3 Cases นำโดย 1) Best case กล่าวคือยืนยันไม่ขึ้นอัตราภาษี 25% , ยกเลิกการขึ้นรอบใหม่ 2.67แสนล้านเหรียญ, ยกเลิกวงเงิน 2.5 แสนล้าน ที่มีอยู่ในปัจจุบันออก คาด SET ปรับตัวขึ้นทะลุแนวต้าน 1,645 จุด แนะซื้อ PTTEP, PSL, WICE และ 2) Base case กล่าวคือ ยืนยันไม่ขึ้นอัตราภาษี 25%, ยกเลิกการขึ้นรอบใหม่ 2.67 แสนล้านเหรียญ, แต่ยังคงภาษีวงเงินเดิม 2.5 แสนล้านเหรียญ คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,585-1,620 จุด แนะซื้อ AOT, TU และ 3) Worst case กล่าวคือขึ้นอัตราภาษี 25%, ขึ้นวงเงินภาษีอีก 2.67 แสนล้าน รวมเป็น 5.1 แสนล้านเหรียญ คาด SET เปิด Downside 1,540- จุด ซึ่งถือเป็นภาพจะส่งผลเสียต่อทั้งปัจจัยเศรษฐกิจโลก, การเมืองโลก
Trading idea - วันนี้แนะเก็ง CPF (เป้าหมาย 31.5 บาท) คาดกำไร 4Q61 ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ / สะสม ท่องเที่ยว (AOT) เก็งตัวเลขนักท่องเที่ยวคาดฟื้นตัวขึ้น / กลุ่มโรงไฟฟ้า (EGCO, RATCH) PE ไม่แพง ปันผลสูง และรอปลดล็อกแผน PDP ฉบับใหม่ / EA เพิ่มน้ำหนักเป็น T-Buy เป้าหมาย 52.8 บ /ปันผลสูง (LH, RATCH)
Technical View
ไม่หลุด 1560-1565 ยังเป็นโอกาสเล่น Rebound สั้นๆ : ดัชนีแกว่ง Sideway Down ในช่วงเช้า จากแรงขายหุ้นกลุ่มสื่อสารและเช่าซื้อ (Leasing) ทำให้ดัชนีปรับตัวลงทดสอบแนวรับแรกที่ 1565 แต่ใช่วงบ่ายมีแรงซื้อกลับกลุ่มเช่าซื้อ และแรงซื้อโดดเด่นจาก AOT ทำให้ดัชนี Rebound ขึ้นจากแรวรับดังกล่าว จากกราฟ 60 นาทีพบว่าดัชนีเริ่มยก Low ฟอร์มเป็นขาขึ้นย่อย ฉะนั้นหากไม่หลุด 1560-1565 คาดดัชนีมีโอกาส Rebound ต่อ มองแนวต้าน 1590 และ 1600 แต่จังหวะ Rebound แนะนำขายทำกำไรที่แนวต้านต่างๆ กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound ยังแนะนำขายหุ้นเพื่อลดพอร์ตตามแนวต้านต่างๆ และหากหลุด 1560-1565 แนะนำ Lock Profit 2) ไม่มีหุ้น: หากไม่หลุดแนวรับ 1560-1565 มองเป็นโอกาสซื้อเพื่อเล่น Rebound ไปขายกำไรตามแนวต้านต่างๆ
แนวรับ : 1550, 1565 แนวต้าน : 1590, 1600
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ : แถลง Trade war / การปลดล็อก Gov Shutdown
ปัจจัยในประเทศ : จับตารัฐบาลแถลงประเด็นการเลื่อนการเลือกตั้ง, จับตา กพช.หารือ 24 ม.ค. / แหล่งข่าวระบุ กกต.เตรียมประกาศวันเลือกตั้งไม่เกิน 26 ม.ค.
หุ้นเทคนิค:
GULF (B 81.00-82.00, Tp 85.00//87.00, Cut 80.00)
BEM 9.70-9.80, Tp 10.40//11.00, Cut 9.60)
ข่าวเด่นเช้านี้
LH ลั่นปี 62 รายได้ เด้ง 3.7 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น)
"แลนด์แอนด์เฮ้าส์" ปักธงปี 62 โกยรายได้รวมพุ่ง 37,000 ล้านบาท หลังตุนแบ็กล็อก 10,000 ล้านบาท จ่อบุ๊กรายได้ปี 62 กว่า 6,000 ล้านบาท และมีสินค้าพร้อมโอน 56,000 ล้านบาท เล็งเปิดใหม่ 16 โครงการ มูลค่า 29,960 ล้านบาท
ความเห็น : เราแนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 11.40 บาท/หุ้น โดยปีนี้บริษัทบริหารความเสี่ยงด้วยการเน้นโครงการบ้านเดี่ยว และธุรกิจค่าเช่า และงดการเปิดโครงการคอนโดมิเนียม นอกจากนี้มีปัจจัยบวกจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ LH ให้ตอบแทนจากเงินปันผลเด่นที่สุดในกลุ่มที่ประมาณ 7.5% ต่อปี
SQ โดดชิงงานเฉียดหมื่นล. เติมยอดแบ็กล็อกแข็งแกร่ง (ทันหุ้น)
SQ วางเป้าปี 2562 รายได้ทะยาน 20% จากปี 2561 โครงการเรียงคิวบุ๊กอื้อ พร้อมเดินหน้ารุกชิงงานต่างแดนเฉียด 1 หมื่นล้านบาท เติม Backlog เพิ่ม จากเดิมราว 3.4 หมื่นล้านบาท หนุนกินยาว โบรกดีดลูกคิดกำไรอลังการ เคาะเป้า 3.20 บาท
ความเห็น : โครงการหงสา จะมีการเปิดประมูลเพิ่มเติมในปี 2562 คือ งานขุดขนดินหงสาเฟส G มูลค่าโครงการ 4 พันล้านบาท และ งาน Conveyor Line O&M มูลค่าโครงการ 2 พันล้านบาท จะช่วยเติม Backlog ในปัจจุบัน 3.4 หมื่นล้านบาท เราคาด 4Q61 จะมีกำไรเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะยังเป็นระดับที่น่าผิดหวัง เราประเมินกำไรปี 2562 จะฟื้นตัวดีขึ้น 266 ล้านบาท เราคงแนะนำ ถือ รอดูพัฒนาการในด้านบวก ประเมินราคาเป้าหมาย 3.20 บาท
EGCO ปิดดีลซื้อไฟฟ้าพาจู ดันมูลค่าหุ้นเพิ่ม 9-12 บาท (ข่าวหุ้น)
EGCO ปิดดีลซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพาจู อีเอส ในเกาหลีใต้ 49% กำลังการผลิต 1,823 MW มูลค่าการลงทุน 26,200 ล้านบาท โบรกฯคาดดันกำไรเพิ่ม 10-15% และหนุนมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 9-12 บาท/หุ้น เชียร์ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 280 บาท/หุ้น
ความเห็น : เรามีมุมมองเป็นกลางต่อประเด็นข่าวนี้ เนื่องจากเป็นข่าวที่ตลาดได้รับรู้ไปแล้วตั้งแต่เดือน พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา การลงทุนในโครงการ Paju ที่นอกจากจะสร้างมูลค่าเพิ่มจากตัวโครงการเองแล้ว ยังเปิดโอกาสลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซฯ และพลังงานหมุนเวียนในเกาหลีใต้เพิ่มเติม นอกจากนั้นยังมีโอกาสร่วมกับกลุ่ม SK ลงทุนโครงการใน LNG Value Chain ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย อ้างอิงจากร่าง PDP 2018 ที่อยู่ระหว่างรอเสนอ กพช. ในวันที่ 24 ม.ค. 2562 แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 273 บาท (รวมมูลค่า 14 บาทในโรงไฟฟ้า Paju)
'MTC' ลั่นไม่กระทบจัดชั้น NPL แบบใหม่มั่นใจคุมได้ไม่เกิน 2% (ทันหุ้น)
MTC ลั่นไร้ผลกระทบการจัดชั้น NPL แบบใหม่ ยันเป็นตามแนวทางธปท.อยู่แล้ว มั่นใจปีนี้คุมได้ไม่เกิน 2% จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1.26% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระบบ ลุยเปิดสาขาใหม่อีก 600 สาขา
ความเห็น : ข้อมูลจาก Conference call บ่ายวานนี้ ผู้บริหารได้ชี้แจงวิธีการจัดชั้นลูกหนี้ NPL ของ MTC ว่าเป็นไปตามมาตรฐานที่ ธปท.กำหนดอยู่แล้ว ซึ่งช่วยปลดล็อคความกังวลของตลาดที่มองว่า NPL ของบริษัทอาจจะสูงขึ้น หากบริษัทถูกจัดชั้นหนี้ใหม่เช่นเดียวกับ TISCO เรายังมีมุมมองบวกต่อเนื่องต่อแนวโน้มกำไร 4Q61 ที่แนวโน้มกำไรขยายตัวทั้งเทียบ QoQ และ YoY ตามยอดสินเชื่อใหม่ ตามกลยุทธ์รุกขยายสาขา คุณภาพพอร์ตหนี้ยังดี อยู่ในเกณฑ์ปกติ สัดส่วนราว 90% เป็นลุกหนี้ที่ค้างชำระ 0-1 งวด
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000