เมื่อวานที่ผ่านมา SET ยังขาดปัจจัยใหม่ๆมาหนุน ส่งผลให้ระหว่างวัน SET มีแรงขายทำกำไรกดดัชนีแกว่งตัวลง โดยแรงขายในกลุ่ม Big cap นำโดย AOT, PTT, GULF, PTTEP ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,577.0 จุด (-5.5 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.8 หมื่นลบ. ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.1 หมื่นล้านบาท 

          นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 ที่ 2,593 ล้านบาท (กองทุนขายสุทธิสูงกว่า 3,222 ล้านบาท) และเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิที่ 5,463 สัญญา

 

          สภาอังกฤษโหวตคว่ำ Brexit / ลุ้นจีนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม : เมื่อคืนที่ผ่านมารัฐสภาอังกฤษมีการลงมติไม่สนับสนุนข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ด้วยคะแนนเสียง 432 : 202 เสียง ซึ่งทางด้านนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะมีเวลาในการจัดลงมติอีกครั้ง (คาด 21 มค. นี้) แต่ถ้ายังไม่สามารถทำให้สภาโหวตผ่านได้ จะเพิ่มความเสี่ยงให้นางเทเรซ่า เมย์ ถูกกดดันออกจากตำแหน่ง และส่งผลให้กระบวนการทำ Brexit อาจจะมีความไม่ชัดเจนต่อไป กดดันทิศางการลงทุน แต่อย่างไรก็ดี ในระยะสั้นตลาดยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากความคาดหวังเชิงบวกต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากจีน หลังภาพรวมเศรษฐกิจจีนมีสัญญาณชะลอตัวลง โดยคาดจีนอาจมีการออกมาตรการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ การกระตุ้นการลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงการปล่อยสินเชื่อให้กับบริษัทขนาดเล็กมากยิ่งขึ้น ส่วนด้านปัจจัยในประเทศ กำลังเข้าสู่ช่วงการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน 4Q61 ซึ่งกลุ่มแรกที่จะรายงาน คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยตลาดประเมินกำไรรวมกลุ่ม (9 ธนาคาร) ที่ 4.68 หมื่นล้านบาท (-13%QoQ, +14%YoY) ซึ่งล่าสุดมีรายงานออกมาแล้ว 1แห่ง คือ TISCO กำไรใกล้เคียงกับตลาดคาด แต่ทิศทาง NPL และการตั้งสำรองสูงขึ้น กดดันให้ราคาหุ้นปรับตัวลง ดังนั้นเราแนะเพิ่มความระมัดระวังต่อหุ้นในกลุ่มธนาคารตัวอื่นๆ ที่จะทยอยประกาศทั้งสัปดาห์นี้ (คาด16 มค. TMB / 17 มค. SCB BAY LHFG / 18 มค. KTB KKP KBANK BBL TCAP) 

          Investment Theme: เราประเมินเป้าหมาย SET สิ้นปีที่ 1,743 จุด อย่างไรก็ตามใน 1Q19 มองว่าจะเป็นช่วงที่มีความผันผวนสูงไม่ต่างจากไตรมาสที่ผ่านมา มองกรอบการแกว่งตัวบริเวณ 1,540-1,645 จุด คงคำแนะนำถือหุ้น BEM, EGCO, VGI, CPALL, BJC และทยอยสะสม  AOT 

 

          เมื่อคืนที่ผ่านมา : สภาอังกฤษโหวตคว่ำร่าง Brexit 432:202 เสียง / ราคาน้ำมันดิบโลกดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง (WTI +3.17%, Brent +2.8%)

 

          Trading idea -  วันนี้แนะสะสมหุ้น Defensive: กลุ่มโรงไฟฟ้า (EGCO, RATCH), เก็งกำไร CPF (ราคาเป้าหมาย 31.5 บาท) คาดผลประกอบการ 1,500 ลบ+/- สนับสนุนจากราคาหมูในประเทศและที่เวียดนามที่ปรับขึ้นกว่า 30% และ 80% YoY ตามลำดับ

          แบ่งผลเจรจาการค้าเป็น 3 Cases : ภายหลังการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจบลง เราคาดใน 1-2 วันนี้ จะมีการแถลงผลการเจรจาอย่างเป็นทางการ โดยเราแบ่งผลลัพธ์เป็น 3 Cases นำโดย  1) Best case กล่าวคือยืนยันไม่ขึ้นอัตราภาษี 25% , ยกเลิกการขึ้นรอบใหม่ 2.67แสนล้านเหรียญ, ยกเลิกวงเงิน  2.5 แสนล้าน ที่มีอยู่ในปัจจุบันออก คาด SET ปรับตัวขึ้นทะลุแนวต้าน 1,645 จุด แนะซื้อ PTTEP, PSL, WICE และ 2) Base case กล่าวคือ ยืนยันไม่ขึ้นอัตราภาษี 25%, ยกเลิกการขึ้นรอบใหม่ 2.67 แสนล้านเหรียญ, แต่ยังคงภาษีวงเงินเดิม 2.5 แสนล้านเหรียญ คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,585-1,620 จุด แนะซื้อ AOT, TU และ 3) Worst case กล่าวคือขึ้นอัตราภาษี 25%, ขึ้นวงเงินภาษีอีก 2.67 แสนล้าน รวมเป็น 5.1 แสนล้านเหรียญ คาด SET เปิด Downside 1,540- จุด ซึ่งถือเป็นภาพจะส่งผลเสียต่อทั้งปัจจัยเศรษฐกิจโลก, การเมืองโลก 

 

          หากปิด Gap แล้วหลุด 1575 Downside จะเปิดมากขึ้น มองแนวรับถัดไป 1550  :  ดัชนีเปิดโดดปะทะแนวต้าน 1590 ก่อนจะถูกแรงขายกดดันจากกลุ่มพลังงาน ขนส่งและเช่าซื้อ ทำให้ดัชนีแกว่ง Sideway Down ตลอดทั้งวันก่อนจะลงปิด Gap ที่ 1575 แล้วเริ่มมีแรง Rebound กลับเล็กน้อยในช่วงท้าย ระยะสั้นให้ใช้แนวรับ 1575 เป็นจุดตัดสินใจ หากหลุด Downside จะเปิด มองแนวรับถัดไปที่ 1565 และ 1550 แต่หากไม่หลุด 1575 มองเป็นโอกาสซื้อเพื่อเล่น Rebound และขายทำกำไรที่แนวต้าน 1590 และ 1600  กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound ยังแนะนำขายหุ้นเพื่อลดพอร์ตตามแนวต้านต่างๆ และหากหลุด 1575 แนะนำ Lock Profit หรือ Stop Loss  2) ไม่มีหุ้น: หากไม่หลุดแนวรับ 1575 มองเป็นโอกาสซื้อเพื่อเล่น Rebound

          แนวรับ : 1550, 1575 แนวต้าน : 1590, 1600

 

          ปัจจัยต่างประเทศ :  แถลง Trade war / การปลดล็อก Gov Shutdown

          ปัจจัยในประเทศ :  จับตารัฐบาลแถลงประเด็นการเลื่อนการเลือกตั้ง, จับตา กพช.หารือ 24 ม.ค. / แหล่งข่าวระบุ กกต.เตรียมประกาศวันเลือกตั้งไม่เกิน 26 ม.ค. 

          BGC  (B 10.30-10.60, Tp 11.40//11.80, Cut 10.00)

          CPF 25.00-25.50, Tp 26.75//28.00, Cut 24.70)

 

 

ตรุษจีนช็อปคืน VAT ดันยอดคึก 'MAKRO-CPALL-BJC' โดดเด่น (ทันหุ้น) 

          มาตรการช็อปคืน VAT ช่วงตรุษจีน ดีเดย์ 1-15 กุมภาพันธ์นี้ กระทุ้งจับจ่ายกลับมาคึกคัก ดันยอดขายฟื้น โบรกชู MAKRO-CPALL-BJC โดดเด่นน่าสะสม

          ความเห็น : คาดช่วยกระตุ้นยอดขายกลุ่มค้าปลีกในช่วง 1Q62 ได้ส่วนหนึ่ง หลังจากผลประกอบการ 4Q61 มีแนวโน้มเติบโตดี SSSG ฟื้นตัวและได้อานิสงส์จากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แนะนำ ซื้อ CPALL ราคาเป้าหมาย 81 บาท และ BJC ราคาเป้าหมาย 65 บาท

 

รื้อประมูล 'เฟส3' EEC ปูทาง 32 รายยื่นซอง'แหลมฉบัง' ใหม่ (แนวหน้า) 

          นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) หรือบอร์ดอีอีซี เปิดเผยว่า ตามที่ การท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) กำหนดเปิดยื่นข้อเสนอร่วมทุนโครงการท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่ 3(เฟส 3) ระยะที่ 1 ท่าเทียบเรือเอฟ วงเงิน 84,361 ล้านบาท นั้น พบว่ามีผู้สนใจซื้อเอกสารโครงการถึง 32 ราย แต่มีเพียงรายเดียวที่ยื่นประมูลคือ บจ.แอสโซซิเอท อินฟินิตี้ จากไทยแต่ต่อมาพบว่ามีคุณสมบัติไม่ครบถ้วน

          ความเห็น : เราคาดจะส่งผลกระทบต่อโครงการ EEC อื่นๆ ในแง่ความเชื่อมั่น และ โครงการ EEC เร่งด่วน 5 โครงการมีความเกี่ยวเนื่องและเสริมซึ่งกันและกัน  ในขณะที่โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ยังมีความล่าช้าในการเปิดประมูลตั้งแต่ไตรมาสสี่ปีก่อน  เราให้น้ำหนักกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเป็น Neutral

 

PTTGC พีอีต่ำน่าลงทุน ซื้อลุ้นรับปันผล 2.40 บ. ยีลด์สูง 3.6% คาดปี 61 กำไรพุ่ง 4.15 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น) 

          PTTGC ราคาถูกเกินไป-พี/อีต่ำแค่ 7 เท่า โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 100 บาท ลุ้นปันผลครึ่งหลังปี 61 อีกหุ้นละ 2.40 บาท ยีลด์สูง 3.6% คาดปี 61 กำไรโตแกร่ง 4.15 หมื่นล้านบาท แม้ไตรมาส 4/61 เจอสต๊อกลอสฉุดกำไรทรุด

          ความเห็น :  เบื้องต้นเราคาด PTTGC จะถูกกระทบจากขาดทุนสต๊อกเช่นเดียวกับหุ้นน้ำมันขั้นปลายอื่น อย่างไรก็ตามธุรกิจโอเลฟินส์จากก๊าซฯ ไม่มีผลกระทบดังกล่าว ส่งผลให้ผลประกอบการยังคาดจะรายงานเป็นบวก ทำให้ผลตอบแทนจากปันผล 2H61 คาดเด่นกว่าคู่แข่ง แนะนำ ทยอยสะสม เมื่อราคาอ่อนตัว ราคาเป้าหมาย 100 บาท

 

BGRIM สนใจโรงไฟฟ้า SPP1 นั่งคอย GLOW เปิดเช็กข้อมูล (ทันหุ้น) 

          ผู้บริหาร BGRIM ส่งสัญญาณสนใจเข้าซื้อโรงไฟฟ้า SPP1 อยู่ระหว่างรอ GLOW เปิดเผย Data Room ข้อมูลเชิงลึก เกี่ยวกับโครงการขนาด 124 เมกะวัตต์ ล่าสุดพร้อมใส่เงินลงทุนเพิ่มในโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่สปป.ลาว ตั้งเป้าปีนี้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ 863 เมกะวัตต์ ดันรายได้ปีนี้ชน 4.2 หมื่นล้านบาท

          ความเห็น :  โรงไฟฟ้า SPP 1 ของ GLOW อยู่ระหว่างเจรจาหาผู้ซื้อ เพื่อให้เงื่อนไขการซื้อหุ้น GLOW ของ GPSC เป็นไปตามเงื่อนไขที่ กกพ. เห็นชอบ เรายังไม่รวมมูลค่าโรงไฟฟ้าดังกล่าวในประมาณการของ BGRIM เนื่องจากยังรอความชัดเจน แนะนำ Trading buy BGRIM ราคาเป้าหมาย 30 บาท

 

IVL มุ่งไถ่หุ้นกู้ 200 ล้านดอลลาร์ ยันสถาบันการเงินพร้อมจัดให้ (ทันหุ้น) 

          IVL ชี้ Canopus ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท เตรียมเงินไถ่ถอนหุ้นกู้แปลงสภาพที่จะครบกำหนดวันที่ 25 มกราคม 2562 มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์แล้ว เป็นเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน โบรกประเมินพื้นฐานปี 2562 เติบโตจาก Core EBITDA โดยรวมต่อตันยังคงแข็งแกร่ง คาดปริมาณขายเพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการในปี 2561 หนุน แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายสูงสุด 90 บาท

          ความเห็น :  ความชัดเจนของการจัดหาเงินเพื่อชำระหุ้นกู้ดังกล่าว จะช่วยลดแรงกดดันต่อ IVL ต่อประเด็นการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ที่เป็นปัจจัยกดดันหุ้นในช่วงต้นสัปดาห์ แนวโน้มผลประกอบการ 4Q61 ยังปัจจัยกดดันในช่วงก่อนประกาศผลประกอบการในเดือน ก.พ. 2562 เราแนะนำ ทยอยสะสม เมื่อราคาอ่อนตัว  เพื่อรอการฟื้นตัวของผลประกอบการใน 1H62 ราคาเป้าหมาย 67 บาท