WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Mayบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
 
Market summary
          เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นตามภูมิภาครับข่าวเชิงบวกจากถ้อยคำแถลงมุมมอง Hawkish ที่ลดลงของ Powell ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มพลังงาน นำโดย PTTEP, PTT, TOP, BANPU และกลุ่มค้าปลีกนำโดย CPALL, HMPRO  สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,592.7 จุด (+17.6 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.4 หมื่นลบ. ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 5.1 หมื่นล้านบาท 
          นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายหุ้นไทยอีกครั้งที่  1,068 ล้านบาท พร้อมเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิสูงกว่า 15,101 สัญญา
 
Investment theme
          คาด SET กลับมาแกว่งตัวในกรอบอีกครั้ง เพื่อรอผลของการเจรจาสงครามการค้าวันสัปดาห์นี้  ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เรามีมุมมองเชิงลบต่อทั้ง 3 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการลงทุน (เศรษฐกิจ, การเมืองโลก และการเงิน) พร้อมประเมินว่าตลาดหุ้นเข้าสู่สภาวะ Risk off ล่าสุด SET ปรับตัวลงกว่า 150 จุด สะท้อนความกังวลปัจจัยเศรษฐกิจจากการชะลอไปบางส่วน อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองเชิงลบต่อปัจจัยการเมืองโลก ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน (จนกว่าจะเห็นการทยอยลดวงเงินการกีดกันการค้าที่จะปัจจุบันกำลังเข้าสู่ช่วงการเจรจาอีกครั้ง) ในขณะที่ปัจจัยการเงิน พลิกกลับมาเป็นกลาง-บวกอ่อนๆ หลังการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและสหรัฐ อาจส่งผลให้ FED ต้องกลับมาช่วยเหลือด้วยการชะลอ QT เช่น การชะลอการลดขนาดงบดุลจากเดือนละ 5.0 หมื่นล้านเหรียญต่อเดือน และ/หรือ ปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้เหลือเพียงครั้งเดียว ซึ่งประเด็นดังกล่าว จะลดความกังวลเรื่องสภาพคล่องในตลาดที่ลดลงได้ส่วนหนึ่ง เป็นบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงฝั่ง Emerging market 
          Investment Theme: เราประเมินเป้าหมาย SET สิ้นปีที่ 1,743 จุด อย่างไรก็ตามใน 1Q19 มองว่าจะเป็นช่วงที่มีความผันผวนสูงไม่ต่างจากไตรมาสที่ผ่านมา มองกรอบการแกว่งตัวบริเวณ 1,540-1,645 จุด โดยกลุ่มที่เรามีมุมมองเชิงบวกได้แก่ Defensive  และ สื่อโฆษณา MACO, VGI
 
Big issue
          เมื่อคืนที่ผ่านมา : สมคิดมั่นใจ GDP ปี 2561 เติบโต 4-4.2% / Brent ปรับตัวขึ้นต่อที่ 57.3 เหรียญ ภายหลังซาอุดิอาระเบีย ระบุส่งออกน้ำมันลดลง 8 แสนบาร์เรล เป็น 7.1ล้านบาร์เรล 
 
Stock pick :  -
          Trading idea - แนะซื้อ HMPRO โดยเราคาดกำไร 4Q18 จะทำระดับ All time high ที่บริเวณ 1,690 ล้านบาท (+24%QoQ,+11%YoY) สนับสนุนจาก Seasonal และคาด Gross Margin เพิ่มขึ้นเป็น 28.2% จากระดับ 27.5% ในปีก่อน เป็นผลจากการเพิ่มสัดส่วนยอดขาย House band เราปรับประมาณการกำไรปีนี้และปีหน้าขึ้น 3% สะท้อน Margin ที่สูงขึ้น พร้อมปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 17.20 บาท (upside 15%)
 
Technical View
          พิจารณาแรงขายตามแนวต้านๆ เพื่อทำกำไรเล่นรอบ:  ดัชนีเปิดโดดและแกว่งตัวขึ้น จากแรงซื้อหลักของหุ้นกลุ่มพลังงาน จากนั้นแกว่ง Sideway Up ขึ้นปิด Gap ที่ 1592 ระยะสั้นมองว่าหากยังยืนเหนือ 1580 ได้จะมี Sentiment บวก ต่อเนื่อง และหากปิดยืนเหนือ 1600 ได้จะมีแนวโน้มหยุดลงในระยะกลาง อย่างไรก็ตามเนื่องจากแนวโน้มหลักยังเป็นขาลง ยังคงแนะนำให้พิจารณาแรงขายตามแนวต้านเป็นขั้นๆ มองแนวต้านที่ 1600 และ 1615 กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound ยังแนะนำขายหุ้นเพื่อลดพอร์ตตามแนวต้านต่างๆ และหากหลุด 1580 แนะนำ Lock Profit ทั้งหมด 2) ไม่มีหุ้น: หากอ่อนตัวไม่หลุดแนวรับ 1580-1585 มองเป็นโอกาสซื้อเพื่อเล่น Rebound ในกรอบ 1580-1600/1615
          แนวรับ : 1575, 1580 แนวต้าน : 1600, 1615
 
Keep an eye on…
          ปัจจัยต่างประเทศ :  เริ่มเข้าสู่ช่วงการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
          ปัจจัยในประเทศ :  จับตารัฐบาลแถลงประเด็นการเลื่อนการเลือกตั้ง
 
หุ้นเทคนิค:
          HMPRO  (B 14.40-14.70, Tp 15.50//16.00, Cut 14.00)
          BBL  (B 203.00-206.00, Tp 212.00//218.00, Cut 200.00)
 
ข่าวเด่นเช้านี้
 
HMPRO พื้นฐานแกร่ง มาร์จิ้นเติบโตต่อเนื่อง  (ทันหุ้น)
          HMPRO มองผลงานปี 2562 โตต่อเนื่อง ปรับปรุงประสิทธิภาพดันมาร์จิ้น เตรียมงบลงทุน 5-6 พันล้านบาท ขยายสาขาโฮมโปร เดินสายโรดโชว์ให้ข้อมูลนักลงทุน ฟากโบรกคาดกำไร Q4/2561 โต 10% มาร์จิ้น พุ่งแรง หุ้นพื้นฐานแกร่ง แนวโน้มกำไรสดใส 2562-2563 ประเมินราคาเหมาะสมที่ 17.50 บาท
          ความเห็น : คาดกำไรสุทธิ 4Q61 สูงเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากเข้าสู่ไฮซีซั่น และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มประสิทธิภาพดำเนินงานและเพิ่มสัดส่วนสินค้า House brand ซึ่งมีอัตรากำไรสูง แนวโน้มกำไรเติบอย่างมั่นคงต่อเนื่อง แนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 17.20 บาท เทคนิค sideway ในกรอบ 14.5-16.0 บาท
 
เร่งสร้างทางคู่ 1.3 แสนล้าน (ไทยโพสต์)
          รฟท.เร่งดันสร้างรางคู่สายอีสาน หวังเชื่อมอีอีซี 3 เส้นทาง มูลค่าลงทุนกว่า 1.3 แสนล้าน คาดเสนอสภาพัฒน์พิจารณาภายในสัปดาห์นี้ ก่อนชง ครม.พิจารณา พร้อมเปิดรับฟังความเห็นโครงการพัฒนาพื้นที่ใกล้สถานีขอนแก่น 108 ไร่ มูลค่า 5-8 พันล้าน คาดศึกษาเสร็จภายใน 3-4 เดือน
          ความเห็น : โครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 ทั้งหมด 9 เส้นทาง เกือบ 4 แสนล้านบาท ค่อนข้างล่าช้า  เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2561 ครม. ได้อนุมัติไปแล้ว 1 เส้นทาง คือ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ 8.5 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันยังไม่เปิดประมูล  สำหรับ 3 เส้นทางที่จะเสนอสภาพัฒน์พิจารณา ก่อนเสนอ ครม. อนุมัติ คือ เส้นขอนแก่น-หนองคาย 26,663 ล้านบาท, เส้นทางชุมทางถนนจิระ-อุบล ราชธานี 37,527 ล้านบาท และสายใหม่บ้านไผ่-นครพนม 67,965 ล้านบาท  รวม 1.3 แสนล้านบาท  กลุ่มรับเหมาเราแนะนำเก็งกำไรช่วงอ่อนตัวใน CK (เป้าหมาย 31 บาท) และ STEC (เป้าหมาย 29 บาท)
 
TOP อ่วม! สต๊อกลอสฉุด ราคาหุ้นพ้นจุดต่ำสุดแล้ว (ข่าวหุ้น)
          "ไทยออยล์" งบไตรมาส 4/61 โบรกฯคาดพลิกขาดทุนอ่วม 3,681 ล้านบาท เจอพิษค่าการกลั่นดิ่ง-ขาดทุนสต๊อกน้ำมัน พร้อมหั่นเป้ากำไรปี 61 เหลือแค่ 11,562 ล้านบาท แต่ยังแนะ "ซื้อเก็งกำไร" ชี้ราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว ลุ้นไตรมาส 1/62 ฟื้นพลิกกลับมามีกำไร
          ความเห็น :  ข่าวนี้สอดคล้องกับมุมมองตามรายงานของเราที่นำเสนอไปก่อนหน้า เราเชื่อว่า Valuation ของ TOP กลับมาน่าสนใจมากกว่าขึ้น แม้ผลประกอบการ 4Q61 จะอ่อนแอ แต่คาดจะพลิกกลับมีกำไรใน 1Q62 แนะนำ Trading Buy เป้าหมาย 85 บาท เทคนิคเกิดสัญญาณ Technical Rebound ต้าน 73 รับ 68 บาท
 
'BANPU' รุกหนักเวียดนามเป้าส่งมอบถ่านหิน 2 ล้านตัน (ทันหุ้น)
          BANPU ตั้งเป้าเพิ่มปริมาณส่งมอบถ่านหินในเวียดนามกว่า 2 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ 1.3 ล้านตัน หลังปริมาณไม่เพียงพอ-ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง เล็งลงทุนเพิ่มเติมในกลุ่มธุรกิจหลักภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างฐานการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
          ความเห็น :  การขยายตลาดถ่านหินไปยังเวียดนามของ BANPU เป็นกลยุทธ์ที่จะเพิ่มการขายไปในประเทศที่มีการเติบโตของความต้องการใช้ถ่านหินสูง นอกจากนั้นยังมองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจผลิตไฟฟ้าผ่าน BPP ที่เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังลม 80 MW (แผน COD ในปี 2564) และมองหาโอกาสต่อยอดไปในธุรกิจโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพื่อเชื่อมโยง Synergy ภายในกลุ่ม BANPU อย่างไรก็ตามเรามีความกังวลต่อแนวโน้มธุรกิจถ่านหินในช่วงที่เหลือของปี หลังผ่านไตรมาส 1 ที่อยู่ในช่วงฤดูหนาว อุปสงค์มีแนวโน้มชะลอตัวลง ขณะที่อุปทานเพิ่มมากขึ้น ในเชิงกลยุทธ์เราแนะนำ ทยอยขาย เมื่อราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น ด้านเทคนิคแนวต้าน 17/18 แนวรับ 15.7 บาท
 
COM7 ปัดผู้บริหารขายหุ้น ลุ้นปี 61 กำไรโต 891 ล้าน (ข่าวหุ้น)
          "สุระ" ยันผู้บริหารไม่ได้เทขายหุ้น พร้อมการันตีพื้นฐานธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง ส่วน "แอปเปิล อิงก์" ลดยอดขายไอโฟน ชี้ไม่กระทบผลประกอบการบริษัท ลั่นยอดขายไตรมาส 4/61 พุ่ง หนุนยอดขายปี 61 โตตามเป้า โบรกฯคาดไตรมาส 4/61 มีกำไรสุทธิ 253 ล้านบาท โต 19% ดันปี 61 ฟันกำไรสุทธิ 891 ล้านบาท โต 46% เชียร์ "ซื้อ" เป้าราคา 24 บาท
          ความเห็น :  เรามองตลาดอาจกังวลเกี่ยวกับ Apple ลดเป้าหมายยอดขายลงมากเกินไป  ขณะที่ในไทยไม่ได้แย่อย่างที่คาด กอปรกับยังมีแรงหนุนจากสินค้าอื่นๆ เช่น iPad , Macbook และ Apple watch ที่เติบโตได้ถึงสองหลัก และ Android smartphone ที่มีหลายรุ่นที่น่าสนใจเปิดตัวในไตรมาสนี้ เช่น Huawei Mate 20 เป็นปัจจัยหนุนยอดขายยังสามารถเติบโตได้ต่อ เรามองแนวโน้มกำไร 4Q61 เติบโตได้ทั้งเทียบ QoQ และ YoY ยังคงเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี ภาพในปีหน้ายังไปได้ต่อจากจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นราว +20% ผ่านการทำ M&A ในช่วง 1Q62  ขณะราคาปรับตัวลงมาอยู่บน Forward P/E'62 = 15X ถูกกว่ากลุ่มค้าปลีกที่เฉลี่ย 20X ด้านเทคนิคเข้าสู่ภาวะ Oversold ลุ้นการฟื้นตัว แนวต้าน 15.2 รับ 13.0 บาท
          นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ 
          Research Department Tel. 02-658-5000

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!