WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBSบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
Daily Trading Focus
“ดาวโจนส์ดิ่งหนัก เลื่อนเลือกตั้งไทย แต่อาจไม่นาน”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : AMATA (จากถือเป็นซื้อ)
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ -5.91 จุด ปิดที่ 1560.03 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางที่ 39.8 พันล้านบาท ถือว่าสอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาคแถบนี้ซึ่งส่วนใหญ่ปรับลงในโซนแดง ระหว่างวันดัชนีไปทำยอดสูงสุดถึง 1578.17 จุด แต่ช่วงบ่ายมีแรงขายรับข่าวอาจจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป จากเดิมเร็วสุด 24 ก.พ.62 แต่หากนับ 150 วัน ห้ามเกิน 9 พ.ค.62 ขณะที่ห้ามทับซ้อนกับงานพระราชพิธี 4-6 พ.ค.62 ส่วนผู้ซื้อสุทธิคือสถาบัน 3.2 พันล้านบาท และนักลงทุนทั่วไป 1.4 พันล้านบาท ด้านผู้ขายสุทธิคือ นักลงทุนต่างประเทศ 4.0 พันล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ 0.6พันล้านบาท ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์วันนี้คือ
# ระยะสั้นคาดว่า SET มีลักษณะไม่สดใส หลังดาวโจนส์ดิ่งหนักกว่า 600 จุด เพราะแอปเปิลปรับลดคาดการณ์ยอดขาย กังวลสงครามการค้าดัชนีภาคการผลิต (PMI) ธ.ค.สหรัฐชะลอ มีข่าว SCB และ KBANK ปรับขึ้นดอกเบี้ยฝาก ก็คาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยกู้ตามมา แบงค์จะได้ประโยชน์ แต่อสังหาฯ เช่าซื้อ จะได้รับผลลบ ด้านข่าวเลื่อนการเลือกตั้งเป็นลบ แต่หากเลื่อนไม่ไกล เช่น ปลาย มี.ค.62 ก็จะทุเลาลงบ้าง สำหรับข่าวผลกระทบ พายุ “ปาบึก” คาดว่าจะเป็นลบเพียงในระยะสั้นกับหุ้น PTTEP เดินทาง-ท่องเที่ยว โรงแรมและ สื่อสาร
# ด้านตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน ส่วนใหญ่เป็นลบโดยเฉพาะตลาดหุ้นโตเกียวลงหนัก ปัจจัยบวกที่พอมีคือ ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น และบาทแข็ง
# กลยุทธ์ คือ ทางเทคนิค นักวิเคราะห์เห็นว่า SET จะมีลักษณะผันผวน คือ ปรับลง สลับกับรีบาวด์ หากดัชนีฯอ่อนตัวลงมาอีกแนวรับจะอยู่ที่1550 เป็นแนวรับแรก และ 1530 เป็นแนวรับถัดไป ส่วนดัชนีฯเป้าหมายทางพื้นฐานปี 2562 เป็น 1780 จุด (+0.5 SD) ด้วยคาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรปี 61-62 ที่ +8%/+6% ตามลำดับ แนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี เมื่อมีการปรับตัวลงแรง หุ้น Top Pick ในงวด 1Q62 คือAOT,BBL,CPALL,HANA,PTT และ WHA
 
# หุ้นเด่น AOT :- การประมูลพื้นที่ดิวตี้ฟรีเป็นปัจจัยกระตุ้นในระยะต่อไป โดย TOR จะออกมาในเดือน ม.ค.นี้ และเปิดประมูลในปีนี้ คาดว่าจะรู้ผลการประมูลในไตรมาส 3 ทั้งนี้พื้นที่ประมูลดิวตี้ฟรีรอบนี้จะไม่รวมพื้นที่อาคาร 2 ที่ชะลอโครงการไปก่อน แต่การชะลอดังกล่าวไม่กระทบต่อประมาณการและราคาพื้นฐานหุ้น เนื่องจากเรายังไม่ได้ใส่ไว้ในประมาณการ คงคำแนะนำซื้อ AOT ให้ราคาพื้นฐาน 75.00 บาท ข้อดีคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะทยอยกลับมาฟื้นตัวได้ในงวดปี 62
 
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นภาพตลาดยังผันผวน ลงสลับกับรีบาวด์เป็นระยะๆ ซื้อใหม่เน้นค่าบวกทั้งราคาหุ้นและดัชนี แนวต้านระยะสั้น1575-1580 จุด, แนวรับคือ 1550, 1530 จุด 
นักกลยุทธ์&นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
 
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Industry Focus : ธนาคารพาณิชย์ : SCB & KBANK ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ
Company Guide : AMATA (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 26)
GPSC (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 70)
PTTEP (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 135)
SC (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 3.26)
In The News : ข่าวเด่น
Turnover List Watch : คาดว่ายังไม่มีหลักทรัพย์ใดติด Cash Balance
 
 
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
-สหรัฐ: แอปเปิล อิงค์ ประกาศปรับลดคาดการณ์รายได้ประจำไตรมาสแรกของปี 62
# ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างหนักหลังจากแอปเปิล อิงค์ ประกาศปรับลดคาดการณ์รายได้ประจำไตรมาสแรกของปีงบการเงิน 2562 ของบริษัทซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากเดิมที่คาดไว้ในช่วง 8.9-9.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงเหลือ 8.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 9.15 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยแอปเปิลระบุว่าการปรับลดคาดการณ์รายได้ในครั้งนี้เป็นผลจากยอดขาย iPhone ที่ชะลอตัวลงในจีน ขณะที่อุปสงค์ของลูกค้าในประเทศอื่นก็ไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่บริษัทคาดการณ์ไว้
 
-/+ สหรัฐ: ตัวเลขเศรษฐกิจ ธ.ค. ดัชนีภาคการผลิตอ่อน แต่การจ้างงานยังสดใส
# ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 54.1 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 59.3ในเดือนพ.ย. โดยข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานของไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ร่วงลงสู่ระดับ 53.8 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว จากระดับ 55.3 ในเดือนพ.ย.
# ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น271,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. จากระดับ 157,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
 
• สหรัฐ: ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร
# นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนธ.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ3.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 49 ปี
 
+/-สหรัฐ: ทรัมป์เรียกประชุมทั้งสองสภา สภาผู้แทนราษฎรพยายามแก้ปัญหา Shut Down
# นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐที่ล่วงเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ได้เชิญแกนนำในสภาคองเกรสทั้งจากพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันมายังทำเนียบขาว เพื่อหารือเกี่ยวกับภาวะชัตดาวน์ รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณสำหรับการรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดนเม็กซิโก
# ทางด้านสภาคองเกรส โดยสมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้วางแผนที่จะยุติภาวะชัตดาวน์ด้วยการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวในการประชุมครั้งนี้ แต่งบประมาณดังกล่าวจะไม่รวมงบในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงิน 5 พันล้านดอลลาร์ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกร้อง
 
- ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดาวโจนส์ดิ่งลงแรง หลังแอปเปิล ปรับลดคาดการณ์รายได้ และกังวลสงครามการค้า
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,686.22 จุด ร่วงลง 660.02 จุด หรือ -2.83% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่2,447.89 จุด ลดลง 62.14 จุด หรือ -2.48% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,463.50 จุด ดิ่งลง 202.43 จุด หรือ -3.04%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 600 จุดเมื่อคืนนี้ (3 ม.ค.) หลังจากบริษัทแอปเปิล อิงค์ ปรับลดคาดการณ์รายได้ เนื่องจากยอดขาย iPhone ที่ชะลอตัวลงในประเทศจีน ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ข้อมูลภาคการผลิตที่ซบเซาของสหรัฐยังเป็นอีก
 
ปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ปรับขึ้น โอเป็กผลิตน้ำมัน ธ.ค.61 ลดลง
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 1.2% 47.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 55.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (3 ม.ค.) หลังจากผลสำรวจของสื่อต่างประเทศระบุว่า การผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ลดลงในเดือนธ.ค. อย่างไรก็ตามสัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและความต้องการใช้พลังงาน
 
- ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ปิดปรับเพิ่มขึ้น เข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย หลังตลาดหุ้นร่วงแรง
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 10.70 ดอลลาร์ หรือ 0.83% ปิดที่1294.80 ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ม.ค.) เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนสัญญาทองคำปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2
 
ปัจจัยในประเทศ
- การเมืองไทย: ข่าวอาจมีการเลื่อนเลือกตั้ง ทำให้นักลงทุนผิดหวัง
# เลือกตั้ง'62: "วิษณุ" ถกกกต.หารือวันเหมาะสมเลือกตั้ง บ่ายนี้ ไม่ทับซ้อนงานพระราชพิธีฯ แจงโรดแมพยังอยู่ในกรอบกฏหมาย 150 วัน
# ผลกระทบ: SET มีส่วนอ่อนไหวไปกับวันเลือกตั้ง หากนับ 150 วัน ตามกรอบกม.จะเป็นวันสุดท้าย 9 พ.ค.62 แต่ขณะเดียวกันก็ห้ามทับซ้อนกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งเป็นวันที่ 4-6 พ.ค.62 จากเดินตามโรดแม็ปเร็วสุดคือ 24 ก.พ.62 ฝ่ายวิจัยฯจึงคาดว่าหากมีการเลื่อนก็จะอยู่ในราว ปลาย มี.ค.-เม.ย.62 ก็อาจจะกระทบทางลบกับ SET ในระยะสั้น แต่หากเลื่อนไม่นาน ก็คาดว่าจะยังอยุ่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้
 
-พายุ “ปาบึก” กระทบจิตวิทยาลบ PTTEP, AOT, BA, SPF และหุ้นโรงแรมที่มีที่พักทางภาคใต้ ชะอำ-หัวหินสื่อสาร
# ผลกระทบ: สำหรับ PTTEP: ได้รับผลกระทบพายุ "ปาบึก" จำกัด เพราะมีประกันภัยแบบ BI (Business Interruption)และปริมาณผลิตช่วงที่ต้องหยุดไปจากแหล่งบงกช คาดว่าจะเป็นส่วนน้อย เทียบกับปริมาณการผลิตก๊าซรวมทั้งปี และยังมีแหล่งก๊าซอาทิตย์ ทำการผลิตปกติอยู่ ส่วน AOT (ท่าอากาศยานภูเก็ตและหาดใหญ่), BA, SPF และหุ้นโรงแรมที่มีที่พักทางภาคใต้ ชะอำ-หัวหิน สก็คาดว่าจะได้รับผลกระทบทางลบเพียงระยะสั้น คือ จำนวนวันที่ให้บริการที่ได้รับผลกระทบทางลบไม่นาน หลังเหตุการณ์พายุสงบ ก็จะกลับมาดำเนินการได้ปกติ ส่วนสื่อสาร ต้องระวังเสาสื่อสาร และ cell siteต่างๆ อาจเสียหายได้
 
-/+ 'เอสซีบี'นำขึ้นดอกเบี้ยฝาก'กสิกร'ขยับตาม - จับตาแบงก์อื่นโดดร่วม
# "เอสซีบี" นำตลาด ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 0.25% สำหรับบัญชีฝากประจำไม่เกิน 5 ล้านทุกประเภท มีผลทันที 4ม.ค. ด้าน "กสิกรไทย" โดดตาม แต่มีผลวันนี้ ดันดอกเบี้ยฝากทั้ง 2 แบงก์สูงสุดของระบบที่ 1.15-1.85% จับตา แบงก์อื่นๆขยับตาม กันลูกค้าโยกเงินหนี (กรุงเทพธุรกิจ)
# ผลกระทบ: คาดว่าในอนาคตจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ตามมา เพื่อรักษาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Spread)หลักทรัพย์ได้ประโยชน์คือ ธนาคาร แต่เป็นลบกับ เช่าซื้อ อสังหากฯ และหลักทรัพย์ทั่วไปที่จะมีต้นทุนการเงืนเพิ่มขึ้น
 
-หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล: ยังอึมครึมจากข่าว ยาและค่ารักษาพยาบาล อาจจะถูกจัดให้เป็นสินค้าควบคุม
# จากข่าวก่อนหน้า ก.พาณิชย์เตรียมขึ้นบัญชียา เวชภัณฑ์ ค่าบริการโรงพยาบาล เป็นสินค้า-บริการควบคุม พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการแก้ปัญหาค่ารักษาพยาบาลระยะยาว ชง กกร.พิจารณา 9 ม.ค.นี้ ด้านโรงพยาบาลวิภาวดี ห่วงความหลากหลายการให้บริการลดลง ด้านมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคหนุนคุมเต็มที่ (กรุงเทพธุรกิจ)
# ผลกระทบ: ราคาหุ้นกลุ่มนี้ไม่ไปไหน เพราะหากมีผลบังคับใช้ จะทำให้ธุรกิจโรงพยาบาลมีการเติบโตได้ยากขึ้น แต่ขึ้นกับกกร. (คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน) ว่าจะมีข้อยุติออกมาอย่างใด ปัจจุบันหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลซื้อขายที่Trailing P/E สูง เป็น 33.7 เท่า เทียบกับ SET ที่ 14.6 เท่า ระยะนี้จึงมีแรงขายหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลออกมา ตัวที่ P/E สูง ได้premium มากคือ BDMS ที่ P/E 38.9 เท่า จึงอาจจะได้รับผลกระทบมาก ก่อนที่ผลการพิจารณาจาก กกร.จะออกมา
 
นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!