- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 04 January 2019 14:16
- Hits: 942
บล.กรุงศรี : Money Wizard
Daily Strategy
" ปัจจัยลบทั้งในนอก"
ตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ : SET Index ปิด -5.91 จุด (-0.38%) ปิดที่ 1,560 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.9 หมื่นล้านบาท จากความกังวลการเลือกตั้งที่ไม่แน่นอนหลังรองนายกฯเผยอาจต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเพื่อไม่ให้กระทบงานพระราชพิธีฯ ประกอบกับความกังวลเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวหลัง PMI จีน และยูโรโซนหดตัวลงต่อเนื่องยังคงกดดันดัชนี ทั้งนี้เป็นแรงขายในกลุ่ม COMM, PETRO และ TRANS สำหรับนักลงทุนต่างชาติเป็นฝั่งขายสุทธิ 3,962 ล้านบาท และ Net Short TFEX 11,783 สัญญา แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 599 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index อ่อนตัวลงทดสอบ 1,545 - 1,550 จุด จาก sentiment เชิงลบตลาดหุ้นสหรัฐที่ทรุดตัวลงแรงโดยเฉพาะหุ้น Apple หลังปรับลดคาดการณ์รายได้ลดลง รวมถึง ISM เผยดัชนีภาคการผลิตสหรัฐเดือนธ.ค.ร่วงลงสู่ 54.1 (จาก 59.3 ในเดือนพ.ย.) ตอกย้ำถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวหลัง PMI ภาคการผลิตของจีนและยูโรโซนหดตัวไปก่อนหน้านี้จากผลกระทบ Tradewar นอกจากนี้ยังมีความกังวลการเลือกตั้งของไทยที่ไม่แน่นอนหลังรองนายกฯเผยอาจต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเพื่อไม่ให้กระทบงานพระราชพิธีฯ อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นหลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกในเดือนธ.ค.ลดลง 460,000 สู่ 32.68 ล้านบาร์เรล/วันซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานและช่วยหนุนต่อดัชนีในจังหวะที่อ่อนตัวลงได้
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Domestic Play
- หุ้น Defensive Stock ในช่วงตลาดผันผวน BDMS, BEM และ TTW
- กลุ่มค้าปลีก (HMPRO, ROBINS, CPALL) ยอดใช้จ่ายเพิ่มในช่วงปลายปีและนโยบายกระตุ้นภาครัฐ
- กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD) คาดงบ 4Q18 เติบโตต่อเนื่องจากการขยายสินเชื่อและสาขาเพิ่มขึ้น
หุ้นแนะนำวันนี้: BEM (ปิด 9.90 ซื้อ/เป้า 11.5) ยังมั่นใจได้ต่อสัญญาสัมปทานทางด่วนอีก 37 ปี เพิ่ม Valuation ให้ BEM 2.9 บาทต่อหุ้น อีกทั้งยังปลดล็อก Overhang ของสัญญาสัมปทานเดิมที่จะหมดอายุในปี 2020, BGRIM (ปิด 27.75 ซื้อ/เป้า 33) มีโอกาสได้ข้อสรุปเรื่องต่อสัญญาโรงไฟฟ้าเดิมที่จะหมดอายุ (ประชุมวันจันทร์ที่ 7 ม.ค.) ขณะที่ระยะกลางถึงยาวมี Growth story จากเมกะวัตต์ที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศเวียดนาม
Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS
KSS report วันนี้ : CBG (ปิด 30.75 อัพเกรดเป็น ซื้อ/เป้าใหม่ 36 เดิม 43),TCAP (ปิด 50.25 ซื้อ/เป้า 63)
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
(-) ดาวโจนส์ร่วงแรง 660 จุด สงครามการค้าเริ่มส่งผล แอปเปิลปรับลดยอดรายได้หลังยอดขายในจีน ชะลอตัว : วานนี้ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 660 จุด (-2.83%) ปิดที่ระดับ 22,686 จุด นักลงทุนหวั่นวิตกผลกระทบจากสงครามการค้าจะทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากแอปเปิลประกาศลดคาดการณ์รายได้ 1Q19 ประมาณ 5.6% สู่ระดับ 8.4 หมื่นล้านเหรียญฯจาก 8.9-9.3 หมื่นล้านเหรียญฯ นอกจากนี้ตลาดยังถูกกดดันกับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของอเมริกาที่อ่อนแอโดยเฉพาะดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ธ.ค.ซึ่งจัดทำโดย ISM ลดลงสู่ระดับระดับ 54.1 จากระดับ 59.3 ในเดือน พ.ย.
(-) เลื่อนเลือกตั้งทำได้ ไม่ผิดกฏหมาย หากอยู่ในกรอบ 150 วัน นับจากวันที่ พ.ร.บ.เลือกตั้งเริ่มบังคับใช้(ไม่เกิน 6 พ.ค.) แต่กระทบ Sentiment การลงทุนจากความไม่แน่นอน : วันเลือกตั้งที่อาจจะถูกเลื่อนออกไปจากกำหนดการเดิมคือ 24 ก.พ. 2019 นับเป็นปัจจัยลบสร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดโดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติที่ตอบสนองในทางลบด้วยการเทขายหุ้นและ TFEX พร้อมกัน อย่างไรก็ตามเราคาดว่าปัญหานี้จะไม่รุนแรงหาก กกต.เร่งสร้างความชัดเจนด้วยการประกาศหรือกำหนดวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งสามารถทำได้และไม่ผิดกฏหมายแต่จะต้องอยู่ในกรอบเวลาไม่เกิน 150 วัน นับจากวันที่ พ.ร.บ.เลือกตั้งเริ่มมีผลบังคับใช้หรือช้าสุดไม่เกินวันที่ 6 พ.ค.2019
(+/-) ปัจจัยที่ต้องติดตามสัปดาห์หน้า ลุ้นเจรจาจีน - สหรัฐ คืบหน้าเพื่อยุติสงครามการค้า และติดตามการประชุม กกร.ต่อประเด็น การนำเวชภัณฑ์ และยา เป็นสินค้าควบคุม : สัปดาห์หน้ามีปัจจัยที่ต้องติดตาม 2 ประเด็นหลัก คือ 1) วันที่ 7 ม.ค.จีนสหรัฐประชุมยุติสงครามการค้า ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่มีการประชุมอย่างเป็นทางการ (ไม่ผ่านโทรศัพท์) ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ทั้ง 2 ปรเทศจะได้ข้อสรุปเบื้องต้นในการยุติสงครามการค้า เป็นบวกต่อ Sentiment การลงทุนโดยรวม และ 2) ประชุม กกร. เพื่อพิจารณาประเด็น นำ ยาและเวชภัณฑ์ เป็นสินค้าควบคุมในวันที่ 9 ม.ค. ซึ่งจะส่งผลบวกหรือลบต่อหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล
นักวิเคราะห์ ปัจจัยพื้นฐาน :
อาทิตย์ จันทร์สว่าง Registration No.16475
นักวิเคราะห์ เทคนิค และ นักกลยุทธ์:
ชัยยศ จิวางกูร Registration No. 15942
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์:
ยุภาวณี เล้าตระกูลชัย
ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี