WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BAYบล.กรุงศรี : Money Wizard
 
Daily Strategy
" ผันผวนรอปัจจัยใหม่ "
          ตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ : SET Index ปิดบวก 2.06 จุด (+0.13%) ปิดที่ 1,566 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.1 หมื่นล้านบาท ตอบรับความชัดเจนกรอบการเลือกตั้งของไทยโดยนายกฯยืนยันจัดการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. ตามโรดแมพ ประกอบกับความคาดหวังผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนในสัปดาห์หน้า  ทั้งนี้เป็นแรงซื้อในกลุ่ม COMM PROP FIN โดยนักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาขายสุทธิ 834 ล้านบาท แต่ Net Long TFEX 9,184 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 756 ล้านบาท 
          แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index แกว่งตัว 1,560 - 1,575 จุด โดยภาวะตลาดมีปัจจัยบวก/ลบที่คละเคล้า โดยได้แรงหนุนจากความมั่นใจของนักลงทุนหลังนายกฯยืนยันวันเลือกตั้ง 24 ก.พ. แฃะมีความคาดหวังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนในวันที่ 7 ม.ค. รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นหลังซาอุฯลดการส่งออกน้ำมันในเดือนธ.ค.ลง 5 แสนบาร์เรล/วัน และข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มใน/นอกโอเปกเริ่มมีผล อย่างไรก็ตามความกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอยังคงเป็นแรงกดดันหลัง PMI ภาคการผลิตของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ทั้งจีน สหรัฐและยูโรโซนหดตัวลงจากผลกระทบ Trade war  นอกจากนี้สถานการณ์ Shutdown ของสหรัฐที่ยังไม่แน่นอนจะเป็นแรงกดดันต่อทิศทางตลาดในช่วงนี้ 
 
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Domestic Play   
          - กลุ่มค้าปลีก (HMPRO, ROBINS, CPALL) ยอดใช้จ่ายเพิ่มในช่วงปลายปีและนโยบายกระตุ้นภาครัฐ 
          - กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD) คาดงบ 4Q18 เติบโตต่อเนื่องจากการขยายสินเชื่อและสาขาเพิ่มขึ้น 
          - หุ้น Defensive Stock ในช่วงตลาดผันผวน BDMS, BEM และ TTW 
 
          หุ้นแนะนำวันนี้: BEM (ปิด 9.95 ซื้อ/เป้า 11.5) ยังมั่นใจได้ต่อสัญญาสัมปทานทางด่วนอีก 37 ปี เพิ่ม Valuation ให้ BEM 2.9 บาทต่อหุ้น อีกทั้งยังปลดล็อก Overhang ของสัญญาสัมปทานเดิมที่จะหมดอายุในปี 2020, CPALL (ปิด 70.25 ซื้อ/เป้า 80) การเมืองเริ่มคึกคัก วานนี้เริ่มหาเสียงอย่างเป็นทางการ สถิติเลือกตั้ง 5 ครั้งหลังสุดของไทย กลุ่มค้าปลีกเป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนดีสุดทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง, HMPRO (ปิด 15.1 ซื้อเก็งกำไร/เป้า Consensus 17)  คาดความต้องการอุปกรณ์และวัสดุก่อสร้างเพื่อซ่อมแซมบ้านเรือนจะเพิ่มขึ้นจากผลกระทบของพายุโซนร้อนที่คาดว่าจะพัดเข้าอ่าวไทยในช่วงวันที่ 3-5 ม.ค.
          Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS 
          KSS report วันนี้ : GPSC (ปิด 58.75 ถือ/เป้า 62), STA (ปิด 13.8 ซื้อ/เป้า 22)TISCO (ปิด 79.75 ซื้อ/เป้า 95)
 
ประเด็นสำคัญวันนี้ :  
          (-) เศรษฐกิจโลกสัญญาณไม่ดี ดัชนี PMI ภาคการผลิตในทุกประเทศปรับตัวลง ขณะที่คืนนี้ติดตามการแก้ปัญหา US Shutdown : หลังจากที่จีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ธ.ค.ปรับตัวลงสู่ระดับ 49.7 และเป็นการลดลงต่ำกว่าระดับ 50 เป็นครั้งแรกในรอบ 19 เดือน บ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคการผลิตขณะที่เมื่อคืนยูโรโซนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ธ.ค.ลดลงสู่ระดับ 51.4 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ภาคการผลิตที่หดตัวในหลายประเทศอาจะเป็นสัญญาณเตือนหรือบ่งชี้ถึงภาวะการหดตัวของเศรษฐกิจโลกในระยะถัดไป ส่วนคืนนี้ติดตามการประชุมสภาครองเกสเพื่อแก้ปัญหา US Shutdown มีการคาดการณ์กันว่าที่ประชุมจะผ่านร่างงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาแต่ยังมีความเป็นไปได้ที่ ทรัมป์ จะไม่ลงนาม เนื่องจากที่ประชุมยังไม่บรรจุงบประมาณสร้างกำแพงเม็กซิโก 5 พันล้าน ตามที่ทรัมป์ ต้องการ 
          (+) น้ำมันฟื้นตัวตอบรับข่าวซาอุฯลดการส่งออกน้ำมันดิบ แต่คาดฟื้นตัวในกรอบจำกัดเนื่องจากภาพรวมยังถูกกดดันจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ : ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.13 ดอลลาร์ (+2.5%) ปิดที่ 46.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตอบรับข่าวซาอุฯ ส่งออกน้ำมันดิบลดลง 5 แสนบาร์เรล สู่ระดับ 7.25 ล้านบาร์เรล ในเดือน ธ.ค. นอกจากนี้ตลาดยังคาดหวังถึงซัพพลายในตลาดที่ลดลง หลังจากที่มาตรการลดกำลังการผลิตของ OPEC + Non OPEC เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามเรามองการฟื้นตัวของดัชนีจะเป็นไปอย่างจำกัดเนื่องภาพรวมยังถูกกดดันจากภาวะอุปสงส์ที่อ่อนแอโดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังชะลอตัว 
          (-) พายุโซนร้อนปลาบึกอาจกระทบกลุ่มธุรกิจภาคใต้ อาทิ PTTEP, HTC แต่หลังพายุผ่านพ้นจะมีกลุ่มที่ได้ประโยชน์ อาทิ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง TASCO, HMPRO และ GLOBAL : กรมอุตุฯเตือนพายุโซนร้อนปลาบึกซึ่งมีความเร็วลม ณ จุด ศูณย์กลางสูงถึง 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอาจจะมีความรุนแรงเทียบเท่าพายุแฮเรียตที่พัดถล่มแหลมตะลุมพุกเมื่อปี 2505 จึงมีความเป็นไปได้ที่ผลของพายุในครั้งนี้จะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจและกลุ่มธุรกิจในภาคใต้เป็นการชั่วคราว อาทิ PTTEP (หยุดผลิตแหล่งบงกชเป็นการชั่วคราวซึ่งมีกำลังการผลิตคิดเป็น 1 ใน 3 ของกำลังการผลิตทั้งหมดของ PTTEP) นอกจากนี้ยังมีธุรกิจอื่นๆอาทิ HTC, สวนปาล์ม และสวนยางพารา อย่างไรก็ตามภายหลังเกิดพายุเราคาดว่ากลุ่มวัสดุก่อสร้างจะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์ อาทิ TASCO, HMPRO และ GLOBAL 
          
          นักวิเคราะห์ ปัจจัยพื้นฐาน :
          อาทิตย์ จันทร์สว่าง Registration No.16475 
          นักวิเคราะห์ เทคนิค และ นักกลยุทธ์:
          ชัยยศ จิวางกูร Registration No. 15942
          ผู้ช่วยนักวิเคราะห์:
          ยุภาวณี เล้าตระกูลชัย
          ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!