WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLSบล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม 
 
กองทุน...มาตามนัด 
          "ตามคาด" เมื่อวานกองทุน กลับมาเป็นฝั่งซื้อสุทธิ 917 ล้านบาท หลังจากรินขายหุ้นไทยมาเรื่อยๆ และ มาขายหนักๆ 4 วันทำการติด รวม 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่พลิกจาก วันที่หุ้นไทยบวกเกือบ 40 จุด เมื่อ 3 ธค. โดยกองทุนเป็นฝั่งซื้อสุทธิไป 9.5 พันล้านบาท...  
          คาดแรงขายเพื่อมารับล่าง ของกองทุนในประเทศ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามีส่วนทำให้หุ้นไทย ผันผวนสูง ตลอดเดือนที่ผ่านมา น่าจะเริ่มลดลง และมีโอกาสจะกลับมาเป็นฝั่งไล่ซื้อหุ้นอีกครั้ง 
          รอบนี้ คาดหุ้นไทยไม่หลุดจากบริเวณแนวรับ ของระยะสัปดาห์นี้ ที่ประเมินไว้บริเวณ 1,584 จุด จากการสลับกลุ่มเข้าซื้อ โดยเปลี่ยนจาก พลังงาน สินค้าโภภัณฑ์ เข้า ธนาคาร และ หุ้นเชื่อมโยงการบริโภคในประเทศแทน ซึ่งเป็นไปตาม กลยุทธ์ที่เรา แนะนำ ไว้ในรายงาน Weekly strategy."เน้นซื้อกลุ่ม Domestic play และ Defensive หุ้นเชื่อมโยงการบริโภคในประเทศ...ธนาคาร อาหาร เครื่องดื่ม ค้าปลีก และ ชะลอการ "Bet" หุ้น Global play ที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก เช่น น้ำมัน ส่งออก เป็นต้น"            
          เราเชื่อว่าภาวะเลี่ยงความเสี่ยงในการลงทุน (Risk averse) และ แรงขายจากฝั่งกองทุนกดราคาหุ้นมารับล่าง เพื่อรอ ใส่เงินที่จะเข้าซื้อจาก LTF RMF ได้ในราคาที่ถูกลง น่าจะสิ้นสุดลงแล้ว และเชื่อว่า การฟนตัวจะเริ่มเกิดขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์นี้ไป      
 
What to watch:  
          (0) ไม้ตายมุขเดิมของ รัฐบาลสหรัฐฯ กับการปิดหน่วยงานรัฐฯ (Government shutdown) หากไม่ยอมผ่าน ร่างงบประมาณเบื้องต้น 5 พันล้านดอลล์ สำหรับการก่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดน เม็กซิโก ผ่านใน เส้นตายร่างงบประมาณชั่วคราว วันที่ 21 ธค.นี้ ซึ่งไม่น่าจะผ่าน เมื่อดูจากการพบปะระหว่าง ว่าที่ประธานสภาฯฝั่งเดโมแครตกับ ปธน.ทรัมป ในช่วงที่ผ่านมา...
          เรามองว่าผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯจากการ Shutdown รอบนี้ จะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากนัก เพราะงบปีหน้าถึง เดือน กย.ผ่านไปแล้วเกิน 75% สำหรับหน่วยงานสำคัญ และรอบนี้ถ้า Shutdown ก็จะเหลือแค่หน่วยงานที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน เช่น NASA, อุทยาน เป็นต้น      
          (+) ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ 20 ธค.ขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง 0.25% เป็น 2.25-2.5% และส่งสัญญาณเชิงบวกต่อนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น โดยแถลงลดเปาดอกเบี้ยปีหน้าว่า มีโอกาสขึ้นได้แค่ 2 ครั้ง จาก เดิม 3 ครั้ง  
          (+) กนง.ขึ้นดอกเบี้ย 1.5% ตาม "ตลาดคาด" (ผิดจากที่เราคาด) แต่ผลกระทบต่อตลาด ถือว่าเป็นบวก และไม่น่ากังวลอย่างที่เราเคยประเมินไว้แล้ว และ เมื่อวานส่งผลบวกต่อการเข้าซื้อกลุ่มธนาคารใหญ่ ประกันฯ และ หุ้นสถาบันการเงินอื่นที่ เล่นประเด็น M&A แทนกลุ่มน้ำมัน สินค้าโภคภัณฑ์ 
          (0) แบงก์ชาติ (กนง.) ปรับลด คาดการณ์ GDP ไทยปีนี้ ลงเหลือ 4.2% จากเดิม 4.4% ส่วนปีหน้าคาด 4% จากเดิม 4.2% เป็นการปรับลงช้ากว่าหน่วยงานอื่นๆ และอยู่ในกรอบที่ตลาดคาด และ MS คาด (2018-19) ที่ 4.1-3.9%   
 
หุ้นแนะนำ  
          BBL  TMB  คาดขึ้นต่อรับดอกเบี้ยขึ้นเมื่อวาน  
 
รายงานวันนี้   
 
TQM (IPO): Twin insurance pay-dividend plus growth  
          เราประเมินมูลค่าหุ้นที่เหมาะสมอยู่ในช่วง 8.4 พันล้านบาท -9.0 พันล้านบาท โดยมีปัจจัยบวกจาก 1) แบรนด์ที่แข็งแกร่งและฝายขายที่ใหญ่ จากประสบการณ์กว่า 65 ปีและพนักงาน TQM มีใบอนุญาตประเภทในการขายประกัน (single-license) ถึง 2,000 คน, 2) ความสัมพันธ์ดีระหว่างบริษัทประกันภัยประกันชีวิต การขายสินค้าจากบุคคลที่สามเพียงเท่านั้นเป็นการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ 3) ขนาดที่ใหญ่ได้เปรียบ ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้า 1.2 ล้านบัญชี (โดยยังคงหาลูกค้ารายใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง) ขนาดธุรกิจของ TQM เป็นพลังในการต่อรองค่าคอมมิชชั่นทั้งกับผลิตภัณ์วินาศภัยและประกันชีวิต การบริการ และการได้รับเครดิตเทอมจากบริษัทประกัน ส่งผลให้ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง และ 4) ตลาดขนาดใหญ่รวมถึงมีอัพไซต์ในการเติบโต ยอดขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและประกันวินาศภัยในประเทศไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 5 แสนล้านบาทในปี 2555 มาอยู่ที่ 8 แสนล้านบาทในปี 2560 อัตราการเติบโตเฉลี่ยระหว่างปี 2556-2560 อยู่ที่ 9.5% 
 
PLANB: Don't stick only with PLAN-A 
          เรามองว่าธุรกิจของ PLANB ยังมีการขยายตัวได้อีกมากจากปายบิลบอร์ดเป็นปายดิจิตอลและเข้าสู่ยุคของปายดิจิตอลแบบ Interactive รวมถึงมีคอนเทนต์ที่ทำให้เป็นมากกว่าแค่ปายโฆษณา เช่น Intelligent traffic report ในขณะที่มีการรุกเข้าไปสู่ Upstream ในด้านของ Content marketing ซึ่งเรามองว่าทั้ง BNK48, TPL และ E-sport ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเปาหมาย 8.80 บาท 
 
Tourism นักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน พ.ย ส่งสัญญาณบวก 
          ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยล่าสุดเดือนพ.ย 2018 เติบโต 4.5% YoY พลิกกลับจากตัวเลขเดือน ต.ค 2018 ที่ติดลบ 0.5% YoY และเติบโต 17% MoM แต่ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยเดือนพ.ย ลดลง 14.6% YoY ปรับตัวดีขึ้นจากจุดต่ำสุดในเดือนต.ค ที่ติดลบถึง 20% YoY และเริ่มกลับมาเติบโต 4.5% MoM ตัวเลขนักท่องเที่ยวโดยรวมที่ดีกว่าคาดล่าสุดเป็นสัญญานบวกต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว และคาดฟนตัวเต็มที่ช่วง high season ใน 1Q19 เราเน้นสองบริษัทแรกที่จะได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวต่างขาติฟนตัวก่อนได้แก่ AOT (ซื้อ; ราคาเปาหมาย 80 บาท) และ CENTEL (ซื้อ; ราคาเปาหมาย 54 บาท) จากนั้น  ERW จะเป็นตัวเล่นตาม (ซื้อเก็งกำไร; ราคาเปาหมาย 8.20 บาท)  
 
Thailand Economic Outlook 2019: Thai GDP growth moderates as the world economy slows 
          เศรษฐกิจโลกน่าจะชะลอตัวลงในปี 2019 เพราะความไม่แน่นอนด้านการค้าโลก สำหรับเศรษฐกิจไทย เราคาด GDP จะโต 3.8% ในปี 2019 ซึ่งตัวเลขที่เราคาดนั้นต่ำกว่าตลาดคาดเพราะ 1) การชะลอตัวของการค้าโลก 2) การบริโภคภาคเอกชนกลับสู่ปกติ เพราะการซื้อรถยนต์ใหม่กลับเป็นปกติ และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง จะช่วยให้ ดุลบัญชีเดินสะพัด เป็นบวกมากขึ้น รวมถึงเงินเฟอลดลง และอัตราแลกเปลี่ยนคาดที่ 31.5 THB/USD  เรามีมุมมอง Bullish ในค่าเงินบาท และอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เราคาด ธปท. จะ wait and see ไปอีกระยะหนึ่งหลังจากที่ขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว      
 
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
          (+) BBL KBANK SCB BLA / (-) บ้าน เช่าซื้อ: เมื่อวาน กนง.มีมติเอกฉันท์ 5 ต่อ 2 ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 1.75% 
          (+) TMB  เทก ธนชาต ขึ้นอันดับ 6 ไล่เบียดกรุงศรี "อภิศักดิ์" ยอมรับไฟเขียวดีลนี้แล้ว รอแค่การตีราคาหุ้น ด้านประธานบอร์ดทหารไทยเตรียมเสนอบอร์ดอนุมัติแผนรวมแบงก์ คาดใช้วีธีสวอปหุ้น ด้านคลังยืนราคาทหารไทยไม่ต่ำกว่า 3.86 บาท (ที่มา ข่าวหุ้น)  
          (+) MVP  เร่งขยายลงทุน หวังปี 62  พลิกกลับมามีกำไร หลังเตรียมเร่งขยายงาน พร้อมคาดจะชนะคดีลูกค้าเบี้ยวรับสินค้าหลังฟองศาลแพ่ง หนุน บันทึกเงินตั้งสำรองฯ มูลค่า 106 ล้าน กลับมา พร้อมวางงบลงทุนราว 50 ล้าน ซื้อEV-รถบ้านปล่อยเช่าเพิ่ม (กรุงเทพธุรกิจ)      
 
          วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336 
          นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค 
          ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
          นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน     
Trend Forecasting
 
SET Index ปิด 1601.12 (+1.13%) มูลค่าการซื้อขาย 4.5 หมื่นล้านบาท  
 
Topic: Oil price prediction 
          น้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลงแรง  
          คำถาม: ราคาน้ำมันมีโอกาสฟนตัวขึ้นได้หรือไม่?
 
          ราคาน้ำมันดิบ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 ปีกดดันดัชนีกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลง นอกจากนี้ผลกระทบจากความกังวลจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ทำให้ตลาดหุ้นโลกและสินทรัพย์เสี่ยงให้ผลตอบแทนติดลบ คำถาม: ราคาน้ำมันมีโอกาสฟนตัวขึ้นได้หรือไม่? จากชาร์ตรายสัปดาห์พบว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลงทดสอบแนวรับ $56/barrel (Fibonacci ratio 50%)สอดคล้องกับเครื่องมือวัดโมเมนตัม RSI ปรับตัวลงสู่กรอบล่างซึ่งเคยเป็นจุดฟนตัวในอดีต ขณะที่กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่กลุ่มโอเปกปรับลดปริมาณการผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันเพื่อรักษาสมดุลของตลาดน้ำมัน โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค. ปี 2562 นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงแรงในปัจจุบันคาดว่าจะเป็นจุด break even ของราคาต้นทุนบริษัทผลิตน้ำมันรายใหญ่ Shale oil อาจส่งผลให้การผลิตน้ำมันออกมาสู่ตลาดชะลอลง  
          สรุป: เราประเมินราคาน้ำมันดิบมีโอกาสฟนตัวจากการลงแรงและจะส่งผลบวกต่อหุ้นน้ำมันให้ปรับตัวขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน  มุมมองตลาด SET Index รีบาวด์ขึ้น ขณะที่เส้นค่าเฉลี่ย(10&25-days EMA) แสดงจุดต้านที่ 1620 และ 1630 จุดตามลำดับ  
          กลยุทธ์การเลือกหุ้น แนะนำหุ้นมีสัญญาณขึ้นจากภาวะ Oversold โดยใช้ parameter หลักได้แก่ 1.วอลุ่มสูงเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์ 2.ราคาปิดฟนตัวจากแนวรับ 3.หุ้นที่เริ่มแสดงความแข็งแกร่งจากค่า RSI ฟนตัว 4.สัญญาณซื้อจากเครื่องมือ Stochastic MACD 5.ราคาหุ้นดีดกลับปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 
          Technical screen Bull Signal: PTTEP, KBANK, TCAP 
          Port หุ้นคงเหลือ: CPALL, TISCO, M, BJC, TOP, ADVANC, OSP, GPSC, TU, PTTEP, KBANK, TCAP 
          แนวโน้มระยะสั้นมอง SET Index แนวรับ 1,590 แนวต้าน 1,615 / SET100 รับ 2340 ต้าน 2370 BSET100 รับ 10.15 ต้าน 10.30 / BMSCITH รับ 12.00 ต้าน 12.15 
 
          ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค                                                                      
          [email protected] +662-618-1334 
 
Track with Technical 
 
          PTTEP 
          แนะนำ:ซื้อเก็งกำไร 
          เป้าหมาย:130.00 
          Stop loss <115.00 
          เหตุผล: หุ้นปรับตัวลงแรง อย่างไรก็ตามชาร์ตรายสัปดาห์บ่งชี้โครงสร้างขาขึ้น ปัจจุบันเกิดสัญญาณฟนตัวบริเวณแนวรับสำคัญ 115 บ. พร้อมกับดัชนี RSI ฟนตัวขึ้นจากกรอบล่าง 
 
          KBANK 
          แนะนำ:ซื้อ 
          เป้าหมาย:195.00 
          Stop loss <186.00 
          เหตุผล: กราฟแท่งเทียนส่งสัญญาณกลับตัวระยะสั้น " Tweezer bottom " หนุนด้วยสัญญาณเตือนการฟนตัวจาก RSI รูปแบบ Bullish divergence 
 
          TCAP 
          แนะนำ:ซื้อ   
          เป้าหมาย:58.00 
          Stop loss <53.00 
          เหตุผล: โครงสร้างระยะกลางบ่งชี้การพักตัวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมขาขึ้น Ascending triangle กรณีทะลุผ่านกรอบบนจะส่งผลให้หุ้นเปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาขึ้น สังเกตวอลุ่มเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!