- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 18 December 2018 15:09
- Hits: 1668
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
------------------
Market Outlook
• วานนี้ SET Index ปิดที่ 1,601.48 จุด -7.97 จุด (-0.50%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4 หมื่น ลบ. โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องอีก 472 ลบ. สำหรับวันนี้เราคาด SET Index แกว่งลักษณะ Sideway Down ต่อ ประเมินกรอบ 1,585-1,617 จุด โดยใช้แนวรับ-ต้านทางเทคนิค ( ใช้ Previous Low Support และ EMA5 Day Resistance )
Market Factors
• (-) Sentiment ของตลาดหุ้นต่างประเทศยังคงถูกกดดันด้วยตัวเลข ศก. ในประเทศใหญ่ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยเฉพาะในจีนและสหรัฐฯ ที่เริ่มสะท้อนผลของสงครามการค้ามากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ในฝั่ง Fed กำลังเข้าสู่ช่วงประชุมเดือน ธ.ค. เพื่อหารือขึ้นดอกเบี้ยในวันที่ 18-19 ธ.ค. นี้ (Implied Prob. 71.5%) สร้างความกังวลที่ ศก. สหรัฐฯ จะมีโอกาสชะลอตัวลงต่อเนื่องตามต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น
• (watch) จับตาประชุม กนง. พรุ่งนี้ โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่ามีจำนวนนักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์ 14 ท่าน จากทั้งหมด 19 ท่าน คาดการณ์ว่าจะเพิ่มดอกเบี้ยในการประชุม 19 ธ.ค. นี้ อีก 0.25% มองหากขึ้นดอกเบี้ยจริงจะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นเพราะต้นทุนทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนจะสูงขึ้น
• ตลท. ประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณ SET50, SET100, SETHD ในช่วง 1H62 (ตั้งแต่ 1 ม.ค. - 31 มิ.ย. 62) ดังนี้
1. หุ้นนำเข้า SET50 : GULF, WHA หุ้นนำออก SET50 : BEAUTY, CBG
2. หุ้นนำเข้า SET100: AEONTS, ANAN, GOLD, GULF, MBK, PLANB
หุ้นนำออก SET100: BLA, GGC, ITD, LPN, TPIPL, UV
3. หุ้นนำเข้า SETHD : IRPC หุ้นนำออก SETHD : LPN
Investment Strategy
• ในช่วง 2 สัปดาห์นี้จนถึงสิ้นปี เราคาด SET Index จะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ-แนวต้านที่ 1,580–1,665 จุด (Fwd PE 14.7x-15.5x) โดยแม้มีปัจจัยกดดันจากต่างประเทศทั้งเรื่องตัวเลขศก.จีนที่ชะลอตัวด้วยผลจาก Trade Wars บวกกับ การประชุม FOMC (18-19 ธ.ค.) ที่ตลาดคาดมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ย อีกทั้งปัจจัยในประเทศเรื่องการประชุม กนง. (19 ธ.ค.) แต่อย่างไรก็ดี เรามองว่าตลาดยังมีปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งที่มีแนวโน้มชัดเจนขึ้น เราแนะนำ ทยอยสะสมหุ้น Domestic Play 4 กลุ่มหลัก ดังนี้
1. กลุ่มOut of Home Media ซึ่งมีฐานต่ำในปีก่อน จากได้รับผลกระทบจากการขึ้นป้ายไว้อาลัยบวกกับคาดเม็ดเงินโฆษณามีทิศทางสดใสขึ้นรับผลบวกในช่วงเม็ดเงินโฆษณาภาคเอกชนยังโตต่อเนื่อง แนะนำPLANB (แผนขยายMedia Capacity 15-20%YoY และสร้างจุดเด่นด้วยEngagement Marketing), VGI (รับรู้รายได้ป้ายโฆษณาบนสถานี BTS ที่เพิ่มขึ้นตามการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายใหม่บวกกับแรงหนุนจากSynergy ในกลุ่มธุรกิจที่ชัดเจนขึ้น พร้อมแผน M&A อีก 2-3 บริษัทในปีหน้าเพื่อก้าวสู่การเป็น Marketing Solution) และ MACO (แผนปรับปรุงจอโฆษณาจาก Static เป็น Digital ในเชิงรุกมากขึ้นหลังควบรวมTrans Ad. และRoctecรวมทั้งมีรายได้จากVGM เพิ่มเข้ามาหลังรวมงบ และล่าสุดประกาศร่วมทุนกับ Sinarmas Group เพื่อลงทุนให้บริการสื่อใน 13 สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในอินโดนีเซีย)
2. กลุ่มค้าปลีก มองช่วง 4Q61 กำลังซื้อจะดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้าที่อยู่ในช่วงไว้อาลัยนอกจากนี้ปีหน้ายังมีอานิสงส์บวกจากมาตรการคืนVAT 5% ให้ประชาชนทุกคนที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตผูกบัญชีพร้อมเพย์ ตั้งแต่ 1-15 ก.พ. 62 เพื่อกระตุ้นนโยบาย E-Payment เลือก ROBINS (คาดโตจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นเพราะเปิดสาขาใหม่ และกลยุทธ์ปรับ Product Mixed มาเน้นขายสินค้าในกลุ่ม Private Brand มากขึ้น) CPN (คาดโตจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ และการปรับปรุงศูนย์การค้าที่เปิดดำเนินการอยู่แล้ว ควบคู่กับการบริหารต้นทุนการดำเนินงาน โดยปัจจุบัน CPN บริหารจัดการศูนย์การค้า 33 แห่ง มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 1.7 ล้าน ตร.ม. เพิ่มจาก 1.6 ล้าน ตร.ม. ณ สิ้นช่วง 3Q60)และ COL (มีแผนขายสิทธิแฟรนไชส์เพื่อเปิดสาขาได้ราว 3-4 สาขาสำหรับปีนี้ และปีหน้าตั้งเป้าขยายอีก 15-20 สาขาและแผนเพิ่มกลุ่มสินค้าใหม่ เจาะลูกค้ากลุ่มโรงแรม ร้านกาแฟ และร้านอาหาร ซึ่งแผนงานนี้จะทำให้บริษัทมีรายการสินค้าเพิ่มเข้ามาอีก 4,000 SKU)
3. กลุ่มนิคม มองได้อานิสงส์บวกจากการเลือกตั้งที่มีความคืบหน้าชัดเจนขึ้นคาดหนุนทั้งราคาขายและยอดขายพื้นที่ในเขต EEC โตเด่นแนะนำ AMATA (ปัจจุบันมีพื้นที่รอการขาย 2,777 ไร่ และพื้นที่รอการพัฒนาอีกราว8,172 ไร่), WHA (ปี 62 ตั้งเป้าขายที่ดินในนิคมไม่ต่ำกว่า1,000 ไร่พร้อมคาดได้รับลูกค้าคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1 แสน ตรม.)
4. กลุ่มธนาคาร มองได้อานิสงส์จากการขึ้นดอกเบี้ย บวกกับได้ประโยชน์จาก Investment Cycle จากการลงทุนในประเทศ ซึ่งคาดหนุนสินเชื่อในปี 62 ยังโตดี โดยเฉพาะพอร์ตสินเชื่อกลุ่ม Corporate ที่มีสัดส่วน 35-50% และมีสินเชื่อบ้านในสัดส่วนที่น้อย แนะนำBBL(มีสินเชื่อ Corporate 41% อีกทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมคาดสูงขึ้นจากการเน้นธุรกิจBancassuranceจากการขายประกันผ่าน AIA และ BLA)
17-Dec-18 Change (pts.) 14-Dec-18
SET Index 1,601.48 -7.97 1,609.45
SET50 Index 1,068.52 -3.13 1,071.65
SET100 Index 2,352.17 -9.08 2,361.25
High 1,615.63 Gainers 302
Low 1,593.37 Unchanged 392
Value (Bt m) 39,756.77 Losers 1,067
Volume (*000) 14,313,968
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 14.9 13.8 13.8
EPS Growth (%) 13.9 9.3 5.3
EV/EBITDA (x) 10.3 9.6 9.1
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.2 3.5 3.7
ROE 13.1 12.3 12.3
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 17-Dec-18 WTD MTD YTD
Institution (1,116.42) (1,116.42) 325.71 178,918.59
Proprietary (228.46) (228.46) (1,471.03) (8,830.73)
Foreign (471.95) (471.95) 1,050.66 (286,115.33)
Individual 1,816.82 1,816.82 94.66 116,027.48
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary