- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 14 December 2018 16:43
- Hits: 3784
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
----------------
Market Outlook
• วานนี้ SET Index ปิดที่ 1,614.99 จุด -19.89 จุด (-1.22%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.25 หมื่น ลบ. ด้วยแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานหลังนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า 5,495 ลบ. สำหรับวันนี้เราคาด SET Index เกิด Technical Rebound 1,600-1,634 จุด โดยคาดมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น
Market Factors
• (-) วานนี้มาริโอ ดรากิประกาศยุติโครงการซื้อพันธบัตรของ ECB แต่ยังคงนโยบาย Reinvestment เงินจากพันธบัตรที่ครบกำหนดอายุ เพื่อเพิ่ม Policy Tool รองรับ ศก. ตกต่ำครั้งใหม่ หลังมีความกังวลต่อความไม่แน่นอนจากทั้งภายในกลุ่ม EU และปัจจัยจากสงครามการค้าที่อาจกระทบต่อการเติบโตของ EU ส่งผลให้ ECB เริ่มปรับลดประมาณการอัตราโตของ EU ปี 2019 จากเดิมที่ +1.8%YoY เหลือ +1.7%YoY กดดันให้เงินยูโรอ่อนค่า
• (+) ราคาน้ำมันดิบปิดบวกกว่า 2%DoD หลังมีรายงานสต๊อกน้ำมันดิบจากท่าคุชชิ่ง ลดลงกว่า 0.8 ล้านบาร์เรล ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนถึงอุปทานน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ ที่ ตึงตัวมากขึ้น
• (watch) วันนี้ (11.00 น.) คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) จะประชุมพิจารณาข้อเสนอซอง 3 ของเอกชนที่ยื่นขอเงินอุดหนุนจากรัฐน้อยที่สุด และต่ำกว่าเกณฑ์ที่ครม.อนุมัติที่ 1.19 แสน ลบ. หากกรรมการไม่มีข้อคิดเห็นเพิ่มเติม จะเข้าสู่ขั้นตอนเจรจากับเอกชนผู้ชนะการประมูล และคาดใช้เวลา 2 สัปดาห์ โดยจะเสนอผู้ชนะให้ครม.เห็นชอบและลงนามสัญญาภายใน 31 ม.ค.62 (ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ)
Investment Strategy
• เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อ SET Index ตั้งแต่สัปดาห์หน้าจนถึงสิ้นปีนี้ โดยมีแนวรับ-แนวต้านที่ 1,600–1,687 จุด (Fwd PE 14.9x-15.9x) โดยมีปัจจัยหนุนจากการประชุมกนง.ในสัปดาห์หน้า โดยนักเศรษฐศาสตร์ 3 ใน 5 คน ใน Bloomberg Consensus คาดดอกเบี้ยจะปรับเพิ่มขึ้นที่ระดับ 1.75% บวกกับความชัดเจนขึ้นในการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ หลัง คสช.ปลดล็อก ม.44 ในการให้ ปชช.และพรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมือง เราจึงแนะนำหุ้น Overweight ในหุ้น Domestic Play 4 กลุ่มหลักที่น่าสนใจ ดังนี้
1. กลุ่มOut of Home Mediaซึ่งมีฐานต่ำในปีก่อน จากได้รับผลกระทบจากการขึ้นป้ายไว้อาลัยบวกกับคาดเม็ดเงินโฆษณามีทิศทางสดใสขึ้นรับผลบวกในช่วงก่อนเลือกตั้ง แนะนำPLANB (แผนขยายMedia Capacity 15-20%YoY และสร้างจุดเด่นด้วยEngagement Marketing), VGI (รับรู้รายได้ป้ายโฆษณาบนสถานีBTS ที่เพิ่มขึ้นตามการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายใหม่บวกกับแรงหนุนจากSynergy ในกลุ่มธุรกิจที่ชัดเจนขึ้น พร้อมแผน M&A อีก 2-3 บริษัทในปีหน้าเพื่อก้าวสู่การเป็น Marketing Solution) และ MACO (แผนปรับปรุงจอโฆษณาจากStatic เป็นDigital ในเชิงรุกมากขึ้นหลังควบรวมTrans Ad. และRoctecรวมทั้งมีรายได้จาก VGM เพิ่มเข้ามาหลังรวมงบ และล่าสุดประกาศร่วมทุนกับ Sinarmas Group เพื่อลงทุนให้บริการสื่อใน 13 สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในอินโดนีเซีย)
2. กลุ่มค้าปลีก มองช่วง 4Q61 กำลังซื้อจะดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้าที่อยู่ในช่วงไว้อาลัยนอกจากนี้ปีหน้ายังมีอานิสงส์บวกจากมาตรการคืนVAT 5% ให้ประชาชนทุกคนที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตผูกบัญชีพร้อมเพย์ ตั้งแต่ 1-15 ก.พ. 62 เพื่อกระตุ้นนโยบาย E-Payment เลือก ROBINS (คาดโตจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นเพราะเปิดสาขาใหม่ และกลยุทธ์ปรับ Product Mixed มาเน้นขายสินค้าในกลุ่ม Private Brand มากขึ้น) CPN (คาดโตจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ และการปรับปรุงศูนย์การค้าที่เปิดดำเนินการอยู่แล้ว ควบคู่กับการบริหารต้นทุนการดำเนินงาน โดยปัจจุบัน CPN บริหารจัดการศูนย์การค้า 33 แห่ง มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 1.7 ล้านตร.ม. เพิ่มจาก 1.6 ล้านตร.ม. ณ สิ้นช่วง 3Q60)และ COL (มีแผนขายสิทธิแฟรนไชส์เพื่อเปิดสาขาได้ราว 3-4 สาขาสำหรับปีนี้ และปีหน้าตั้งเป้าขยายอีก 15-20 สาขาและแผนเพิ่มกลุ่มสินค้าใหม่ เจาะลูกค้ากลุ่มโรงแรม ร้านกาแฟ และร้านอาหาร ซึ่งแผนงานนี้จะทำให้บริษัทมีรายการสินค้าเพิ่มเข้ามาอีก 4,000 SKU)
3. กลุ่มรับเหมาก่อสร้างคาดได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ในเดือน ก.พ. ปีหน้าซึ่งจะสะท้อนไปที่หลายโครงการภาครัฐที่จะเริ่มดำเนินการต่อบวกกับในช่วงเดือนธ.ค.61 -ก.พ.62 มีโครงการภาครัฐที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคุณสมบัติและยื่นซองประมูล ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบิน (ทราบผลประมูลภายใน 14 ธ.ค.) โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 (ยื่นซองประมูล 14 ม.ค.62 และทราบผลเดือนก.พ.62) เป็นต้น แนะนำ UNIQ มี Backlog 3.4หมื่นลบ. ซึ่งเป็นงานภาครัฐโดยเฉพาะงานรถไฟฟ้าและ SEAFCO มีโอกาสได้รับงาน Subcontract จากผู้รับเหมาขนาดใหญ่ในโครงการต่างๆ และมีBacklog ในมือราว2.8 พันลบ.คาดเพียงพอต่อการรับรู้รายได้1-2ปีข้างหน้า
4. กลุ่มนิคมมองได้อานิสงส์บวกจากการเลือกตั้งที่มีความคืบหน้าชัดเจนขึ้นคาดหนุนทั้งราคาขายและยอดขายพื้นที่ในเขตEEC โตเด่นแนะนำAMATA (ปัจจุบันมีพื้นที่รอการขาย 2,777 ไร่ และพื้นที่รอการพัฒนาอีกราว8,172 ไร่) ,WHA (ปี62 ตั้งเป้าขายที่ดินในนิคมไม่ต่ำกว่า1,000 ไร่พร้อมคาดได้รับลูกค้าคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า1 แสนตารางเมตร)
13-Dec-18 Change (pts.) 12-Dec-18
SET Index 1,614.99 -19.89 1,634.88
SET50 Index 1,074.20 -15.00 1,089.20
SET100 Index 2,369.20 -32.84 2,402.04
High 1,642.20 Gainers 375
Low 1,612.91 Unchanged 372
Value (Bt m) 52,506.38 Losers 999
Volume (*000) 12,404,895
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 15.0 13.8 13.8
EPS Growth (%) 13.9 9.3 5.5
EV/EBITDA (x) 10.4 9.7 9.2
FWD PBV (x) 1.9 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.2 3.5 3.7
ROE 13.1 12.3 12.3
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 13-Dec-18 WTD MTD YTD
Institution (5,495.34) (6,242.56) 3,458.98 182,051.86
Proprietary (203.61) (412.12) (223.85) (7,583.56)
Foreign 117.19 (3,089.68) 3,000.55 (284,165.45)
Individual 5,581.76 9,744.36 (6,235.67) 109,697.15
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary