WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBSบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

“ติดตาม PTTEP และประกาศไฮสปีด เทรน”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ลงแรง -19.89 จุด ปิดที่ 1614.99 จุด มูลค่าการซื้อขายปานกลางที่ 52.5 พันล้านบาท ดัชนีฯไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่1642 จุดไปได้ แม้มีข่าวดีการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐเป็นบวกมากขึ้น จีนเตรียมเปิดตลาดให้สหรัฐทั้งการนำเข้าถั่วเหลืองและรถยนต์จากสหรัฐ ถือว่า SET ปรับตัวแย่กว่าภูมิภาค หลัง PTTEP ปรับตัวลงมาก เมื่อประกาศว่าได้แหล่งบงกช-เอราวัณ แต่ได้ราคาก๊าซที่ต่ำเทียบกับปัจจุบัน พลอยดึงให้หุ้น PTT ปรับลงไปด้วย นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 5.6 พันล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิเล็กน้อย ด้านสถาบันขายสุทธิ 5.5 พันล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิเล็กน้อย สำหรับแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์วันนี้คือ

# ระยะสั้นมากคาดว่า SET มีโอกาสรีบาวด์ หลังวานนี้ลงแรง แต่ก็ต้องระมัดระวัง แรงขายทำกำไร เพราะสัญญาณไม่ดีหลังวานนี้หลุด 1630 ซี่งเป็นจุด Stop Lossปัจจัยบวกคือ การเจรจาการค้าจีน-สหรัฐเป็นบวกมากขึ้น จีนเตรียมเปิดตลาดให้สหรัฐทั้งการนำเข้าถั่วเหลืองและรถยนต์จากสหรัฐ ราคาน้ำมันปรับขึ้นได้ ส่วนปัจจัยลบคือ ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านถูกขายทำกำไร ดาวโจนส์ล่วงหน้า -120 จุด (8:34 น.) ดอลลาร์แข็งค่า และบอนด์ ยิลด์ 10 ปี สหรัฐทยอยปรับขึ้น เพราะเข้าใกล้การประชุมเฟด

# วันนี้ติดตามหุ้น PTEEP และกลุ่ม PTT หลังย่อยข่าว ด้าน DBSVTH กลับให้ราคาพื้นฐานเพิ่มเป็น 160 บาท และประกาศผู้ชนะไฮสปีดเทรน เชื่อม 3 สนามบินสัปดาห์หน้าติดตามการประชุมเฟด 18-19 ธ.ค.61 คาดกันว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง แต่ปีหน้ามีโอกาสที่จะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังมีแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐชะลอ สำหรับ กนง.ก็จะมีการประชุมว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่

# หุ้นเด่นเดือนธ.ค.61 เน้นไปยังหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) ที่กองทุนในและต่างประเทศให้ความสนใจ หาจังหวะลงทุนได้แก่ ADVANC, AEONTS, BBL, KKP,TISCO, BEM, CPALL, PTTEP, TOP และหุ้นที่ราคาอ่อนลงมากแต่กำไรยังเติบโตดีในปี 62 คือ GOLD, SVI SET เป้าหมาย SET ปี 62 เป็น 1,780 จุด ใช้ประมาณการ EPS เติบโตปี 61 เป็น 8% และปี 62 ที่ 6% ประเมินด้วย P/E Median+0.5 SD

# หุ้นเด่น: CPN – คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาพื้นฐาน 85.00 บาท ซึ่งประเมินด้วยวิธี DCF ราคาปิดมีส่วนเพิ่ม 10% ยังชื่นชอบปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ CPNในการเป็นผู้นำตลาดศูนย์การค้าไทย ที่มีจำนวนถึง 33 แห่ง ด้วยอัตราการเข้าเช่า (OR) ที่สูงเป็น 91% ปรากฎว่าเริ่มมีการนำ GLAND มาทำงบรวมแล้ว ในที่งวดผ่านมา และมีการเลื่อนเปิดโครงการ “Central City” ไปยัง 1Q62

การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นภาพตลาดเป็นลบต่อ ซื้อใหม่เน้นค่าบวกทั้งราคาหุ้นและดัชนี แนวต้านระยะสั้น 1620-1630, 1640 จุด, แนวรับคือ 1600, 1590หาก SET หลุด 1610 จุดดูไม่ค่อยดี ให้ Stop loss เพื่อรอซื้อช่วงปรับฐาน

สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ BBL, CPN, M, BEM หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ BH, EGCO, M, GLOBAL หุ้นที่หลุด List KTB, CKP, BCH,GULF, VGI หุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit คือ TISCO
นักกลยุทธ์&นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]

Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+/• สงครามการค้าจีน-สหรัฐ : เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น
# นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด ขณะที่รายงานล่าสุดระบุว่าบริษัทของรัฐบาลจีนได้สั่งซื้อถั่วเหลืองของสหรัฐมากกว่า 1.5 ล้านตัน ซึ่งเป็นการสั่งซื้อถั่วเหลืองสหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 6 เดือน นอกจากนี้ สื่อรายงานว่ารัฐบาลจีนเตรียมทบทวนนโยบาย "Made in China 2025" เพื่อเปิดทางให้บริษัทต่างชาติสามารถเข้าสู่ตลาดจีนได้มากขึ้น และจีนยังเตรียมการพิจารณาการปรับลดอัตราภาษีรถยนต์ที่นำเข้าจากสหรัฐ ลงสู่ระดับ 15% จากปัจจุบันที่ระดับ 40%
# ทางฝั่งสหรัฐนั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนกำลังดำเนินไปด้วยดี และเขาพร้อมจะแทรกแซงกรณีการจับกุมตัวนางเมิ่ง ว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ)ของบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี หากจะช่วยให้สหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน

+ เฟด: คาดการณ์ว่าจะไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย หลัง CPI พ.ย.ออกมาต่ำ
# นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 18-19 ธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 4 สำหรับปีนี้ แต่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ทรงตัว และการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ซบเซาในเดือนพ.ย.

-/+ สหรัฐ: ตัวเลขการขอรับสวัสดิการครั้งแรกออกมาแข็งแกร่ง
# สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 27,000 ราย สู่ระดับ 206,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 49 ปี ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 225,000 ราย

+/• อังกฤษ: นางเมย์รอดมติไม่ไว้วางใจ
# นางเทเรซา เมย์ รอดพ้นจากการลงมติไม่ไว้วางใจจากสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งส่งผลให้นางเมย์ยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมต่อไป โดยนางเมย์ได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมในสภาสามัญชน ด้วยคะแนนเสียง 200 ต่อ 117 เสียง
# นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป (EU) เมื่อวานนี้ เพื่อหาทางเชื่อมโยงการดำเนินการที่ได้มีการให้คำมั่นไว้จากผู้นำ EU เกี่ยวกับข้อตกลงเกี่ยวกับ Backstop หรือนโยบายที่ทั้งสองฝ่ายใช้ระบบศุลกากรร่วมกัน ซึ่งครอบคลุมสินค้าเกือบทุกชนิด ยกเว้นสินค้าประมงในบริเวณชายแดนของไอร์แลนด์

-ECB: ประกาศยุติโครงการ QE ในช่วงสิ้นเดือนนี้
# ECB ประกาศยุติโครงการ QE ในช่วงสิ้นเดือนนี้ หลังจากที่ได้เข้าซื้อพันธบัตรในวงเงิน 1.5 หมื่นล้านยูโร (1.74หมื่นล้านดอลลาร์) ต่อเดือนก่อนหน้านี้

+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดาวโจนส์ปรับขึ้น กลับมาซื้อหุ้นพื้นฐานดี
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,597.38 จุด เพิ่มขึ้น 70.11 จุด หรือ +0.29% ขณะที่ดัชนี S&P500ปิดที่ 2,650.54 จุด ลดลง 0.53 จุด หรือ -0.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,070.33 จุด ลดลง 27.98 จุด หรือ -0.39
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มที่สามารถต้านทานวัฏจักรทางเศรษฐกิจ (defensive stocks) เช่นหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภค และกลุ่มสาธารณูปโภค ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด หลังจากทั้งสองฝ่ายส่งสัญญาณความพร้อมที่จะผลักดันให้การเจรจามีความคืบหน้ามากขึ้น

+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาน้ำมันปรับเพิ่ม รับข่าวซาอุฯเตรียมลดส่งออกน้ำมันดิบให้โรงกลั่นสหรัฐ
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า ซาอุดีอาระเบียเตรียมลดการส่งออกน้ำมันดิบให้กับโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐ และจากรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ซึ่งระบุว่า ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงในเดือนพ.ย.
# สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจาก IEA ได้เปิดเผยรายงาน "Oil Market Report" เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกเดือนพ.ย.ปรับตัวลดลง 360,000 บาร์เรล/วัน เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สู่ระดับ 101.1 ล้านบาร์เรล/วัน เนื่องจากการผลิตที่ลดลงในแคนาดา รัสเซีย และภูมิภาคทะเลเหนือ
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 1.43 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 52.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 61.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

• ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ปรับลง เพราะดอลลาร์แข็งค่า
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 49 ปี
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 2.60 ดอลลาร์ หรือ 0.21%ปิดที่ 1247.40 ดอลลาร์/ออนซ์

• ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศสัปดาห์นี้
# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนธ.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนธ.ค.จากมาร์กิต และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค.

ปัจจัยในประเทศ
+ การเมืองไทย : รอขึ้นทูลเกล้า พ.ร.ฎ.การเลือกตั้ง
# นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลพิจารณร่างพ.ร.ฎ.การเลือกตั้ง ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ส่งมาให้แล้ว และกำลังรอจังหวะเวลาเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะประกาศออกมาเมื่อไร แต่ตามกรอบเวลาต้องออกพระราชกฤษฎีกาไม่ช้ากว่า 90 วัน นับตั้งแต่วันที่พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลใช้บังคับ

-หนี้ครัวเรือนไทย: ยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม
# สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ระบุว่า ปัญหาหนี้สินครัวเรือนยังเป็นประเด็นที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากมูลค่าหนี้สินครัวเรือนอยู่ในระดับสูงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หากมีปัจจัยภายนอกมากระทบ อาจส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนได้ โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งสัดส่วน NPL ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง

นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!