- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 12 December 2018 16:13
- Hits: 1908
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET เผชิญกับแรงขายทำกำไร นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานอย่าง PTTEP, BANPU , กลุ่มท่องเที่ยวอย่าง AOT, CENTEL, ERW, MINT และกลุ่มค้าปลีกอย่าง HMPRO, GLOBAL, BJC สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,633.6 จุด (-16.3 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.2 หมื่นลบ.เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 3.5 หมื่นลบ.
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 ที่ 1,435 ล้านบาท พร้อมเปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิ 15,493 สัญญา
Investment theme
จับตากลุ่มโรงไฟฟ้า หลังแผน PDP ใหม่เริ่มชัดเจน : ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์ (คาดเสร็จในวันที่ 17 ธ.ค.) ก่อนเข้าบอร์ดกพช.และนำเสนอคสช.ในช่วงเดือนมกราคม อิงข่าวจากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ร่าง PDP 2018 ใช้สมมติฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ย 3.8% ต่อปี กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม ณ. สิ้นแผนในปี 2580 เท่ากับ 73,211 MW เทียบกับปัจจุบัน 46,090 MW เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์ความมั่นคงของระบบ เมื่อหักจากโรงไฟฟ้าที่ปลดออกจากระบบ จะมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่ม 51,415 MW โดยระบุโรงไฟฟ้าใหม่ที่เปิดให้เอกชน (IPP) แข่งกับกฟผ. 8,300 MW ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่เรามองเป็นบวกต่อกลุ่ม IPP ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง เราคาดตลาดจะกลับมาให้ความสนใจกลุ่มโรงไฟฟ้า จากสถิติการประมูล 2 ครั้งในอดีตพบว่ากลุ่ม IPP ปรับตัวขึ้นสูงสุด 20-60% ในข่วง 1 ปี ก่อนประกาศผล ซึ่งรอบนี้เราให้ EGCO เป็น Stock pick
Investment Theme: ภาพรวมการลงทุนเดือน ธ.ค. จากสถิติย้อนหลัง 10 ปี เราพบว่า SET มักปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 1.80% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย. เราคงมุมมองลบต่อปัจจัยต่างประเทศ ในขณะที่ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อปัจจัยในประเทศ แนะลงทุนกลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL) และ สื่อ Out of home media อย่าง VGI, MACO คงมุมมองกรอบ SET เดือนธ.ค.ที่บริเวณ 1,630-1,720 จุด พร้อมถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40%
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา : คสช.ใช้มาตรา 44 ปลดล็อคกิจกรรมพรรคการเมือง เปิดทางให้นักการเมืองสามารถกลับมาหาเสียงได้อีกครั้งในรอบ 5ปี / ครบกำหนดพ.ร.ป.การเลือกตั้งส.ส. 90วัน / ศาลจีนจับกุมอดีตฑูตแคนาดา Korvig
Stock pick : -
แนวโน้มกลับเป็นขาลง พิจารณาการหยุดลงที่แนวรับเป็นขั้นๆ: แรงขายจากหุ้นกลุ่ม Big Cap. แทบทุกกลุ่ม ทำให้ดัชนีปรับตัวหลุดแนวรับสำคัญที่ 1645 และแกว่ง Sideway Down ตลอดทั้งวัน ประกอบกับ Modified Stochastic ที่เริ่มตัดตัวลงจากเขต Overbought ทำให้เรามองว่าขณะนี้ดัชนีเริ่มกลับเป็นขาลงอีกครั้ง ขณะนี้จึงมองว่าดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวลงต่อ แนะนำพิจารณาการหยุดลงที่แนวรับถัดๆไปที่ 1630 และ 1620 ตามลำดับ
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: หลุด 1645 ต้อง Stop Loss เนื่องจากแนวโน้มจะเปลี่ยนเป็นขาลง หากยังมีหุ้นจังหวะ Rebound มองเป็นโอกาสลดพอร์ตการลงทุน หรือหากหลุด 1630 แนะนำ Stop Loss 2) ไม่มีหุ้น: แนะนำชะลอการลงทุน และพิจารณาจนกว่าดัชนีจะเริ่มหยุดลงและ Rebound ที่แนวรับ
แนวรับ : 1600, 1620 แนวต้าน : 1640, 1645
Technical View
Trading idea - เราปรับเพิ่มราคาเหมาะสม BDMS เป็น 30บาท/หุ้น โดยคาดเริ่มเข้าสู่ช่วงการเติบโตอีกครั้ง หลังลงทุนอย่างหนักมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา (Capex ลดจาก 19% เหลือต่ำกว่า 10% ของรายได้ต่อปี) ในขณะที่คาด EBITDA margin(%) เติบโตในระดับ 25% ในปี 2021 สนับสนุนจากการกลับมา turnaround ของบางโรงพยาบาลในเครือ และการเพิ่มขึ้นของ U-rate คนไข้ IPD ส่งผลให้คาดกระแสเงินสด (FCF) จะเติบโตเด่นในระดับ 1.2 หมื่นล้านบาท ในปี 2020 ในแง่การประเมินมูลค่าเรามองว่า BDMS เหมาะสมกับ Premium เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ซื้อขายในระดับ PER 31เท่า / ทยอยสะสมกลุ่ม Defensive Plays เช่น EGCO, BEM / ทยอยสะสม BJC, CPALL, VGI (3 หุ้น Stock pick ในบทวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุนเดือนธันวาคม)
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ: 11 ธ.ค. สภาอังกฤษพิจารณา Brexit
ปัจจัยในประเทศ: 11 ธ.ค. ครบกำหนดพ.ร.ป.การเลือกตั้งส.ส. 90 วัน
หุ้นเทคนิค:
BCH (B 18.30-19.00, Tp 20.00//21.00, Cut 18.00)
VGI (B 7.70-7.80, Tp 8.40//8.60, Cut 7.60)
ข่าวเด่นเช้านี้
เปิดซองไฮสปีดเทรนวัดกำลัง BSR-CP คู่ชิง (ทันหุ้น)
รฟท.เปิดซองคู่ชิงไฮสปีดเทรนแล้ว เตรียมประกาศผลภายในวันที่ 14 ธันวาคมนี้ วัดขุมกำลัง BSR-กลุ่มพันธมิตร CP สูสี BSR เด่นศักยภาพเดินรถ งานระบบและงานโยธา มีศักยภาพกู้เงินสูง ขณะที่ CP Group ระดมนานาชาติบุก แบงก์ญี่ปุ่น-จีน แหล่งเงินทุน ประเมินหุ้นเกี่ยวข้อง 2 คู่ชิง CK BEM ITD และ BTS STEC กรณีได้วิ่งฉลุย แต่หากวืดอาจลงไม่แรง
ความเห็น : รฟท.เปิดซองคู่ชิงไฮสปีดเทรนแล้ว เตรียมประกาศผลภายในวันที่ 14 ธันวาคมนี้ โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน EEC 5 โครงการ มูลค่า 6.9 แสนล้านบาท มีความคืบหน้า ปัจจุบันกำลังทยอยประมูล ในช่วงก่อนเลือกตั้งเรามีมุมมองกลุ่มรับเหมาก่อสร้างในด้านบวก เราแนะนำเก็งกำไรใน CK (เป้าหมาย 31บาท) และ STEC (เป้าหมาย 29 บาท)
ฮอนด้าแชมป์ยอดขาย โตโยต้าวูบหล่นอันดับ 3 (ข่าวหุ้น)
งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35" ระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-10 ธ.ค. ยอดขายรถยนต์ จาก 36 ผู้ผลิต มีจำนวน 44,189 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10.9% โดย 5 อันดับสูงสุด ได้แก่ อันดับ 1 HONDA จำนวน 6,842 คัน อันดับ 2 MAZDA จำนวน 6,509 คัน อันดับ 3 TOYOTA จำนวน 5,907 คัน อันดับ 4. ISUZU จำนวน 4,437 คัน และอันดับ 5 MITSUBISHI จำนวน 3,619 คัน
ความเห็น : งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-10 ธ.ค. ยอดขายรถยนต์ มีจำนวน 44,189 คัน ยังเติบโตดี 10.9% ปีนี้ยอดขายรถยนต์จะสูง 1 ล้านคัน เติบโตเด่น 15% แต่ตลาดส่งออกจะทรงตัว รวมแล้วยอดผลิตรถยนต์ปีนี้ประมาณ 2.1 ล้านคัน เติบโต 6% แนวโน้มปี 2562 จะเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลงจากฐานที่สูงในปีนี้ เราให้น้ำหนักลงทุนกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์เท่าตลาด แนะนำซื้อใน STANLY (เป้าหมาย 300 บาท) และ SAT (เป้าหมาย 25.5 บาท)
IVL ซื้อกิจการถุงลมนิรภัย คาดแล้วเสร็จไตรมาส 1/62 (ข่าวหุ้น)
IVL ประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัท UTT ประเทศเยอรมนี ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสิ่งทอสำหรับถุงลมนิรภัยระดับโลก หวังเสริมความแข็งแกร่ง ร่วมดำเนินธุรกิจในภูมิภาคยุโรปและอเมริกา คาดแล้วเสร็จไตรมาส 1/62
ความเห็น : เรามองดีลนี้เป็นบวกจากการต่อยอดในธุรกิจเส้นใยสำหรับผลิตถุงลมนิรภัย ซึ่งเป็นสินค้า HVA และเป็นส่วนหนึ่งในการกระจายความเสี่ยงธุรกิจในระยะยาว เรามองดีลนี้เป็นบวกจากการต่อยอดในธุรกิจเส้นใยสำหรับผลิตถุงลมนิรภัย ซึ่งเป็นสินค้า HVA และเป็นส่วนหนึ่งในการกระจายความเสี่ยงธุรกิจในระยะยาว อย่างไรก็ตามผลบวกต่อผลประกอบการของ IVL คาดจำกัด เนื่องจากขนาดกำลังการผลิตไม่สูง แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2562 เท่ากับ 72 บาท เทคนิคแกว่ง sideway ในกรอบ 54-57 บาท
กกพ. ยืนกรานคงมติเดิม ไม่อนุมัติ GPSC ซื้อ GLOW ย้ำเข้าข่ายผูกขาด จ่อประกาศเป็นทางการพรุ่งนี้ (ข่าวหุ้น)
บอร์ด "กกพ." คงมติเดิม ไม่อนุมัติให้ GPSC ซื้อหุ้น GLOW เตรียมประกาศผลอย่างเป็นทางการวันที่ 13 ธ.ค.นี้ ชี้พิจารณาแล้วเข้าข่ายผูกขาด เหตุมีผู้ประกอบการรายใหญ่ในพื้นที่มาบตาพุดเพียง 2 ราย คือ GPSC และ GLOW
ความเห็น : ยังคงต้องรอมติอย่างเป็นทางการจาก กกพ. ว่าจะรับคำอุทธรณ์ของ GPSC ต่อประเด็นการซื้อหุ้น GLOW หรือไม่ อย่างไรก็ตามเราเคยนำเสนอไปแล้วก่อนหน้านี้ว่าเราไม่ให้น้ำหนักในส่วนของการเข้าซื้อ GLOW ของ GPSC เนื่องจากยังมองไม่เห็น Synergy อย่างมีนัยสำคัญ เรากลับมองว่าการกลับมาเน้นในจุดเด่นของการเป็นตัวแทนธุรกิจไฟฟ้าของกลุ่ม PTT มีโอกาสเติบโตและได้ผลตอบแทนที่น่าสนใจมากกว่า เราแนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 66 บาท เทคนิคแกว่ง sideway กรอบ 53-58 บาท
GUNKUL ลั่นปีหน้าโต 25% ลุยประมูลงาน 3.3 หมื่นล. (ข่าวหุ้น)
"GUNKUL" คาดปีหน้าสดใส ปั๊มรายได้โต 25% แตะ 7,500 ล้านบาท จ่อ COD เพิ่มอีก 105 MW ดันกำลังการผลิตรวมพุ่ง 506 MW บวกธุรกิจ EPC ตุนแบ็กล็อก 800 ล้านบาท รับรู้รายได้ยาวถึงปีหน้า เล็งประมูลงานใหม่มูลค่า 3.3 หมื่นล้านบาท คาดได้รับงาน 10%
ความเห็น : จากข้อมูลใน Opportunity day วานนี้ เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไร 4Q61 คาดทรงตัว QoQ แต่เห็นการเติบโตสูงเทียบ YoY จากกำลังผลิตของโครงการลมที่เริ่มจ่ายไฟตั้งแต่กลางปี ทำให้กำไรปกติทั้งปี 2561 คาดอยู่ราว 2 พันล้านบาท หรือคิดเป็น Norm. P/E 12 เท่า ซึ่งนับว่าไม่แพง และยังมีโมเมนตัมบวกของกำไรข้างหน้า ตามแผน COD กำลังผลิตในมือเฉลี่ย 80 MW ต่อเนื่องใน 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่จ่ายไฟแล้ว 314 MW บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของปีหน้า คาดรายได้ +30%YoY และ EBITDA +25%YoY ด้านเทคนิคสร้างฐานลุ้นแกว่งขึ้น แนวรับสำคัญ 3.24 ต้าน 3.4 บาท
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000