- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 22 September 2014 17:03
- Hits: 1984
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
SET มีแนวโน้ม Sideways Up ไปที่เป้าหมาย 1,630 +/- จุด: SET ปรับสูงขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด จากความกังวลต่อการขึ้นดอกเบี้ย Fed ลดลง และปิดตลาดปรับสูงขึ้น 0.04% ที่ 1,584.91 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.3 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 1,789 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET สัปดาห์นี้ คาดเคลื่อนไหว Sideways Up โดยมีเป้าหมายย่อยที่ 1,600 จุด และเป้าหมายระยะสัปดาห์ที่ 1,630 +/- จุด ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) การฟื้นตัวเศรษฐกิจตั้งแต่ 3Q14 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากการประชุม ครม. 2) การยื่นซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 30 ก.ย.นี้ และ 3) การทำ Window Dressing สิ้นงวด 3Q14 โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มสื่อสาร ADVANC INTUCH DTAC ที่ Underperform ตลาดมากในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
“ซื้อ” หุ้นกลุ่มหลักต่อจากสัปดาห์ก่อน: เราแนะนำ “ซื้อ” หุ้นกลุ่มหลักที่เป็นเป้าหมายการเข้าซื้อของกระแสเงินทุนจากต่างประเทศต่อจากสัปดาห์ก่อน อย่าง KBANK BBL KTB CK STEC SPALI QH LPN SAMART ขณะที่หุ้นขนาดกลางแนะนำ “ซื้อ” SAPPE ต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 45 บาท และระยะสั้นที่ 42.5 บาท
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BEAUTY, BTS, KBANK, CK, SAMART, SPALI, STEC, และ TUF เป็นหุ้นใน Tactical Portfolio ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ขณะที่แนะนำ “ขาย” THCOM และ “ซื้อ” SAPPE เข้ามาแทน (เลือก SAPPE เป็น Top Picks ในรายงาน Trigger Five) ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตสูง, โอกาสในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ, และ Valuation ต่ำกว่าคู่แข่งอย่าง OISHI และ ICHI
Tactical Portfolio: Tactical Portfolio ให้อัตราผลตอบแทน +2.31% w-w (15-19 ก.ย.2014) สูงกว่า SET ที่ให้อัตราผลตอบแทน +0.22% w-w อยู่ 2.09% โดยหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนดีที่สุดใน Tactical Portfolio ได้แก่ SAMART, SPALI และ KBANK โดยให้อัตราผลตอบแทน +3.5-12% (ดูกราฟด้านขวา) ขณะที่ AOT และ TUF ให้อัตราผลตอบแทนต่ำกว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือให้อัตราผลตอบแทนติดลบ 0.7-0.8% ทั้งนี้ตั้งแต่จัดทำ Tactical Portfolio เมื่อวันที่ 13 ม.ค.14 ให้อัตราผลตอบแทน 51.64% ขณะที่ SET ให้อัตราผลตอบแทน 25.40% หรือให้อัตราผลตอบแทนดีกว่า SET อยู่ 20.92%
Technical
ลุ้นทะลุจุดสูงสุดเดิมที่ 1592: SET ปรับสูงขึ้นทันทีในช่วงเปิดตลาด และปรับลดลงมาปิดช่วงว่างที่เปิดไว้ ซึ่งเป็นการย่ำฐานให้แน่นขึ้น ขณะที่มองตลาดมีโอกาสปรับสูงขึ้นทดสอบยอดเดิมบริเวณ 1590-1592 จุด และทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1600 สำหรับวันนี้ดัชนี SET ในกรอบปกติจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1580-1592 จุด
หุ้นที่แนะนำซื้อ : QH ราคาหุ้นปรับสูงขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน และสามารถยืนได้เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 4-21 วัน แล้ว พร้อมกับสัญญาณบวกตาม Stochastic มีจังหวะขึ้นทดสอบ 4.48 บาท และ 4.64 บาท เป็นจุดขายทำกำไร SAPPE การพักฐานที่เริ่มต้นตั้งแต่ปลายเดือน ส.ค.จบลงไปแล้วในสัปดาห์ก่อน ด้วยเป้าหมายการปรับขึ้นที่ 42.50 บาท เป้าหมายขึ้นไปสู่ระดับ 44.50 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา S50U14 ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,072 จุด และถัดไปที่ 1,088 จุด ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่
1,052 จุด
Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short สัญญา GFV14 โดยมีเป้าหมายการปรับลดลงที่ 18,600 บาท ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 18,900 บาท ล่าสุดราคาทองคำปรับลดลงต่อเนื่อง US$10.3 ปิดที่ US$1,216.6 หลังค่าเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง
Oil Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 3,110-3,180 สัญญา BRV14 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ไปก่อน ทั้งนี้แม้ BRV14 จะปรับลดลงต่ำกว่าแนวรับที่ให้ไว้บริเวณ 3,180 อย่างไรก็ตามเนื่องจากประเมิน Downside Risk จำกัด ทำให้เราแนะนำเพียงแค่ Trading รอยืนยันการฟื้นตัวเท่านั้น
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล