WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เออีซี : Daily Focus
 
AECS Daily Focus
Trading Idea: SAWAD
---------------------------------------------------------------------------------
Market Outlook
•    วานนี้ SET Index ปิดที่ 1,640.63 จุด +6.36จุด (+0.39%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.17 หมื่น ลบ. ส่วนวันนี้คาด SET Index แกว่งตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,650 จุด แต่อาจเผชิญแรงแทขายของนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงขายสุทธิตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.กว่า 1.4 หมื่น ลบ. และอาจกดดัชนีลงมาทดสอบแนวรับ 1,630 จุด
Market Factors
•    (+) ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับขึ้น ขานรับมุมมองของนายเจอโรม พาวเวลต่อการปรับนโยบายการเงิน ที่ล่าสุดเอนไปทาง Dovish มากขึ้น และระบุว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ต่ำกว่าระดับที่เป็นกลางเพียงเล็กน้อย ลดความน่าจะเป็นที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีหน้าลงเหลือเพียง 31.4% จาก 36.6% ในวันก่อนหน้า
•    (-) ราคาน้ำมันดิบปรับลงต่อ หลัง EIA รายงานจำนวนสต๊อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่ตลาดคาด แต่เราเริ่มเห็นการปรับเพิ่มที่ชะลอลงจาก 4.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อน อีกทั้งราคาน้ำมันดิบกำลังจะเข้าสู่ช่วง High Season ตอนปลายปี และมีปัจจัยบวกจากกล่ม OPEC ที่กำลังพิจารณาปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม ทำให้เรามองว่า Downside ของราคาน้ำมันเริ่มจำกัด
•    (+) วานนี้ สศค.เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยเดือนต.ค.ได้รับแรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชนและภาคลงทุนภาคเอกชนสะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 เดือน ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์โตสูงสุดในรอบ 70 เดือน และปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศขยายตัวสูงสุด 65 เดือน (ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ)
•    (+) วานนี้ สนค.เปิดเผยว่า ตัวเลขส่งออกไทยเดือน ต.ค. โต 8.7%YoY มูลค่า 2.17 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ กลับมาขยายตัวอีกครั้งหลังจากหดตัว 5.2%YoY ในเดือน ก.ย. โดยตลาดในภูมิภาคเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น ขยายตัวในระดับสูงที่ 18.7% อินเดีย 12% และ CLMV 18.2% สหรัฐฯ กลับมาขยายตัวโดยเพิ่ม 7.2% และจีนขยายตัว 3% (ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ)
Investment Strategy
•    สัปดาห์นี้คาด SET Index ยังเคลื่อนไหวในกรอบ 1,615-1,658 จุด (Fwd PE 15.0-15.4x) โดยแม้ตลอดทั้งเดือนพ.ย. นักลงทุนต่างชาติจะยังคงขายสุทธิกว่า 1.4 หมื่น ลบ.แต่ดัชนีเริ่มกลับตัว โดยมีแรงซื้อสวนทางจากนักลงทุนสถาบัน ดังนั้นในช่วงนี้เราประเมินว่านักลงทุนกำลังจับตาการประชุม G20 (30พ.ย.-1ธ.ค.) และประชุม OPEC (6 ธ.ค.) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเด็น Trade Wars และราคาน้ำมัน บวกกับมีแรงกดดันจากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธปท.ซึ่งกระทบต้นทุนการทำธุรกิจ ดังนั้นเราแนะนำหุ้น Domestic Play ที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยค่อนข้างจำกัด ดังนี้ 1) หุ้นกลุ่มพลังงานทางเลือกและกลุ่มโรงแรมซึ่งโครงสร้างธุรกิจมีกระแสเงินสดแข็งแรง ได้แก่ SSP (S7.5,R7.9), BPP (S23.4,R24), GUNKUL(S3.06,R3.24), CENTEL(S41,R43) 2) หุ้นกลุ่มหนี้สินต่อทุนต่ำคาดได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยน้อย ได้แก่ TPIPP(S5.95,R6.30), HANA(S33.5,R35.25) 3) บริษัทที่ Fixed Coupon Rate และมีสัดส่วนเงินกู้ระยะยาวสูง ได้แก่ KTC(S33,R35), MTC(S46.5,R50), SAWAD(S47.25,R50) และ 4) หุ้นกลุ่มที่ราคาหุ้นปรับลงแรง แต่มีโอกาสฟื้นตัวเร็วจากกำไรปี 62 ที่แข็งแกร่ง ได้แก่ BJC(S51.5,R53), BGRIM (S25,R27), MEGA(S31,R32.5
*** (S,R) = (Support, Resistance) ใน 1 สัปดาห์ ***
Market Talk
•    SAWAD (BUY: TP@61) คาดช่วง 4Q61 เราคาดกำไรยังมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อเนื่องจากการปรับนโยบายการตั้งสำรองของ BFIT ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองลงมาก เราจึงคาด ปี 61 จะมีกำไรโต 2.8%YoY ก่อนจะกลับมาโตเด่น 32.1%YoY ในปี 62 หนุนด้วยแผนเปิดสาขาใหม่อีก 300-400 สาขา และการรับรู้ผลของ Asset Yield ที่ฟื้นตัวเต็มปี + Upside 31.8% จึงแนะนำ “ซื้อ”
•    ROBINS (BUY: Consensus [email protected]) กำไรช่วง 4Q61 มีแนวโน้มโต QoQ และ YoY หนุนด้วยกำลังซื้อในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น บวกกับอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น หลังบริษัทปรับ Product Mixed มาเน้นขายสินค้าในกลุ่ม Private Brand มากขึ้น ขณะที่ปี 62 คาดกำไรโต 12.2%YoY จากแผนขยายสาขาไซส์เล็กเจาะตลาดเมืองรอง และเริ่มใช้ระบบ Omni-Channel เพิ่มช่องทางขายและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน + Upside 14.7% จึงแนะนำ “ซื้อ”
 
28-Nov-18    Change (pts.)    27-Nov-18
SET Index    1,640.63    6.36    1,634.27
SET50 Index    1,090.57    4.06    1,086.51
SET100 Index    2,406.91    9.71    2,397.20
 
High    1,644.27    Gainers         795 
Low    1,635.37    Unchanged    542
Value (Bt m)    31,784.09    Losers  495 
Volume (*000)    9,868,288          
 
Market Valuation
SET Data    2018F    2019F    Long Term
Fwd PER (x)    15.2    14.0    14.0
EPS Growth (%)    13.9    9.3    6.1
EV/EBITDA (x)    10.3    9.6    9.1
FWD PBV (x)    1.9    1.8    1.6
Dividend Yield (%)    3.1    3.4    3.7
ROE    13.1    12.4    12.4
 
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    28-Nov-18    WTD    MTD    YTD
Institution    2,070.73    8,891.47    11,832.05    175,748.36
Proprietary    (420.94)    (1,097.04)    2,731.22    (5,980.20)
Foreign     (836.68)    (3,906.61)    (14,041.06)    (287,214.08)
Individual    (813.11)    (3,887.83)    (522.21)    117,445.93
 
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432)    [email protected]
ตฤณ  สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364)    [email protected]
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    [email protected]
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!