- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 28 November 2018 16:38
- Hits: 8147
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Trading Idea: MAKRO
---------------------------------------------------------------------------------
Market Outlook
• วานนี้ SET Index ปิดที่ 1,634.27 จุด +3.50จุด (+0.21%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.68 หมื่น ลบ. ส่วนวันนี้คาด SET Index แกว่งในกรอบ 1,623-1,646 จุด โดยแม้นักลงทุนสถาบันจะเริ่มกลับมาซื้อต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แต่นักลงทุนต่างชาติยังคงขายต่อเนื่องคิดเป็นมูลค่าตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย. 1.32 หมื่น ลบ. ขณะที่คืนนี้นักลงทุนกำลังติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟด
Market Factors
• (Watch) ช่วงนี้เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามความเห็นของคณะกรรมการเฟดต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังราคาน้ำมันปรับตัวลงแรง และดีมานด์ในตลาดโลกเริ่มชะลอตัวลง ซึ่งล่าสุดรองประธานเฟดให้สัมภาษณ์ว่าดอกเบี้ยในปัจจุบันใกล้ถึงระดับที่เป็นกลาง สวนทางกับมุมมองของนายเจอโรม พาวเวล ก่อนหน้า ทำให้หลายฝ่ายรอติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวลคืนนี้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมุมมองต่อนโยบายการเงินหรือไม่ รวมทั้งรอติดตาม Fed minutes ที่จะเผยแพร่คืนวันที่ 29 พ.ย.
• (Watch) วานนี้รมว.คลัง เปิดเผยถึงมาตรการช้อปช่วยชาติเวอร์ชั่นใหม่ โดยจำกัดประเภทของสินค้า 3 ประเภท ดังนี้ 1.ยางรถยนต์ เพื่อส่งเสริมช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง 2. หนังสือและอีบุ๊ค 3. ผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน (โอทอป) ในวงเงินรวมกันไม่เกิน 15,000 บาท โดยจะเข้าที่ประชุมครม.ภายในวันที่ 4 ธ.ค. และสามารถซื้อสินค้าได้ตั้งแต่ 15 ธ.ค.61 – 15 ม.ค.62 (ระยะเวลา 1 เดือน) เพื่อลดหย่อนภาษีได้ในปี 2562-2563 (ที่มา:ประชาชาติธุรกิจ)
• (+) วานนี้สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนต.ค.61 โต 4.08%YoY โดยช่วง 10M61 โต 3.04%YoY ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนต.ค.61 อยู่ที่ 67.75% หนุนโดยอุตสาหกรรมรถยนต์และเครื่องยนต์ บุหรี่ น้ำตาลทราย น้ำมันปิโตรเลียม และเครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน
Investment Strategy
• สัปดาห์นี้คาด SET Index ยังได้รับแรงกดดันจากนักลงทุนต่างชาติที่ยังขายต่อเนื่อง ซึ่งมีหลายปัจจัยจากต่างประเทศ แต่ Downside Risk ยังคงจำกัด เพราะ Valuation ของตลาดไม่แพงโดยปัจจุบัน SET Index ซื้อขายที่ P/E 15.5x อีกทั้งราคาน้ำมันเริ่มมีสัญญาณรีบาวด์ โดยเราประเมินแนวรับ-แนวต้าน ไว้ที่ 1,600-1,643 จุด (Fwd PE ที่ 14.7x-15.1x) ดังนั้นในช่วงนี้เราแนะนำหุ้น 5 กลุ่ม ดังนี้ 1) หุ้นกลุ่มพลังงานทางเลือกและกลุ่มโรงแรมซึ่งโครงสร้างธุรกิจมีกระแสเงินสดแข็งแรง ได้แก่ SSP (S7.5,R7.9), BPP (S23.4,R24), GUNKUL(S3.00,R3.18), CENTEL(S41,R43) 2) หุ้นกลุ่มหนี้สินต่อทุนต่ำคาดได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยน้อย ได้แก่ TPIPP(S5.95,R6.30), HANA(S33,R35), 3) บริษัทที่ Fixed Coupon Rate และมีสัดส่วนเงินกู้ระยะยาวสูง ได้แก่ KTC(S33,R35), MTC(S46.5,R51), SAWAD(S45,R48) 4) หุ้นกลุ่มที่ราคาหุ้นปรับลงแรง แต่มีโอกาสฟื้นตัวเร็วจากกำไรปี 62 ที่แข็งแกร่ง ได้แก่ BJC(S51,R53), BGRIM (S25,R26.75), MEGA(S30,R32.5) และ 5) หุ้นกลุ่มธนาคารที่ได้อานิสงส์จากการขึ้นดอกเบี้ย บวกกับได้ประโยชน์จาก Investment Cycle จากการลงทุนในประเทศ ซึ่งคาดหนุนสินเชื่อในปี 62 ยังโตดี โดยเฉพาะพอร์ตสินเชื่อกลุ่ม Corporate ที่มีสัดส่วน 35-50% และมีสินเชื่อบ้านในสัดส่วนที่น้อย ได้แก่ BBL(S205,R213), KBANK(S193,R200)
*** (S,R) = (Support, Resistance) ใน 1 สัปดาห์ ***
Fundamental Report
• SKE (BUY:[email protected]): ช่วง 3Q61 กำไรหดตัว 18.3%YoY จากรายได้ที่ชะลอตัว มาร์จิ้นที่ลดลงและ SG&A ที่เพิ่มขึ้น ปรับลดประมารการลงหลังเผชิญปัจจัยลบต่างๆ บวกกับแผนก่อสร้างสถานี NGV แบบ Ex-Pipeline ยังไม่มี Timeline แน่ชัด โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาดกำไรทั้งปี 61 หดตัว 24.9%YoY แต่ปี 62 คาดกำไรจะกลับมาฟื้นตัว 21.8%YoY จากปริมาณอัดก๊าซที่ฟื้นตัวบวกกับการเปิดบริการ CBG Station + Upside 15.5% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 62 ที่ 1.21 บาท แนะนำ “ซื้อ”
Market Talk
• BGRIM (BUY:ConsensusTP@32): ช่วง 4Q61 Consensus คาดกำไรโต YoY ด้วยการรับรู้โรงไฟฟ้าต่อเนื่อง บวกกับเริ่ม COD โรงไฟฟ้า SPP, Solar และพลังงานน้ำเพิ่มอีก 179MW ส่วนปี 62 มีปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้เต็มปีของโรงไฟฟ้าที่กำลังผลิตรวม 2,091MW บวกกับการ COD โรงไฟฟ้าโซลาร์ในเวียดนาม 3 โรง อีก 677MW ทำให้มีกำลังผลิต ณ สิ้นปี 62 รวม 2,773MW จึงคาดหนุนปี 61-62 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 23.5% แม้ราคาจะปรับตัวลงมาเยอะ แต่กำไรยังคงต่อเนื่องมี Upside อีกทั้งมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง + มี Upside 21.9%
• BTS (BUY: Consensus TP@11) ช่วง 4Q61 Consensus คาดกำไรสุทธิโต YoY นำโดยธุรกิจเดินรถและซ่อมบำรุงที่จะได้แรงหนุนจากการเริ่มรับรู้รายได้ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) บวกกับจำนวนผู้โดยสารรายวันที่คาดเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าที่ 4-5%YoY หลังเตรียมเปิดเส้นทางสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (แบริ่ง-สมุทรปราการ) ในวันที่ 6 ธ.ค. ขณะที่ธุรกิจสื่อคาดได้อานิสงส์บวกจากจำนวน Media Capacity ที่สูงขึ้น และการก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการ O2O Solution + Upside 17%
27-Nov-18 Change (pts.) 26-Nov-18
SET Index 1,634.27 3.50 1,630.77
SET50 Index 1,086.51 1.79 1,084.72
SET100 Index 2,397.20 5.31 2,391.89
High 1,636.89 Gainers 661
Low 1,627.54 Unchanged 582
Value (Bt m) 36,825.11 Losers 570
Volume (*000) 14,990,421
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 18.9 13.9 13.9
EPS Growth (%) 13.9 9.3 6.1
EV/EBITDA (x) 10.3 9.6 9.1
FWD PBV (x) 1.9 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.2 3.4 3.7
ROE 13.1 12.4 12.4
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 27-Nov-18 WTD MTD YTD
Institution 4,274.56 6,820.74 9,761.32 173,677.62
Proprietary (604.65) (676.10) 3,152.16 (5,559.26)
Foreign (2,220.92) (3,069.93) (13,204.37) (286,377.40)
Individual (1,448.98) (3,074.72) 290.90 118,259.04
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary