เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายหุ้นใหญ่หลายตัวแกว่งด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง ในขณะที่หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลงมีแรงเก็งกำไรอย่าง AAV, THAI ส่วนกลุ่มขนส่งมีแรงซื้อเก็งกำไรใน PRM, BEM ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,634.2 จุด   (+3.5 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.68 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 3.3 หมื่นลบ. 

          นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 ที่ 2,221 ล้านบาท แต่กลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิ 6,841 สัญญา   

 

          คืนนี้จับตา Powell กล่าวทิศทางนโยบายการเงิน : ในคืนวันนี้จับตาประธานธนาคารกลางสหรัฐกล่าวถึงทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐและนโยบายการเงินในปีหน้า โดยปัจจุบันนักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่า FED จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้ง 25bps เป็น 2.50% ในการประชุม FOMC กลางเดือนธันวาคมนี้ อย่างไรก็ตามประเด็นเราแนะนักลงทุนให้ความสำคัญมากกว่านั้นคือ 1) ทิศทางการบริหารนโยบายการเงินในปีหน้า ว่าจะยังคงมุมมอง Hawkish เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งตาม Dotplot จากการประชุมครั้งก่อนหรือไม่ 2) Flat yield curve และ 3) ความเสี่ยงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐภายหลังเข้าสู่ภาวะสงครามการค้าอย่างเต็มตัว ในขณะที่ Trump ยังคงกดดัน Powell เรื่องความเสี่ยงของการเร่งขึ้นดอกเบี้ยบ่อยครั้ง โดยสรุปเราประเมินว่าหาก Powell ยังคงมุมมอง Hawkish ในการขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้ เราอาจเห็น Dollar และ Bond yield กลับมาเร่งตัวในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งจะเป็นหนึ่งในปัจจัยกดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดเกิดใหม่ (EM) ทางอ้อม  

          Investment Theme:  ประเมินกรอบการแกว่งตัวของ SET บริเวณ 1,590 - 1,620 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง ไปจนถึงช่วงปลายเดือนพ.ย.ที่จะมีการประชุม G20 ที่อาจเห็นการเจรจาการค้ากันระหว่าง 2 ผู้นำอย่าง Trump และ Xi Jinping

 

          เมื่อคืนที่ผ่านมา ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน พย. ตามคาดที่ 135.7 จุด จากเดือนก่อนหน้าที่ 137.9 / ตัวเลข MPI ไทยเดือน ตค. +4.08% ดีกว่าคาดที่ 3.29% / สศอ.คาดดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมปี 2562 ขยายตัว 2-3% ในขณะที่คาดดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ปีนี้ที่ 2.5 % 

 

          Trading idea - ย่อสะสม PLAT ปรับราคาเป้าหมายปี 62 เป็น 9.4 บาท คาดปี 62 เติบโต +22% รับรู้เดอะมาร์เก็ต ตั้งแต่กลาง ก.พ. 62/ ทยอยสะสม BJC, CPALL, VGI (3 หุ้น Stock pick ในบทวิเคราะห์กลยุทธการลงทุนเดือนธันวาคม) /ทยอยสะสม TASCO คาดกำไร Q4 ฟื้นตัวเด่นประมาณ 500 ล้านบาท สนับสนุนจากปริมาณการขายสูงกว่า 5 แสนตัน โดยผู้บริหารคาด TASCO ประเมินปริมาณขายในปี 2562 จะเพิ่มเป็น 1.8 -1.9 ล้านตัน เติบโต 12-19%  แนะซื้อราคาเหมาะสม 17.00 บาท

 

          คาด Rebound ทดสอบแนวต้านที่ 1645, พิจารณาแรงขายที่แนวต้านประกอบ:  ดัชนีแกว่งตัว Sideway  Up ในกรอบแคบ สิ้นวันยังคงปรับตัวบวกได้ ประกอบกับ Modified Stochastic ที่ตัดขึ้นจากเขต Oversold มองว่าดัชนีมีโอกาส Rebound ทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณกรอบบน Downtrend  ที่ 1645 ที่บริเวณแนวต้านดังกล่าวให้พิจาณณาแรงขาย หากยังมีมากแนะนำขายทำกำไรเพื่อเล่นรอบ จังหวะอ่อนตัวภายในวันหากไม่หลุด 1625 มองว่ายังน่าสะสมเพื่อเล่น Rebound ในกรอบ 1625-1645

          กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: หากไม่หลุด 1625 แนะนำ Trading ในกรอบ 1625-1645 แต่หากหลุด  1625 แนะนำ Lock Profit หรือหากทดสอบ 1645 แนะนำพิจาณาแรงขายเพื่อทำกำไร  2)  ไม่มีหุ้น: Trading ในกรอบ 1625-1645 แนะนำจังหวะอ่อนตัวเป็นโอกาสสะสมเพื่อเล่น Rebound ในกรอบดังกล่าว

          แนวรับ : 1615, 1625 แนวต้าน : 1645, 1665

 

          ปัจจัยต่างประเทศ:  สภาอังกฤษเตรียมลงมติ Brexit 

          ปัจจัยในประเทศ:   จับตามาตรการ Shop ช่วยชาติ

          BEM  (B 8.50-8.60, Tp 9.00//9.20, Cut 8.40)

          HMPRO (B 14.70-15.00, Tp 16.00//16.50, Cut 14.50)

 

 

"กนอ." ยื่นขอนโยบาย LNG ชัดเจน หนุนสร้างท่าเรือมาบตาพุดระยะ 3 (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา)

          "กนอ" ร่อนหนังสือถึงกระทรวงพลังงานหวังได้รับคำตอบนโยบายส่งเสริมการใช้ LNG ชัดเจนเพื่อประกอบการตัดสินใจคัดเลือกเอกชนเข้าพัฒนาท่าเรือมาบตาพุดระยะ 3 (ช่วงที่ 1) เพื่อพัฒนาท่าเรือนำเข้าก๊าซฯ รับลงทุนในพื้นที่อีอีซี หลังเอกชนวิตกดีมานด์ต่ำ

          ความเห็น : โครงการ EEC ทั้งหมด 5 โครงการ มูลค่ารวม 7 แสนล้านบาท กำลังอยู่ในขั้นตอนประมูล คือ  1.) โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่าลงทุนรวม 2.3 แสนล้านบาท  2.) โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่าลงทุนรวม 290,000 ล้านบาท  3.) โครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานสนามบินอู่ตะเภา มูลค่าลงทุนรวม 10,588 ล้านบาท  4.) โครงการท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 มูลค่าลงทุน 114,047 ล้านบาท  และ 5.โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 มูลค่าลงทุน 55,400 ล้านบาท  สำหรับกลุ่มรับเหมาเราแนะนำเก็งกำไรใน STEC (เป้าหมาย 29 บาท) และ CK (เป้าหมาย 31 บาท)

 

เซ็นทรัลดูดเงินนักท่องเที่ยวเปิดแน่! เอาต์เลตหรูสิงหา 62 (ไทยรัฐ)

          นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ผู้นำศูนย์การค้าอันดับหนึ่งของไทยเปิดเผยว่า บริษัทพร้อมเปิดลักชัวรีเอาต์เลตภายใต้ชื่อ "เซ็นทรัลวิลเลจ" ในเดือน ส.ค.ปี 62 โดยตั้งใจปั้นให้เป็นจุดหมายแห่งการช็อปปิ้งลักชัวรีเอาต์เลตระดับโลกแห่งแรกของไทย และเป็นก้าวสำคัญในการสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งลักชัวรีเอาต์เลตที่เมืองไทยยังไม่เคยมีมาก่อน

          ความเห็น : เป็นไปตามแผนการเปิดโครงการศูนย์การค้าใหม่ 6 แห่งใน 2 ปีข้างหน้า และเป็นเอาต์เลตแห่งแรกของ CPN ซึ่งรองรับทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ช่วยสนับสนุนการเติบโตของ CPN แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 87 บาท

 

จ่ายจัดเต็ม "ช็อปช่วยชาติ" 1 เดือน (ไทยรัฐ)

          มาตามสัญญา! คลังจ่อเสนอ ครม.ออก "มาตรการช็อปช่วยชาติ" ซื้อสินค้า 3 รายการ "ยางรถยนต์ หนังสือและสินค้าโอทอป" ลดหย่อนภาษีไม่เกิน 15,000 บาท เริ่ม 4 ธ.ค.61-4 ม.ค.62 รับกำลังซื้อชนชั้นกลาง ด้านกรมท่าอากาศยาน เด้งรับนโยบายจัดโปรโมชันสนามบินชุดใหญ่หนุนเที่ยวเมืองรอง

          ความเห็น :  หากรายการสินค้าที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีมีความหลากหลายจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย เป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก แนะนำ BJC และ CPALL ราคาเป้าหมาย 65 บาท และ 81 บาท ตามลำดับ

 

ไทยบี้จีนลดดอกเบี้ย 2.6% แลกปล่อยกู้ 3 หมื่นล้านซื้อระบบไฮสปีด  (ประชาชาติธุรกิจ) 

          "อาคม" เปิดไทม์ไลน์ประมูลไฮสปีดไทย-จีน "กรุงเทพฯ-โคราช" ลั่น มี.ค.ปีหน้ากดปุ่มเกลี้ยง 12 สัญญา วงเงินกว่า 1.1 แสนล้าน เดินหน้าตอกเข็ม เม.ย. ตั้งเป้าเสร็จปี'64 วัดใจจีนลดดอกเบี้ยเหลือ 2.6% แลกปล่อยกู้ซื้อระบบ โบกี้ 3.2 หมื่นล้าน คาด ธ.ค.นี้สรุป เซ็นสัญญาบนเวทีประชุม JC ที่ปักกิ่ง 25 ม.ค. 62

          ความเห็น :  โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงแรก กรุงเทพฯ-โคราช  มีความชัดเจนมากขึ้นเตรียมทยอยเปิดประมูล ทั้งหมด 12 สัญญา วงเงินกว่า 1.1 แสนล้านบาท   คือ ภายในเดือน ธ.ค. 2561-ม.ค. 2562 จำนวน 5 สัญญา อีก 7 สัญญาทยอยออกทีโออาร์ในเดือน ม.ค.-ก.พ. 2562  จะช่วยเพิ่มงานในมือกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เราคงมุมมองในด้านบวก แนะนำเก็งกำไรใน CK (เป้าหมาย 31 บาท) และ STEC (เป้าหมาย 29 บาท)

 

ถอดรหัสปิโตร-โรงกลั่นสเปรดขาขึ้นหนุนอนาคต (ทันหุ้น)

          ชำแหละหุ้นกลุ่มปิโตร-โรงกลั่นมีโอกาสรับอานิสงส์น้ำมันร่วง ดันส่วนต่างต้นทุนต่อราคาผลิตภัณฑ์พุ่ง อนาคตปีหน้ามีลุ้นค่าการกลั่นน้ำมันดีเซล-น้ำมันเตา ฟื้นตามความต้องการใช้กองเรือที่จะเพิ่มขึ้น จากกฎ IMO สั่งลดกำมะถันการเดินเรือ แกะอนาคต IRPC-TOP-PTTGC ใครเด่นสุด

          ความเห็น : เรายังคงมุมมองกรอบราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2562 ในช่วง 65-75 เหรียญต่อบาร์เรล และเชื่อว่า OPEC จะเป็นผู้เข้ามาช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน เราจึงทยอยสะสมกลุ่มน้ำมันขั้นต้น ได้แก่ PTT และ PTTEP สำหรับกลุ่มโรงกลั่น เราคงมุมมองระมัดระวังในช่วง 1H62 เนื่องจากโรงกลั่นใหม่ที่เข้าสู่ตลาดมากกว่าในปี 2561 เราเลือก IRPC เป็นตัวแทน เนื่องจากได้ประโยชน์ภายหลังจากที่ราคาน้ำมันปรับฐานลง