- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 26 November 2018 15:49
- Hits: 1004
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
Market summary
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET เกิด Technical rebound นำโดยกลุ่มพลังงานอย่าง PTT, PTTEP และกลุ่มปิโตรอย่าง PTTGC, IVL กลุ่มโรงไฟฟ้าอย่าง GULF ภายหลังมีการประชุมนักวิเคราะห์ ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,622.1 จุด (+17.7 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 3.5 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 ที่ 575 ล้านบาท และกลับมาเปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิ 694 สัญญา
Investment theme
น้ำมันดิบร่วง 30% QTD จับตาการปรับประมาณการกำไร EPS ตลาดปีหน้า จากสมมติฐานราคาน้ำมันดิบ : เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เราแนะให้นักลงทุนระมัดระวังแรงขายทำกำไรกลุ่ม Commodity และ Global play เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มเข้าสู่ภาวะการชะลอตัวที่เร็วกว่าคาดจากสงครามการค้า โดย IMF และ World bank ต่างประมาณการเศรษฐกิจโลกในปีหน้าลงเหลือ 3.7% ในขณะที่ตัวเลข PMI ในหลายประเทศทั้งสหรัฐ,จีน, ยุโรป เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวทั้งสิ้น ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดมากกว่า 30% ที่ 59เหรียญ/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 12 เดือน โดยเราแนะนักลงทุนจับตาการปรับประมาณการสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปีหน้าลง (จากปัจุบันที่นักวิคราะห์ส่วนมาก คาดไว้ที่ระดับ 70 เหรียญ+/-) ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อกำไรตลาด EPS19 จากปัจจุบันที่ประมาณ 117.8+/- ในขณะที่แนะนักลงทุนจับตาการประชุม OPEC ในวันที่ 6 ธ.ค. ที่กรุงเวียนนา ว่าจะมีการร่วมมือลดกำลังการผลิตปริมาณเท่าใด (ตลาดคาดประมาณ 1.4 ล้านบาร์เรล) ซึ่งหากเป็นจริงคาดในระยะสั้นอาจเป็นการจำกัด Downside ในขณะที่ภาพเทคนิคเราพบว่าแนวรับสำคัญของ Brent คือบริเวณ 50 และ 57 เหรียญ
Investment Theme: ประเมินกรอบการแกว่งตัวของ SET บริเวณ 1,590 - 1,620 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง ไปจนถึงช่วงปลายเดือนพ.ย.ที่จะมีการประชุม G20 ที่อาจเห็นการเจรจาการค้ากันระหว่าง 2 ผู้นำอย่าง Trump และ Xi Jinping
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา นายกให้ความเชื่อมั่นเลือกตั้งยังเป็นไปตาม Roadmap / นัดขยายเพดานวงเงินบำเหน็จดำรงชีพให้แก่ผู้รับบำนาญตั้งแต่อายุ 70 ปีขึ้นไปเพิ่มอีก 1 แสนเป็น 5 แสนบาท
Stock pick : -
Trading idea - ทยอยสะสม BJC เรามีมุมมองเชิงบวกจากการประชุมนักวิคราะห์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคาดกำไร 4Q18 เติบโตดี YoY, QoQ จากการขยายกำลังการผลิตขวดแก้ว, ธุรกิจค้าปลีกเข้าสู่ช่วง High season และมี Upside จากการเข้าซื้อธุรกิจ WG (คาดทำ Tender offer แล้วเสร็จในมกราคมปีหน้า) โดย WG กำไรประมาณ 140 ลบ./ปี โดยยังคงเป้าเปิดสาขาปีหน้า รวมกว่า 300 สาขา คงคำแนะนำซื้อราคาเหมาะสม 65.0 บาท/หุ้น
Technical View
Rebound สั้นๆในกรอบขาลง กลุ่มพลังงานมีแนวโน้มกดดันให้ดัชนีลงต่อ : ในช่วงเช้าดัชนีพยายาม Rebound แต่ปรับตัวขึ้นได้ไม่ไกล ก่อนที่ในช่วงบ่ายจะปรับตัวขึ้นแรง และปิดที่บริเวณแนวต้าน 1620 ระยะสั้นมองเป็นเพียงการ Rebound จากแนวรับสำคัญ 1600 ภายใต้กรอบ Downtrend ระยะสั้นคาดมีโอกาสปรับตัวลงต่อ เนื่องจากน้ำมัน Brent ปรับตัวลงแรงกว่า -6.07% ฉะนั้นจังหวะ Rebound หรือปรับตัวลงหลุดแนวรับ 1615 ยังมองว่าเป็นโอกาสขายทำกำไร
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: หากหลุด 1615 แนะนำ Lock Profit หรือจังหวะ Rebound ระหว่างวันมองเป็นโอกาสขายทำกำไรเพื่อลดพอร์ตและถือเงินสดให้มากขึ้น 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวพิจารณาการหยุดลงที่แนวรับต่างๆ หากไม่หลุด 1600 อาจมีจังหวะ Rebound สั้นๆ สำหรับคนที่รับความเสี่ยงไม่ได้ ยังไม่แนะนำเข้าเก็งกำไร
แนวรับ : 1585, 1600 แนวต้าน : 1630, 1645
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ: 28 พ.ย. จับตาคุณ Powell แถลงนโยบายธนาคารกลางสหรัฐ / สภาอังกฤษเตรียมลงมติ Brexit
ปัจจัยในประเทศ: จับตามาตรการ Shop ช่วยชาติ
หุ้นเทคนิค:
BCH (B 17.50-18.00, Tp 19.00//19.50, Cut 17.30)
HMPRO (B 14.30-14.70, Tp 15.50//16.00, Cut 14.00)
ข่าวเด่นเช้านี้
AOT ยันทำไฮเรคคอร์ด โชว์เน็ตมาร์จิ้นเกิน 40% ผู้โดยสารใช้บริการทะลักล้นคาปาซิตี้ (ข่าวหุ้น)
"นิตินัย" ลั่นประกาศงบ AOT ปี 2561 วันที่ 30 พ.ย.นี้ การันตีกำไรโตนิวไฮ ผู้โดยสารใช้บริการทะลัก ล้นคาปาซิตี้สนามบินสุวรรณภูมิ โชว์เน็ตมาร์จิ้นเกิน 40% รอ ICAO สรุปความชัดเจนกรณี "เทอร์มินอล 2" ลุ้นเสนอเข้าบอร์ดพิจารณาทันเดือน ธ.ค.นี้ พร้อมชูสล็อตการบินทองคำ "รัสเซีย-อินเดีย" จ่อเสียบหากสายการบินจีนถอย
ความเห็น : คาดงบ 4QFY18 (ก.ค.-ก.ย.) กำไรจะออกมาเติบโต YoY เนื่องจากปีที่แล้วมีค่าใช้จ่ายพิเศษให้แก่กรมธนารักษ์ อย่างไรก็ตามหากพิจารณาเฉพาะ core profit คาดว่าจะยังเติบโต แต่น้อยกว่าการเติบโตของช่วง 9MFY18F (+19% YoY) ในกรณีของ เทอร์นิมอล 2 คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2-4 เดือนนี้ และกรณีที่สายการบินจีนจะยกเลิกสล็อตการบินนั้น สายการบินที่เน้น route ไปรัสเซีย หรือ อินเดีย อาจจะเข้ามาขอสล็อตดังกล่าวแทน เนื่องจากนักท่องเที่ยวจากรัสเซีย และอินเดีย ถือเป็นนักท่องเที่ยวที่มีการเติบโตดี ปีที่ผ่านมาเติบโตในระดับ 11-12% เทคนิครีบาวน์ ต้าน 65 รับ 62 บาท
BDMS กำไรQ3 แข็งแกร่งมาก (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา)
กรุงเทพดุสิตเวชการ อวดผลงานไตรมาส 3 ปีนี้ 2.88 พันล้านบาท ดีกว่าที่ โบรกฯ คาดไว้ถึง 6.9% อันเป็นผลจากการที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น มีศูนย์ COE ถึงสิบศูนย์ และไม่มีแผนขยายธุรกิจเชิงรุกเหมือนช่วงที่ผ่านมา ขณะดอกเบี้ยจ่ายลดลง ส่วนรายได้แตะ 1.96 หมื่นล้านบาท รวมทั้งกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นมาที่ 32.4% แนะ "ซื้อ" ให้เป้าหมาย 31 บาท
ความเห็น : กำไรที่แข็งแกร่งมาจาก EBITDA margin ที่ปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์ COE มีการเติบโต 9% ใน 9M18 และโรงพยาบาลใหม่ที่ขาดทุน ทยอยทำกำไรได้แล้ว เหลือเพียง 4 โรงพยาบาลเท่านั้นที่ยังขาดทุน ขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายลดลงเนื่องจาก convertible bond บางส่วนถูกเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญ เทคนิคเด่น แกว่งขึ้น ต้าน 28 รับ 25 บาท
วันนี้ที่รอคอย SCC เทิร์น น้ำมันทรุด 30% หนุนปิโตร (ทันหุ้น)
ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวหนุนกำไรกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมี SCC กำไรสูงขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบหลักลดลง ธุรกิจปิโตรเคมีเริ่มฟื้นขณะที่ความต้องการใช้ปูนกลับมา นักวิเคราะห์คาดกำไรปีนี้ 4.7 หมื่นล้านบาท ปีหน้าโตอีก 3% ชี้ SCC เทรดบน P/E เพียง 11 เท่า แถมปันผลเฉลี่ยต่อปีสูงกว่า 4% แนะ "ซื้อลงทุน" เป้าปีหน้า 490 บาท ณ ราคาปัจจุบันมี Upside 11%
ความเห็น : การปรับตัวลดลงของน้ำมันดิบจะทำให้ต้นทุนวัตถุดิบ Naphtha ปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกัน ส่งผลบวกให้สเปรด HDPE-Naphtha สัปดาห์ก่อนปรับตัวดีขึ้นเริ่มเข้าใกล้ 700 เหรียญ/ตัน หลังจากเฉลี่ยเดือน ต.ค. ทรุดลงไปอยู่ที่ 617 เหรียญ/ตัน SCC มีการขยายการลงทุนต่อเนื่อง เราคาดการณ์ปีนี้จะปันผล 17 บาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 3.8% เราแนะนำ ซื้อ ในช่วงอ่อนตัว จากภาวะผันผวนของราคาน้ำมัน ประเมินเป้าหมาย 470 บาท เทคนิคแกว่งขึ้น ต้าน 450 รับ 440 บาท
JMART ปีหน้าแค่กระเตื้อง! ลุ้นบริษัทลูกพลิกฟื้นส่งกำไร (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา)
ส่องแนวโน้ม "เจมาร์ท" หลังดิ่งลงหนักจากเงินดิจิทัล "JFin Coin" แถมค่าใช้จ่ายเพิ่ม อีกทั้งยอดขายลดตามภาพรวมตลาดมือถืออิ่มตัว ประเมินปีหน้าหลังผล กระทบมาตรฐานบัญชีใหม่ลดลง ยอดขายกลับมากระเตื้อง ส่วนแบ่งจากบริษัทย่อยเริ่มพลิกฟื้น โดยเฉพาะ JMT ที่มีลุ้นสร้างสถิติใหม่ แต่โดยรวมโอกาสขยับกลับถึงยอดดอยยังเป็นไปได้ยาก
ความเห็น : เราเห็นด้วยกับแนวโน้มของ JMART ที่ยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะสำหรับการฟื้นตัว เนื่องจาก รายได้ธุรกิจมือถือเริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลง กอปรกับ JFintech บ.ย่อยที่ดำเนินธุรกิจปล่อยสินเชื่อ Personal loan มีผลขาดทุนต่อเนื่อง ตามปริมาณการตั้งสำรอง สอดคล้องกับระดับ NPL ที่ยังอยู่ในระดับที่สูง เราหันมาแนะนำ JMT ที่เดินหน้าสร้างกำไร New high ในอย่างต่อเนื่องทั้ง QoQ และ YoY ใน 4Q61-2562 บน Business model ที่แข็งแกร่ง เติบโตได้ในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เราแนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 15.30 บาท
OSP ฟันกำไร 300 ล.บุ๊ก Q4 ขายหุ้น WG ให้บริษัทลูก BJC (ข่าวหุ้น)
OSP จ่อฟันกำไรพิเศษกว่า 300 ล้านบาท ขายหุ้น WG ให้ "บิ๊กซี รีเทล" บริษัทลูก BJC บุ๊กเข้าไตรมาส 4/2561 ฟาก BJC รุกทำเทนเดอร์ฯ WG ต่อทันที หลังทำบิ๊กล็อต 1,614 ล้านบาท ถือหุ้นรวม 50% ตั้งโต๊ะรับซื้อราคาหุ้นละ 180 บาท มูลค่ารวม 1,598 ล้านบาท
ความเห็น : บริษัทย่อยของ BJC แจ้งการซื้อหุ้น บมจ. ไว้ท์กรุ๊ป (WG) 8.97 ล้านหุ้น หรือ 50.24% ที่ราคาหุ้นละ 180 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 1,617 ล้านบาท ซึ่ง OSP เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ WG โดยถืออยู่ 23.37% โดยดีลนี้คาดจะเสร็จสิ้นในช่วงเดือน มกราคม 2562 ซึ่งจะส่งผลให้ OSP มีโอกาสรับรู้กำไรพิเศษเข้ามา ถือเป็นจิตวิทยาเชิงบวก ด้านเทคนิคสวย ลุ้นดีดขึ้น ต้าน 26 รับ 24.4 บาท
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000