เมื่อวานที่ผ่านมา SET เผชิญกับแรงขาย นำโดยหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวอย่าง AOT, ERW และกลุ่ม Commodity อย่าง BANPU, IVL, STA กลุ่มโรงไฟฟ้าอย่าง GULF, EA  และหุ้นกลุ่มส่งออกจีนอย่าง CBG, TKN, BEAUTY ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,604.4 จุด   (-12.9 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.5 หมื่นล้านบาท  ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.6 หมื่นล้านบาท 

          นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 ที่ 1,274 ล้านบาท แต่กลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิ 2,608 สัญญา   

 

          ภาพรวม SET ขาดปัจจัยบวก แนะรอสะสมกลุ่มค้าปลีกที่แนวรับ:  ภายหลังรัฐบาลเพิ่มวงเงินสนับสนุนกำลังซื้อผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 8.6 หมื่นล้านบาท (เดิม 4 หมื่นล้านบาท) อีกทั้งเพิ่มจำนวนคนจาก 11.4 ล้านคน เป็น 15 ล้านคน โดยสรุปบัตรนี้สามารถ 1) ลดค่าใช้จ่ายครัวเรือนด้วยการซื้อสินค้าอุปโภคและอาหารจากร้านธงฟ้าและร้านอื่นๆ ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด วงเงิน 200-300 บาท/เดือน 2) ค่าเดินทาง 500 บาท/เดือน   3) แก๊สหุงต้ม 45 บาท/ไตรมาส (วงเงิน 4.1 หมื่นล้านบาท/ปี)   4) กดเงินสดผ่าน ATM จำนวน 100-200 บาท/เดือน (ถึงเดือนธันวาคม)  และล่าสุด 5) อุดหนุนค่าไฟฟ้าและน้ำประปา วงเงินรวม 330 บาท/ครัวเรือน (ทั้งหมด 8.2 ล้านครัวเรือน)  6) สนับสนุนค่าใช้จ่ายเฉพาะในเดือนธันวาคม 500 บาท/เดือน 7) ช่วยเหลือค่าเดินทางไปโรงพยาบาล 1,000 บาท/คน (ครั้งเดียว)  8) ช่วยเหลือค่าเช่าบ้าน 400 บาท/เดือน (ธ.ค.-ก.ย.62) และรัฐบาลเตรียมออกมาตรการช็อปช่วยชาติ ทำให้เรามีมุมมองเชิงบวกและมองว่ามาตรการดังกล่าวจะส่งผลบวกโดยตรงก่อกำลังซื้อในประเทศ  โดยเราแนะทยอยสะสม CPALL บริเวณ 65.0 บาท+/- 

          Investment Theme:  ประเมินกรอบการแกว่งตัวของ SET บริเวณ 1,590 - 1,620 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง ไปจนถึงช่วงปลายเดือนพ.ย.ที่จะมีการประชุม G20 ที่อาจเห็นการเจรจาการค้ากันระหว่าง 2 ผู้นำอย่าง Trump และ Xi Jinping

 

          เมื่อคืนที่ผ่านมา คุณกอบศักดิ์มอง GDP ปีหน้า เติบโตประมาณ 4-4.5% / ค่าการกลั่นปรับลดลง 10% เหลือ 4.76 เหรียญ/บาร์เรล  / Trump ขู่ Shutdown หาก House ไม่อนุมัติงบสร้างกำแพงแม็กซิโก

 

          Trading idea - ทยอยซื้อ กลุ่มค้าปลีก CPALL (63.0-65.0), BJC (48.0-50.0) ที่แนวรับ / ทยอยสะสมหุ้น Defensive อย่าง EGCO บริเวณ 230 บาท +/- และสะสมกลุ่มรถไฟฟ้า BEM บริเวณ 8.10 บาท+/- คาดเริ่มเข้าสู่ช่วงการเจรจาสัมปทาน คาดทราบผลใน 6 เดือน และ BTS เราปรับเพิ่มราคาเหมาสมเป็น 12.10 บาท/หุ้น  

 

          มีโอกาสหลุดแนวรับสำคัญ 1600 มองแนวรับแข็งๆถัดไปที่ 1585:  ดัชนีแกว่งทรงตัวในช่วงเช้า ก่อนจะปรับตัวลงแรงในช่วงบ่าย และปิดที่บริเวณ Low ของวันใกล้แนวรับจิตวิทยาที่ 1600 เนื่องจากดัชนีไม่มีแรง Rebound ที่ต่อเนื่องจากวันก่อนหน้าจากบริเวณแนวรับสำคัญที่ 1600 แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแรงของแรงซื้อ จึงมองว่าวันนี้ดัชนีมีโอกาสปรับตัวหลุด 1600 มองแนวรับถัดไปบริเวณ 1595 และ 1585 ฉะนั้นยังแนะนำให้ชะลอการเก็งกำไรจนกว่าจะเริ่มส่งสัญญาณหยุดลงบริเวณแนวรับอย่างชัดเจน

          กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: หากหลุด 1600 แนะนำ Stop Loss หรือจังหวะ Rebound ระหว่างวันมองเป็นโอกาสขายทำกำไรเพื่อลดพอร์ตและถือเงินสดให้มากขึ้น  2)  ไม่มีหุ้น: แนะนำชะลอการเก็งกำไรและดูแนวโน้มที่แนวรับจนกว่าจะเริ่มมีสัญญาณหยุดลงหรือ Rebound ที่ชัดเจนกว่านี้

          แนวรับ : 1585, 1595 แนวต้าน : 1610, 1620

 

          ปัจจัยต่างประเทศ:  -

          ปัจจัยในประเทศ:   จับตามาตรการ Shop ช่วยชาติ

 

          BDMS  (B 24.70-25.00, Tp 27.00//28.00, Cut 24.50)

          MBK (B 23.30-23.70, Tp 24.50//25.00, Cut 23.00)

 

 

BJC ยึดฐานกลุ่ม CLMV ดีลซื้อกิจการเสริมแกร่ง (ทันหุ้น)

          BJC มั่นใจรายได้รวมปีนี้โตตามเป้า 10% จากยอดขายสินค้าต่อสาขาเพิ่มขึ้น เร่งเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผน 5 ปีครอบคลุมกลุ่มประเทศ CLMV ใช้เวียดนามเป็นฐานรุกอาเซียน วางงบลงทุน 4 พันล้านต่อปี เล็งซื้อกิจการไม่หยุด ด้านโบรกชี้ธุรกิจเข้าสู่ High Season อานิสงส์รัฐกระตุ้นการจับจ่ายหนุน ส่งกำไรทั้งปีโต 21% แนะ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 63 บาท มี Upside กว่า 20%

          ความเห็น : บริษัทมีการขยายธุรกิจค้าปลีกไปยัง CLMV ซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโต ส่งผลบวกในระยะยาว ขณะที่ผลประกอบการ 4Q61 คาดจะเติบโตในเกณฑ์ดีทั้ง QoQ และ YoY แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 68 บาท ด้านเทคนิคแกว่งสร้างฐานในกรอบ แนวรับ 50 ต้าน 54 บาท

 

CK จัดทัพประมูลงานใหญ่ มูลค่าเฉียด 1 ล้านล้านบาท (ข่าวหุ้น)

          "CK" จัดทัพประมูลงานใหญ่เฉียด 1 ล้านล้านบาท โค้งสุดท้ายปีนี้ จับมือ BEM-กลุ่มซีพี ชิงไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน 2.36 แสนล้านบาท ส่วนปีหน้างานสะพัด 7.3 แสนล้านบาท ประมูล "สนามบินอู่ตะเภา-ทางด่วน-โครงการรถไฟฟ้า"

          ความเห็น : งานประมูลโครงการ EEC และ โครงการอื่นๆ ร่วม 9 แสนล้านบาท จะทยอยเปิดประมูลในช่วงที่เหลือของปีต่อเนื่องไตรมาสแรกปีหน้า จะช่วยเติม Backlog CK ที่ปัจจุบันค่อนข้างต่ำ 5.5 หมื่นล้านบาท  คาดกำไรไตรมาส4 จะชะลอตัวลงเนื่องจากไม่มีเงินปันผลและรายการพิเศษ  CK มีจุดเด่นที่มีเงินลงทุนใน BEM, CKP, TTW ที่มีมูลค่าสูงถึง 6 หมื่นล้านบาท หรือ 35 บาทต่อหุ้น  คงคำแนะนำ ซื้อ ประเมินเป้าหมาย 31 บาท เทคนิค sideway กรอบ 24-26 บาท

 

MTC เปิดรูมฝรั่งถือ 11% เม็ดเงินไหลเข้า 2 พันล. จ่อเข้าคำนวณดัชนี MSCI วันที่ 30 พ.ย.นี้ (ข่าวหุ้น)

          "ชูชาติ" ขนทีมผู้บริหารไปโรดโชว์ สิงคโปร์-ฮ่องกง 23-26 พ.ย.นี้ หวังเพิ่มสัดส่วนกองทุนต่างชาติเข้าถือหุ้น MTC เป็น 11%  จากเดิม 9% คิดเป็นเม็ดเงินลงทุนมากกว่า 2 พันล้าน พร้อมเข้าคำนวณดัชนี MSCI อย่างเป็นทางการ 30 พ.ย.นี้ ตั้งเป้าสินเชื่อปี 2562 โตไม่ต่ำกว่า 35% รับอานิสงส์เลือกตั้งเงินสะพัด ราคาเป้าหมาย 62 บาท

          ความเห็น :  คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 62 เร่งตัวขึ้นต่อเนื่องตาม สินเชื่อที่ขยายตัว และการขยายสาขา ผสานกับปัจจัยบวกระยะสั้นที่ MTC เข้าคำนวนดัชนี MSCI รอบใหม่ ที่จะมีผลวันที่ 3 ธค. นี้ เพิ่มจิตวิทยาเชิงบวก ขณะที่ด้านเทคนิค แกว่ง sideway รับสั้น 46.5 ต้าน 50/52 บาท   

 

รฟท.มีงานเพิ่ม 6.8 หมื่นล. เก็ง CK-SEAFCO รับทรัพย์ (ทันหุ้น)

          รฟท.ผุด 2 โครงการใหญ่ มูลค่ารวม 6.8 หมื่นล้านบาท เล็งโครงการส่วนต่อขยายสายสีแดง 3 เส้นทาง มูลค่าลงทุนรวม 2.4 หมื่นล้านบาท เข้าครม. เดือนมกราคม 2562 และโครงการ Missing Link เข้าบอร์ดวันที่ 20 ธันวาคมนี้ ด้านโบรกชี้เป็นบวกต่อกลุ่มรับเหมา ชู STEC-CK เด่น ขณะที่งานฐานราก SEAFCO มาแรง ลุ้นคว้างานใหม่เติมแบ็กล็อก รองรับรายได้ในอนาคต

          ความเห็น :  โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาลหลายโครงการยังเดินหน้าแม้มีความล่าช้า  โดยโครงการ EEC 5 โครงการ มูลค่ารวม 7 แสนล้านบาท เดินหน้าเร็วสุดกำลังอยู่ในขั้นตอนประมูล  คาดจะมีหลายโครงการทยอยออกมา ไม่ว่าจะเป็น โครงการไฟฟ้าสายสีต่างๆ รถไฟทางคู่ ทางด่วน มอเตอร์เวย์ สนามบิน  จะเป็น Story ด้านบวก ช่วยเติม Backlog กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เราแนะนำเก็งกำไรใน CK (เป้าหมาย 31 บาท) และ  STEC (เป้าหมาย 29 บาท)

 

ดีเดย์'ช้อปช่วยชาติ'15ธ.ค. ถกเข้มปรับโมเดล-แก้ดึงกำลังซื้ออนาคต (กรุงเทพธุรกิจ)

          สรรพากร-สศค.ถกเข้มมาตรการช้อปช่วยชาติ เร่งสรุปภายใน 2 วัน เริ่มใช้ 15 ธค.นี้ "เอกนิติ"เผยรูปแบบเปลี่ยน เพื่อป้องกันการดึงกำลังซื้อในอนาคตมาใช้จ่าย ส่วนการกำหนดการซื้อยางรถยนต์เป็นสินค้าที่ใช้ลดหย่อน ต้องดูรายละเอียดว่า เกษตรกรได้ประโยชน์หรือไม่ ขณะที่ภาษีแอลทีเอฟยังไม่สรุปรอข้อเสนอสภาธุรกิจตลาดทุนไทย

          ความเห็น : ประเด็นมาตรการช๊อปช่วยชาติ ถือเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่เข้ามาช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปี ซึ่งในปีที่ผ่านๆมาก็มีมาตรการเช่นนี้ ดังนั้นหากมีการอนุมัติ คาดจะเป็นปัจจัยบวกต่อการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มค้าปลีก โดยเราแนะนำ CPALL, BJC, HMPRO เด่น ในเชิงกลับกันหากไม่เกิดขึ้นอาจส่งผลให้กลุ่มค้าปลีกอาจเผชิญกับฐานสูงในปีก่อนหน้าที่มีมาตรการกระตุ้นได้