- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 21 November 2018 15:58
- Hits: 5553
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET เผชิญกับแรงขายตามภูมิภาค โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อมีแรงขายเด่นในกลุ่มธนาคาร นำโดย KBANK, SCB, BBL และหุ้นใหญ่อย่าง ADVANC, AOT กลุ่มอสังหาอย่าง ORI, LH, LPN, AP ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,612.0 จุด (-24.4 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 2.9 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายหุ้นไทยอีกครั้งที่ 2,182 ล้านบาท พร้อมกลับมาเปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิ 11,177 สัญญา
Investment theme
ตลาดหุ้นขาดปัจจัยสนุบสนุนใหม่ : เราประเมินเศรษฐกิจในหลายๆ ประเทศ จะเริ่มเข้าสู่ภาวะการชะลอตัว เป็นผลมาจากนโยบายกีดการค้าที่ลามไปหลายๆประเทศ โดยประเทศที่พึ่งพาการส่งออก (ประเทศที่มีสัดส่วนการส่งออกมากกว่า 50%ของ GDP) จะได้รับผลกระทบก่อน อย่างที่เห็นได้ชัดกับการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทยเมื่อวานที่ผ่านมา ในขณะที่การบริโภค, การลงทุนในประเทศยังเติบโต แต่ภาคการส่งออกกลับลดลงเหลือเพียงเติบโต 2.6% (จากระดับ 12.3% ใน 2Q18) ส่งผลกระทบให้ GDP เติบโตต่ำเหลือเพียง 3.3% (คาด 4.2%) ในขณะที่หลายๆ ประเทศในเอเชีย ก็เริ่มเผชิญกับภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจเช่นกัน นำโดย อินโดนีเซีย,ฟิลิปปินส์ ในขณะที่เราประเมินประเทศที่พัฒนาแล้วบางประเทศที่พึ่งพึงการส่งออกต่ำอย่างสหรัฐ จะเริ่มได้รับผลกระทบทางอ้อมในระยะกลาง ภาพดังกล่าวเป็นผลให้เราแนะนักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยสถานการณ์ปัจจุบันเรายังไม่เห็นปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในตลาดหุ้นใหม่ แนะรอติดตามผลการประชุม G20 ในช่วงวันที่ 30 พ.ย.เพื่อประเมินสถานการณ์ความรุนแรงของสงครามการค้าอีกครั้ง
Investment Theme: แนวรับสำคัญบริเวณ 1,590 จุด คงคำแนะนำถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% พร้อมเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มอสังหา, โรงกลั่น , TV-Digital และทยอยสะสมหุ้น Defensive และ Downside จำกัด นำโดย EGCO และทยอยสะสม BEM
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา ส.อ.ท.รายงานยอดส่งออกรถยนต์เดือนต.ค.เติบโต 2.75% ที่ 9.3 หมื่นคัน และรายงานดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ 92.6 เติบโตจากเดือนก่อนที่ 91.5 / Brent ปรับตัวลง 6% ที่ 62.5 เหรียญ/บาร์เรล dollar พลิกกลับมาแข็งค่าที่บริเวณ 96.8
Stock pick : -
Trading idea – ทยอยสะสมหุ้น Defensive นำโดย EGCO เราประเมิน Downside จำกัด ในขณะที่โครงการที่เกาหลีคิดเป็นมูลค่าเพิ่มอีกถึง 14.0บาท (จากระดับ 259.0 บาท) / ทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL (63-65.0), BJC (48-50.0) ที่แนวรับ โดยเรามีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มค้าปลีก
Technical View
ปรับตัวลงแรงต่อเนื่อง มองแนวรับถัดไป 1600 และ 1585: ดัชนีปรับตัวลงแรงจากแรงขายหุ้นกลุ่ม Big Cap. แทบทุกกลุ่ม ทั้งธนาคาร พลังงาน ค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ดัชนีปรับหลุดแนวรับ 1620 และปิดที่บริเวณ Low ของวัน เกิดเป็นแท่งเทียนแดงเต็มแท่ง ทำให้ยังคงมองว่าดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวลงต่อ มองแนวรับถัดไปที่ 1600 และ 1585 ตามลำดับ สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีหุ้นแนะนำให้ชะลอการเก็งกำไรจนกว่าดัชนีจะเริ่มหยุดลงหรือ Rebound อย่างมีนัยยะ หรือหากยังมีหุ้นจังหวะ Rebound ระหว่างวันยังมองเป็นโอกาสขายเพื่อลดพอร์ตการลงทุน
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound ระหว่างวันมองเป็นโอกาสขายเพื่อลดพอร์ต หรือหากหลุด Low 1610 แนะนำ Stop Loss 2) ไม่มีหุ้น: แนะนำรอดูแนวโน้มที่แนวรับถัดๆไปจนกว่าดัชนีจะเริ่มหยุดลงหรือ Rebound อย่างมีนัยยะ
แนวรับ : 1585, 1600 แนวต้าน : 1615, 1620
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ: จับตา EC พิจารณางบขาดดุลอิตาลี -
ปัจจัยในประเทศ: เช้านี้จับตาการรายงานตัวเลขส่งออก
หุ้นเทคนิค:
BDMS (B 24.20-24.70, Tp 26.00//27.00, Cut 24.00)
TU (B 17.80-18.20, Tp 19.00//19.50, Cut 17.60)
ข่าวเด่นเช้านี้
IVL ลุยปันผลทุกไตรมาส โชว์กำไรสะสม 7 หมื่นล. (ข่าวหุ้น)
บอร์ด IVL ไฟเขียวนโยบายใหม่จ่ายปันผลทุกไตรมาส ประเดิมจ่ายงวดไตรมาส 3/2561 หุ้นละ 35 สตางค์ มูลค่าเฉียด 2 พันล้านบาท กำหนดแขวน XD วันที่ 3 ธ.ค.นี้ โชว์กำไรสะสมในมือแน่น 7.18 หมื่นล้านบาท
ความเห็น : เรามีมุมมองเป็นกลางต่อประเด็นการปรับนโยบายการจ่ายปันผลเป็นรายไตรมาส จากเดิมทุก 6 เดือน เนื่องจากไม่ได้ทำให้คาดการณ์ปันผลเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยประกาศปันผลสำหรับผลประกอบการ 3Q61 จำนวน 0.35 บาทต่อหุ้น XD วันที่ 3 ธ.ค. 2561 เมื่อรวมที่จ่ายไปแล้วสำหรับ 1H61 จำนวน 0.70 บาท ทำให้ปันผลงวด 9 เดือน เท่ากับ 1.05 บาทต่อหุ้น เราประเมินปันผลสำหรับ FY2561 จำนวน 1.34 บาท เชื่อว่ามีโอกาสมี Upside ที่ประมาณ 1.40 บาทต่อหุ้น คิดเป็นผลตอบแทน 2.6% แนะนำ ทยอยสะสม ราคาเป้าหมาย 72 บาท เทคนิคอยู่ในช่วงปรับฐาน แนวรับ 52/50 ต้าน 56 บาท
ยอดผลิตรถยนต์คาดทะลุเป้า2ล้านคัน (ข่าวสด)
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ปรับเป้าหมายการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น 20,000 คัน มาอยู่ที่ 1 ล้านคัน จากเดิมคาดอยู่ที่ 980,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15.96% ส่งผลให้ประมาณการยอดผลิตรถยนต์ปีนี้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2.1 ล้านคัน จากเดิมคาดอยู่ที่ 2.08 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.59% ที่ผลิตได้ 1.98 ล้านคัน
ความเห็น : ตัวเลขอุตสาหกรรมรถยนต์เดือน ต.ค. แบ่งเป็น ยอดผลิตรถยนต์ ทำสถิติสูงสุดรอบ 63 เดือน 197,203 คัน (+8%MoM, +21%YoY) ตลาดรถยนต์ในประเทศยังโตดี 86,931 คัน (-2%MoM, +27%YoY) และ ยอดส่งออก เริ่มลงมาต่ำกว่าแสนคันเหลือ 93,338 คัน (-10%MoM, +3%YoY) สภาอุตสาหกรรมเพิ่มเป้ายอดผลิตรถยนต์ปี 2561 เป็น 2.1 ล้านคัน โต 5.5% จากเดิม 2.08 ล้านคัน ตลาดส่งออกเริ่มมีความเสี่ยงสงครามการค้า และ ตลาดในประเทศปีนี้ฐานสูง คาดปีหน้าจะเติบโตไม่มาก เราลดมุมมองเป็น Neutral จาก Positive
CENTEL ทุนหนาทุ่ม 7 พันล. ดีลซื้อกิจการตุนพอร์ต (ทันหุ้น)
CENTEL ปี 2562 คาดผลงานเติบโต ชี้ธุรกิจโรงแรมอัตราการเข้าพักแตะ 83-85% เชื่อรัฐบาลหนุนท่องเที่ยว ส่วนธุรกิจร้านอาหารคาดยอดขายสาขาเดิมโต 3-4% พร้อมตั้งงบลงทุนแตะ 7 พันล้านบาท ขยายฐานดีลซื้อกิจการเพิ่ม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โบรกเคาะราคาเหมาะสม 52 บาท
ความเห็น : ผู้บริหารตั้งเป้าอัตราเข้าพักเพิ่ม 1-2% และอัตราค่าห้องเพิ่ม 3-4% รวมเป็น รายได้ต่อห้องพัก (RevPAR) เพิ่มขึ้น 4-6% ในปี 2562 อย่างไรก็ตาม CENTEL จะปิดโรงแรม renovate 2 โรงแรมที่สมุย และ CTW จึงน่าจะกดดันกำไรในปีหน้า ทั้งนี้ธุรกิจอาหารน่าจะยังเติบโตต่อไปได้ดี จากการบริโภคที่ดีขึ้นก่อนการเลือกตั้ง เราอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการและราคาเป้าหมาย ขณะที่เทคนิค sideway กรอบ 38-42 บาท
GUNKUL ลุ้นปีหน้าโตแรง ซื้อเป้า 5 บาทอัพไซด์ 63% (ข่าวหุ้น)
บุ๊กกำไรวินด์ฟาร์ม 170 เมกะวัตต์เต็มปี 4 โบรกฯ ประสานเสียงเชียร์ “ซื้อ” หุ้น GUNKUL เคาะเป้าสูงสุด 5 บาท อัพไซด์สูง 63% ฟันธงงบปี 2562 กำไรโตแรง จากปี 2561 คาดมีกำไร 1,161 ล้านบาท เหตุบุ๊กกำไรเต็มปีวินด์ฟาร์ม 3 โครงการ กำลังผลิตรวม 170 MW และ COD โซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่นในไตรมาส 1/2562
ความเห็น : เราเห็นด้วยว่าแนวโน้มกำไรปี 2561-2562 จะขยายตัวได้ YoY จากกำลังผลิตใหม่ที่จ่ายไฟเพิ่ม +177MW และ +66MW ตามลำดับ เท่ากับว่าปี 2562 จะมีกำลังผลิตขายไฟ 403 MW คิดเป็น 74% ของกำลังผลิตในมือทั้งหมด 546MW อย่างไรก็ตามกำไรจะเริ่มทรงตัวในปี 2563-2564 เนื่องจากไม่มีกำลังผลิตที่จ่ายไฟเพิ่ม ทำให้การเติบโตระยะกลางจำกัด ขณะที่ราคาปัจจุบันคิดเป็น Forward P/E’62F = 14X และหากประเมิน payout 50% เท่ากับว่า Div.yield’62F คิดเป็นเพียง 2-3% ซึ่งน้อยกว่ากลุ่มโรงไฟฟ้า จึงอาจไม่ดึงดูดมากนัก ส่วนเทคนิคแกว่ง sideway ในกรอบ 3.0-3.2 บาท
ประยุทธ์’แจกปีใหม่ ‘8หมื่นล.’ 16ล้านราย‘บัตรคนจน-ขรก.บำนาญ-สวนยาง’เฮ ช่วย “ค้ำ-ไฟ-เช่าบ้าน” ตั้งแต่ ธ.ค.61-ก.ย.62
ครม. ทุ่มงบกว่า 8 หมื่นล้าน กระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการรัฐ 14.5 ล้านราย แจกเงินปีใหม่คนละ 500 บาท แถมช่วยค่าน้ำ-ค่าไฟ 10 เดือน ค่าเช่าบ้านเดือนละ 400 บาท ให้ค่าเดินทางคนแก่ไปพบหมอพันบาท อุ้มชาวสวนยาง-คนกรีด 1.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มเงินบำนาญข้าราชการ ธอส.เดินหน้าบ้านล้านหลัง “กอบศักดิ์” ชี้ช่วยดันเศรษฐกิจปีหน้า สศค.คาดกระตุ้นจีดีพี 0.07%
ความเห็น : หลังจากการรายงาน GDP3Q61 ของไทยที่ขยายเพียง 3.3% ต่ำกว่าคาดค่อนข้างมาก สะท้อนความเสี่ยงระยะสั้นต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย จึงมีโอกาสเห็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐเร่งตัวขึ้นในช่วงถัดไป โดยล่าสุดการทุ่มงบกว่า 8 หมื่นล้านในการช่วยผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการรัฐ คาดจะเป็นอานิสงส์เชิงบวกต่อการฟื้นตัวต่อเนื่องของภาคการบริโภคไทย เป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก แนะ CPALL, BJC, HMPRO เด่น
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000