- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 16 November 2018 15:56
- Hits: 1567
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
มีเด้งบ้างก่อนไซด์เวย์ต่อ
KGI คาด SET Index วันศุกร์ฟื้นตัวได้บ้าง ก่อนไซด์เวย์ต่อ... ฟันด์โฟลว์ดูอ่อนแรงลงในช่วงสั้น ผนวกกับนักลงทุนส่วนหนึ่งน่าจะรอดูตัวเลขจีดีพีของไทยเช้าวันจันทร์หน้า... ขณะที่เมื่อวานนี้ดัชนีฯ ปรับลง อ่อนแอกว่าที่เราคาด ตามแรงขายในหุ้นกลุ่มหลักอย่างสื่อสารและค้าปลีก สำหรับปัจจัยวันนี้ แม้ว่าหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนรีบาวด์แต่ไม่น่าจะหนุนหุ้นเอเชียได้มากนัก เนื่องจากปัจจัยภายนอกยังมีความไม่แน่นอนสูง เช่น i) ประเด็นสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน หลังสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าจีนกำลังร่างดีลการค้าเพื่อเสนอสหรัฐฯ ในการประชุมจี-20 แต่ภายหลังเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ก็ออกมาแถลงว่ายังไม่มีพัฒนาการที่สำคัญใดๆ ii) ประเด็น Brexit หลัง ครม. อังกฤษเห็นชอบแผน แต่ภายหลังพบว่ารัฐมนตรีอย่างน้อย 4 คนลาออกเพื่อประท้วง และนายกฯ อังกฤษอาจถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเร็วๆ นี้... ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้า ปัจจัยที่ควรติดตามได้แก่ i) การรายงานจีดีพีของไทยไตรมาส 3/61 ในวันที่ 19 พ.ย. ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ KGI คาด +4.3% YoY และ ii) การประชุมระหว่าง กกต. กับพรรคการเมืองต่างๆ ในวันที่ 21 พ.ย. ซึ่งน่าจะมีรายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับการทำกิจกรรมทางการเมืองและไทม์ไลน์การเลือกตั้ง
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร TRUE*, CPALL*
TRUE* (เป้าพื้นฐาน 9.0 บาท) 1) รายงานกำไร 3Q61 Turnaround จากขาดทุนใน 3Q60 (ฟื้นตัว YoY เด่นสุดในกลุ่มฯ) โดยเป็นผลจากการบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์ไปก้อนใหญ่ใน 2Q61 (ส่งผลให้ต้นทุนทางบัญชีลดลง และผลการดำเนินงานหลังจากนี้จะพลิกเป็นบวกได้ต่อเนื่อง) 2) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งตัวในกรอบ 5.8 - 6.0 บาท หาก Breakout ผ่านกรอบแนวต้าน 6.0 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 6.35 บาท (Stop loss 5.6 บาท)
CPALL* (เป้าพื้นฐาน 87 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 68 บาท / แนวต้าน 70 บาท และถัดไปที่ 72 บาท (Trailing stop 67 บาท) 2) รายงานกำไร 3Q61 ดีกว่าคาด 8% เราคาดผลการดำเนินงานพ้นช่วงต่ำสุดแล้ว โดยราคาอาหารสดเริ่มฟื้นตัว และพ้นฤดูฝนใน 3Q61 (Low seaosn) ขณะที่แนวโน้มการบริโภคในประเทศฟื้นตัวตามเศรษฐกิจและ Sentiment บวกจากการเลือกตั้ง คาดแนวโน้มกำไรฟื้นตัวขึ้นใน 4Q61 - 1Q62 3) ประเมิน Valuation ลงมาในระดับ น่าสนใจ PE ปี 2562 < 25 เท่า คิดเป็นเพียงระดับ -1.5 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีต (ค่าเฉลี่ย PE ของ CPALL* = 32 เท่า)
หุ้นเชิงปริมาณ & พื้นฐาน "Quantamental"
หุ้นเด่น Quantamental เดือน พ.ย.61: CPF* (Stop loss 23.8 บาท), KTB* (Stop loss 19.4 บาท), AMATA* (Stop loss 22.3 บาท) และ ASK (Stop loss 22.9 บาท)
หุ้นมีข่าว
(+) รัฐเร่งดัน'เอสอีซี'พัฒนา4จังหวัดใต้ชงเข้าครม.ธันวา (กรุงเทพธุรกิจ) "กอบศักดิ์"เตรียมชงครม.อนุมัติระเบียงเศรษฐกิจ"เอสอีซี"ธ.ค.นี้ ตามยุทธศาสตร์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 4 จังหวัด"ชุมพร-ระนองสุราษฎร์ธานี- นครศรีธรรมราช" เชื่อมต่ออีอีซีไปสู่ประตูภาคใต้ ชี้ไทยหมดยุคกินบุญเก่า ลั่นนายกฯสั่ง ปักหมุดอีอีซี เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของรัฐบาล "ประยุทธ์ จันทร์โอชา"
(+) CHO เดินหน้าผุดบริษัทลูกดูแลเมล์โดยสาร (ไทยโพสต์) นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ช ทวี หรือ CHO เปิดเผยว่า ได้จัดตั้งบริษัทแห่งใหม่ขึ้นภายใต้ชื่อบริษัท อมรรัตนโกสินทร์ จำกัด โดยมี ช.ทวี ถือหุ้น 100% เน้นกิจการด้านรถเมล์โดยสารสาธารณะ ในกรุงเทพมหานครเพื่อรองรับการปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ใหม่ 269 เส้นทาง โดยเน้นไปที่การซื้อสัมปทานเส้นทางเดินรถและตัวรถเมล์เข้ามารวมกันเพื่อบริหารเองทั้งหมด
(+) RATCH* ตั้งเป้าผลิตไฟเพิ่ม 700 เมก (ไทยโพสต์) RATCH* กางแผนลงทุนปี 62 ลุยผุดโรงไฟฟ้าใหม่เพิ่มอีก 700 เมกะวัตต์ พร้อมประกาศเลื่อน COD โรงไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อยไปเป็นปลายปี 62 เผย Q3/61 กำไรร่วง 17%
(+) CPF* ตั้งเป้ายอดขาย 5 ปี 6 แสนล. (กรุงเทพธุรกิจ) ราคาหมูเวียดนามฟื้น หนุนกำไร9เดือนพุ่ง7% "ซีพีเอฟ" ตั้งเป้า ยอดขายทะลุ 6 แสนล้านบาท ภายใน 5 ปี หวังกิจการในต่างประเทศหนุน ด้านผลดำเนินงานงวด 9 เดือนปีนี้ มีกำไร 1.38 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน อานิสงส์ราคาหมูในเวียดนามและกัมพูชาปรับเพิ่มขึ้น
(+) BANPU* การันตีตลาดถ่านหินพีก งบปี 61 ฟันรายได้โต 3.2 พันล้านเหรียญ (ข่าวหุ้น) BANPU* มั่นใจปี 61 ฟันรายได้โตแกร่ง 3.2 พันล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 20% รับยอดขายถ่านหินพุ่ง 45 ล้านตัน ลั่นปี 62 โตต่อเนื่อง ผลบวกราคาถ่านหินเคลื่อนไหวกรอบ 98-108 เหรียญฯ
(+) BPP* ลั่น ธ.ค. นี้ COD ไฟฟ้าญี่ปุ่น หนุนสิ้นปี 61 ปั๊มกำลังผลิตพุ่ง 2,140 MW (ข่าวหุ้น) BPP* คว้าข่าวดี 1 ธ.ค.นี้ COD โรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นเพิ่ม มั่นใจสิ้นปี 2561 ฐานกำลังผลิตพุ่ง 2,140 MW โชว์ฐานะการเงินมั่นคง D/E ต่ำ 0.13 เท่า โฟกัสลงทุนเวียดนามเพิ่ม หลังภาครัฐกางแผนเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าเป็น 55 GW
(+) JWD ดีลพันธมิตรต่างแดนร่วมทุนต่อยอดธุรกิจอาหาร (ทันหุ้น) JWD ตั้งเป้าหมายปี 2562 รายได้รวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20% แรงขับเคลื่อนสำคัญจากธุรกิจ Food Service เผยดีลพันธมิตรต่างแดนร่วมธุรกิจอาหาร คาดต้นปี 2562 ได้ข้อสรุปไม่น้อยกว่า 2 ราย จับตาไตรมาส 1/2562 จ่อบุ๊กกำไรขายที่นิคมพนมเปญ เฟส 3 เต็มสูบ ล่าสุดผนึกกำลัง CJ Logistics เสริมแกร่งฐานลูกค้าในอนาคต
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
SCC* (เป้าพื้นฐาน 480 บาท) ประเมินแนวรับ 430 บาท / แนวต้าน 444 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 428 บาท)
GGC* (เป้า Consensus 13.6 บาท) ประเมินแนวรับ 11.0 บาท / แนวต้าน 11.5 บาท (Stop loss 10.7 บาท)
KTB* (เป้าพื้นฐาน 22.4 บาท) ประเมินแนวรับ 20.0 บาท / แนวต้าน 20.5 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 20.0 บาท)
SCCC* (เป้าพื้นฐาน 304 บาท) ประเมินแนวรับ 236 บาท / แนวต้าน 255 บาท (Stop loss 236 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลุ่มโรงแรม น้ำหนักการลงทุน "เท่ากับตลาดฯ" การท่องเที่ยวไทยที่ชะลอตัวส่งผลให้ผลการดำเนินงานของหุ้นใน 3Q61 ชะลอตัวลง (ทั้ง Occupancy rate และ Ravpar) อย่างไรก็ดีในส่วนของโรงแรมระดับบนของ MINT* กลับมี Revpar ที่ดีขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศ สำหรับธุรกิจอาหารของ CENTEL* และ MINT* ในไทยยังชะลอตัวลง คงน้ำหนักการลงทุน "เท่ากับตลาดฯ" โดยประเมินว่า ERW* น่าจะได้อานิสงส์สูงสุดหากการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัว จากมาตรการภาครัฐฯ
MONO* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 2.12 บาท ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการปี 2561 - 62 ลง สะท้อนผลการดำเนินงานที่แย่กว่าคาด หลังการปรับประมาณการและราคาเป้าหมายลงแล้ว ฝ่ายวิจัยฯคงคำแนะนำ "ถือ"
SIRI* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 1.53 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ ผู้บริหารปรับลดเป้าหมายการเปิดตัวโครงการใหม่ลง -8% แต่ปรับเป้าหมาย Presale ขึ้น แม้ยอดขายจะทำได้ดี แต่ต้นทุนค่าใช้จ่ายที่มากกว่าคาด ฝ่ายวิจัยฯจึงปรับลดประมาณการปี 2561 - 63 ลง แม้เบื้องต้นคาดว่าผลการดำเนินงาน 4Q61 จะโตเด่น แต่แนวโน้มที่จะชะลอตัวลงในอนาคต จึงแนะนำเพียง "ถือ"
WHA* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 4.5 บาท ผลการดำเนินงาน 9M61 ที่แย่กว่าคาด สำหรับธุรกิจนิคมฯของ WHA* ฝ่ายวิจัยฯจึงปรับลดสมมติฐานยอดขายที่ดินลง และปรับคำแนะนำลงเป็น "ถือ"
WHAUP* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 9.0 บาท ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการฯปี 2561 - 63 ขึ้น สะท้อนผลการดำเนินงานที่ดี และปันผลจาก GIPP ที่ดีขึ้น โดยหลังการปรับประมาณการฯกำไรของ WHAUP ปี 2561 จะเติบโตราว +32.8% YoY
