- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 16 November 2018 15:22
- Hits: 1680
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
เมื่อวานหุ้นกลุ่มบ้านลงแรง ผสมโรงด้วยหุ้นที่รายงานกำไรต่ำคาดเช่น BJC ลงแรงกดดันดัชนีฯ
วันนี้คาด ตลาดหุ้นไทย Sideways down การลงอย่างรุนแรงของหุ้นรายตัว เช่น กลุ่มบ้าน, หุ้น High growth/High PE, การรายงานกำไรต่ำคาดของหุ้นรายตัว อาจจะมีน้ำหนักไม่มากในการกดดันดัชนีฯ แต่คาดมีผลต่อ Wealth effect ของนักลงทุน และบั่นทอน บรรยากาศลงทุนโดยรวม ช่วงนี้ / กลยุทธ์ แนะนำ เลือกลงทุนรายตัว / เลี่ยงตัวที่มีประเด็นลบ
ระยะสัปดาห์ ตลาดหุ้นไทย Sideways down ผิดจากที่คาด ส่วนกลยุทธ์ คงแนะ เลือกซื้อรายตัว หรือ รอ ให้จบช่วงรายงาน งบ 3Q ซึ่งวันนี้จะเป็นวันสุดท้าย งบที่ส่งเส้นตาย เมื่อคืน จะออกครบหมดเช้านี้ แนะนำ ได้เวลา เริ่มทยอยซื้อหุ้น งบดีมีปัจจัยหนุนเข้าพอร์ต อีกครั้ง
What to watch:
(+) รองนายก สมคิด เผย อยากให้ต่ออายุ LTF ที่กำลังหมดอายุลงปีหน้า พร้อมทั้งย้ำให้ คลัง พิจารณากองทุนใหม่ที่ทาง FETCO เสนอด้วย
(*/-) กระแสข่าว วันที่ 22 พย.นี้ พรรคการเมืองขนาดเล็ก จะรวมตัวกันยื่น คกก.เลือกตั้ง ขอเลื่อนเลือกตั้งออก เป็น 5 พค.ปีหน้า (ที่มา ข่าวสด, ไทยรัฐ)
(*) การเมืองสหรัฐฯ ส่อแวววุ่น ต่อการเกิด Government shutdown ในเดือน ธค.จากนโยบายที่ไม่ลงรอยระหว่าง รัฐบาล และ รัฐสภาสหรัฐฯ
(-) เมื่อวาน ธ.กลางอินโดนีเซีย ขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 6% เป็นการขึ้นครั้งที่ 6 ของปีนี้ / กลยุทธ์ แนะเลี่ยง หุ้นกระทบจาก Rate sensitive เช่น อสังหาฯ, เช่าซื้อ สินเชื่อบุคคล
(+) รมต.กอบศักดิ์ ในฐานะรองประธาน EEC เผยเตรียมเสนอ ครม. ขยายโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ SEC ครอบคลุม ชุมพร สุราษฎร์ฯ นครศรีธรรมราช ระนอง เน้น การฟนฟูพัฒนาปาชายเลน, ประมง, อุตสาหกรรม ยาง และ ปาล์ม, พัฒนาท่าเรือ ระนอง สร้างรถไฟทางคู่ชุมพร-ระนอง
หุ้นแนะนำ
AOT วันนี้ตามกำหนดจะให้มีการยื่นซองประมูล โครงการเมืองการบิน และ พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา
WHA AMATA สะสมดัก มติบอร์ด BOI 19 พย. นี้ ออกแคมเปญพิเศษ ดึงดูดการลงทุน
CPF ดุรายงานวันนี้
รายงานวันนี้
Thai Market Strategy: SET earnings roundup for 3Q18
กำไรสุทธิของบริษัทรวมใน 3Q18 เติบโต 25% YoY แต่ทรงตัว QoQ และดีกว่าที่ตลาดคาด 2.5% จากทั้งหมด 26 กลุ่ม มี 16 กลุ่มที่รายการกำไรเติบโต YoY เช่น กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง, กลุ่มสินเชื่อ, สื่อ, ปิโตรเคมิคอล, พลังงาน และยานยนตร์
สำหรับกลุ่มบริษัทที่รายการกำไรดีกว่าที่ตลาดคาด (เกิน 5%) มีอยู่ 38% เพิ่มขึ้นจาก 32% ใน 2Q18 ในขณะที่กลุ่มรายงานกำไรต่ำกว่าคาดคิดเป็น 33% ทรงตัวจากใน 2Q18
ภาพรวมเราเห็นการปรับประมาณการกำไรสำหรับปี 2018 ขึ้นเดือนที่สองติดกันตั้งแต่ ต.ค. ซึ่งเป็นการปรับจากตัวบรัทมากกว่าตามกลุ่มอุตสาหกรรม สะท้อนกำไรใน 3Q18 ที่ดีกว่าคาด สำหรับประมาณการ EPS ปี 2018 ของเราตอนนี้อยู่ที่ 107.3 ต่ำกว่าตลาดเล้กน้อยที่ 108.2
CPF: Robust 3Q18 core earnings momentum carried through 1H19
เรามองว่าผลการดำเนินงานในต่างประเทศจะยังคงรักษาโมเมนตัมได้ใน 2019 แม้ว่าจะมีความท้าทายจาก the ASF (African Swine Fever) และ การอ่อนค่าอย่างรุนแรงของค่าเงินตุรกีแต่ ณ ตอนนี้ บริษัทยังไม่เห็นผลกระทบเชิงลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ของ CPP และธุรกิจในตุรกี เรามองว่าธุรกิจหมูในไทยและเวียดนามจะยังคงเป็นปัจจัยหนุนกำไรในปี 2019 อีกทั้งยังคาดหวังว่าจะเห็นการฟนตัวของธุรกิจไก่และกุ้งในปีหน้า เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 31 บาท
Quick Takes
GPSC : Key takeaways from analyst meeting
ผู้บริหารมีความเชื่อมั่นต่อการเติบโตในอนาคตของบริษัทควบคู่ไปกับกับการขยายตัวของกลุ่มปตท. โดยไม่ว่าผลของการยื่นอุทธรณ์ต่อกกพ.เกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้น GLOW จะออกมาเป็นอย่างไร (คาดว่าจะทราบผลภายในวันที่ 12 ธค.) GPSC ก็จะยังคงเป็นบริษัทที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยการเติบโตในอนาคตอันใกล้คาดว่าจะมาจากโอกาสในการพัฒนาโรงไฟฟารองรับการขยายตัวของกลุ่มปตท. การลงทุนในประเทศพม่า และการเข้าซื้อกิจการพลังงานทดแทน โดยโครงการต่างๆดังกล่าวจะเป็นอัพไซด์ต่อการประมาณการกำไรและราคาเปาหมายของเรา ดังนั้นเรายังคงคำแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" (ราคาเปาหมายที่ 72 บาท)
EGCO: เข้าซื้อหุ้น 49% ในโรงไฟฟ้า LNG ขนาด 1.8 GW ที่ประเทศเกาหลีใต้
EGCO จะเข้าลงทุน 49% ในโรงไฟฟ้าก๊าซ พาจู ประเทศเกาหลีใต้ ขนาดกำลังผลิต 1.8 GW ด้วยมูลค่าเงินลงทุนราว 2.62 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมและไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน โดยคาดการเข้าซื้อจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือน ม.ค. 2562 เบื้องต้นเราคาดว่าโครงการดังกล่าวจะเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรปี 2562 ของเราราว 2 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 23% จากประมาณการปัจจุบัน) และ เพิ่มมูลค่าพื้นฐานของหุ้น EGCO ราว 15 บาทต่อหุ้น เราเชื่อว่าการลงทุนครั้งนี้จะส่งผลให้นักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของบริษัท รวมทั้งความสามารถในการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ที่ให้ผลตอบแทนที่ดี เราจะปรับประมาณการของเราและอัพเดทข้อมูลอีกครั้งหลังจากได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากการประชุมนักวิเคราะห์ เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" (ราคาเปาหมาย ณ สิ้นปี 2562 ที่ 267 บาท)
CPF: Key takeaways from analyst meeting
เราเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์ของ CPF มีความเห็นเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานในต่างประเทศซึ่งมีแนวโน้มแข็งแกร่งใน 4Q18 ต่อเนื่องจนถึงปี 2019 และถึงแม้ว่าจะมีความท้าทายสำคัญ เช่น การระบาดของโรคไข้หวัดหมู และค่าเงินตุรกีที่อ่อนค่าลงอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบเชิงลบแต่อย่างใดต่อธุรกิจอาหารสัตว์ของ CPP และธุรกิจในประเทศตุรกี เรามองว่าธุรกิจหมูในประเทศไทยและเวียดนามยังคงเป็นปัจจัยหนุนกำไรปี 2019 นอกเหนือจากธุรกิจไก่และกุ้งในประเทศไทยที่คาดว่าจะฟนตัวดีขึ้นเช่นกันในปีหน้า ทุกธุรกิจในต่างประเทศ (ยกเว้นเบลลิซิโอ้และอินเดีย) ใน 3Q18 ปรับตัวดีขึ้น YoY เราเชื่อว่าผลการดำเนินงานของธุรกิจในต่างประเทศยังคงเติบโตต่อเนื่องในปี 2019 (โดยเฉพาะในเวียดนาม กัมพูชาและรัสเซีย) อุปทานไก่ส่วนเกินในไทยมีแนวโน้มลดลงจากโอกาสของการส่งออกไปยังจีนที่เพิ่มขึ้นภายในปี 2019 ซึ่งน่าจะช่วยหนุนราคาไก่ในประเทศในปีหน้า นอกจากนี้เราคาดว่าผลประกอบการหลักพลิกกลับมาแข็งแกร่งเป็นกำไรหลัก YoY ใน 4Q18 และในปี 2019 มูลค่าหุ้นถูกด้วยอัตราส่วน PER ปี 2019 ที่ 11.2 เท่า (เทียบกับ PER ระยะยาวของหุ้น CPF เองที่ 13.2 เท่า) เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ"
Quantitative Strategy: ความผันผวนใกล้จบลงแล้ว
คาดหุ้นไทยจะรีบาวด์ ช่วงครึ่งหลังเดือน พย. ต่อเนื่อง ถึง ธค. อิงจาก เครื่องมือชี้วัดทางการวิเคราะห์เชิงปริมาณ เช่น Market volatility, Volume flow, Short term Bull to bear และ เครื่องมือวัดราคาน้ำมันดิบ WTI บ่งชี้การรีบาวด์แรง ถ้าลงมาแตะ $45 พร้อมทั้งแนะนำ ซื้อหุ้น BDMS BLA M ROBINS TMB และถอดหุ้น AP COL TOP PTTGC
หุ้นมีข่าว
(+) AMATA WHA วันที่ 19 พย.นี้ ทางสำนักงานส่งเสริมการลงทุน BOI จะเสนอบอร์ด เพื่อออกมาตรการ ดึงดูดการลงทุนต่างชาติ เป็นแคมเปญส่งท้ายปี (ที่มา อินโฟเควสท์)
(+) รองนายก สมคิด เผยหารือกับกระทรวงการคลังแล้ว ยังไม่อยากให้มีการยกเลิก LTF เพราะว่ากองทุน LTF ถือเป็นแหล่งที่สำคัญที่ทำให้คนมาเข้าสู่การลงทุน แต่การต่ออายุนั้น ตรงนี้จะให้กระทรวงการคลังพิจารณา รวมถึงกรณีที่ทางสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เสนอจัดตั้งกองทุนใหม่ด้วย จะให้กระทรวงการคลังพิจารณาเป็นพิเศษ และอาจจะให้มีการปรับให้เข้ากับยุคสมัย เพื่อที่จะให้กลุ่มคนในช่วงวัยรุ่น หรือผู้สูงอายุ สามารถเข้ามาลงทุนได้ในระยะยาวด้วย (ที่มา อินโฟเควสท์)
(+/-) MSCI review มีผล 30 พย.นี้ GULF MTC ติด Standard index / ส่วน Small Cap index เพิ่ม CBG MBK ถอด CCET DDD ICHI MONO VNG MTC (ที่มา MSCI)
(+) เตรียมออก TFFIF เพิ่ม มูลค่าราว 4 หมื่นลบ. / เรามองว่ามีโอกาสที่ KKP จะได้งานค่าที่ปรึกษาขยายกองนี้อกีครั้ง (ที่มา BLS Research)
(-) กลุ่มอสังหา: สนช.พิจารณา กม.ภาษีที่ดิน 15 พ.ย. ดีเดย์ใช้ ปี '63 เกษตรกรรม เสียภาษีแค่ 0.01% ที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 25 ล้านบาท เก็บ 0.03% ที่ดินที่ใช้ประโยชน์อื่น เจอ 0.3% ที่ว่างเปล่าไม่ได้ทำประโยชน์ ไม่เกิน 50 ล้านบาท เก็บภาษี 0.3% (ที่มา ข่าวสด)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
Trend Forecasting
SET Index ปิด 1638.83(-0.82%) มูลค่าการซื้อขาย 4.4 หมื่นล้านบาท
Dollar bull in a bear markets. ค่าเงินดอลลาร์ส่งสัญญาณแข็งค่ากดดันตลาดหุ้นโลกและสินทรัพย์เสี่ยง...
มุมมองตลาด: ดัชนีปิดต่ำและปรับตัวลดลงต่อเนื่องสอดคล้องกับดัชนี MACD และ RSI ซึ่งใช้เป็นเครื่องมือวัดโมเมนตัมส่งสัญญาณเตือนการอ่อนแรงด้านราคา นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า กดดันสินทรัพย์เสี่ยง น้ำมันและตลาดหุ้นภูมิภาคปรับตัวลดลง ขณะที่ค่าความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น คำถาม:แนวรับหลักของดัชนีอยู่บริเวณใด? จุดที่น่าสนใจคือหากปรับตัวลงแรงแถวบริเวณ 1600-1630 จุด จะส่งผลให้เครื่องมือทางเทคนิคอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ อยู่ในระดับ Oversold และมองเป็นจุดที่น่าสนใจ เหตุการณ์ในอดีตชี้ว่ารอบการปรับฐานปรกติจะปรับลดลงโดยเฉลี่ย 3-5% ซึ่งปัจจุบันตลาดปรับตัวลงมาแล้วทั้งสิ้น 2.5 %
คำแนะนำ: ระมัดระวังหุ้นที่ปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับส่งสัญญาณอ่อนกว่าตลาดและระมัดระวังหุ้นที่ปรับตัวอยู่ด้านบนโดยพิจารณาจากค่า RSI > 70 บ่งชี้ถึงความผันผวนอาจลงแรงได้และใช้จุด Stop loss หากหุ้นไม่เป็นไปตามคาด
สรุป: เราแนะนำนักลงทุนคัดเลือกหุ้นอย่างระมัดระวัง แนะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงใช้ประโยนช์จากสัญญาณทางเทคนิคเข้ามาช่วยจับจังหวะการซื้อขาย
กลยุทธ์การเทรดตลาดขาลงเราจะเลือกซื้อหุ้นอะไร? เราคาดว่าหุ้นที่น่าสนใจและมีโอกาสดีดขึ้นได้ดีภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้ 1.หุ้นที่ใช้เวลาสร้างฐานนานจนทำให้ราคานิ่งไม่ผันผวนตามภาวะตลาด 2.หุ้นที่เกิดสัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น Pivot point หรือส่งสัญญาณฟนตัวขึ้นจากแนวรับพร้อมกับวอลุ่มเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสาคัญ 3.หุ้นส่งสัญญาณแข็งแกร่งด้านราคา ในกรณีตลาดดีดกลับหุ้นกลุ่มนี้จะปรับตัวขึ้นได้ดี 4.ระมัดระวังหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงมีค่า RSI > 70 หรือมีความขัดแย้งด้านราคากับเครื่องมือทางเทคนิค
Technical screen bull signal: SCC , VGI, CPALL (review port)
Technical screen bear signal: ADVANC,SIRI, SPALI
Port หุ้นคงเหลือ: SCC, DDD, VGI, BEAUTY, CPALL, GFPT
แนวโน้มระยะสั้นมอง SET Index แนวรับ 1,625 แนวต้าน 1,645 / SET100 รับ 2380 ต้าน 2410
BSET100 รับ 10.35 ต้าน 10.45 / BMSCITH รับ 12.20 ต้าน 12.32
ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค
[email protected] +662-618-1334
Track with Technical
SCC
แนะนำ: ถือต่อ
เป้าหมาย: 460.00
Stop loss < 432.00
เหตุผล: ราคาปรับลงอย่างไรก็ตามหุ้นเทรดเหนือเส้นกลาง Bollinger band ขณะที่เครื่องมือวัดโมเมนตัม MACD > 0 บ่งชี้สัญญาณพักตัวบนทิศทางขาขึ้น
VGI
แนะนำ:ถือต่อ
เป้าหมาย:8.40
Stop loss <7.60
เหตุผล: โครงสร้างราคาบ่งชี้รูปแบบพักตัวบนเส้นค่าเฉลี่ย 200-days EMA หนุนด้วยค่า DI+ บ่งชี้โครงสร้างขาขึ้นระยะกลาง
CPALL
แนะนำ:ซื้อ
เป้าหมาย:73.00
Stop loss <67.00
เหตุผล: หุ้นปิดต่ำอย่างไรก็ตามราคายังคงปิดเหนือเส้นแนวโน้ม(เส้นประ) ส่งผลให้โครงสร้างราคามีโอกาสฟนตัวกลับขึ้นไปได้อีกครั้ง สัญญาณพักตัวส่งผลให้ค่า RSI ลดดีกรีความร้อนแรงลง