- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 13 November 2018 15:42
- Hits: 4683
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
Market summary
จับตาซาอุ และเศรษฐกิจโลกส่งผลต่อทิศทางราคาน้ำมัน เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หนึ่งในปัจจัยสำคัญ (Event play) ที่ส่งผลกดดันตลาดหุ้นและราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะน้ำมัน นั่นคือการประชุม World bank และ IMF ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยที่ประชุมได้ปรับประมาณการ GDP ปีหน้าเหลือ 3.7% (ปรับเป้า GDP สหรัฐและจีนลงเหลือ 2.5% และ 6.2% ตามลำดับ) และหากอิงกลับ PMI ภาคการผลิตของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อย่างยุโรป, ญี่ปุ่น อินเดีย และจีนพบว่าเริ่มเข้าสู่การชะลอตัวทั้งสิ้น (ปรับตัวลดลง MoM 1- 4 เดือนติดต่อกัน) ในขณะที่ OPEC ปรับประมาณการ Demand น้ำมันโลกปีหน้าลดลงเหลือเติบโต 1.36 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม มีข่าวซาอุดิอาระเบีย เตรียมพลิกกลับมาลดกำลังการผลิตน้ำมันอีกครั้ง เราแนะนักลงทุนจับตาประเด็นดังกล่าว เนื่องจากเมื่อเดือนก่อน ซาอุเพิ่งแถลงเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อ Offset การคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านโดยกลุ่มน้ำมันคิดเป็นสัดส่วนสูงกว่า 23% ของตลาด แนะนักลงทุนจับตาโอกาสของการปรับประมาณการกำไร (EPS) ของ SET ในปีหน้า โดยทุกๆ 1 เหรียญของสมมติฐานน้ำมันดิบ ส่งผลต่อกำไรประมาณ 5.0 พันล้านบาท
Investment Theme: สัปดาห์นี้ประเมินกรอบ SET 1,650-1,685 จุด คงคำแนะนำถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% พร้อมเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มอสังหา, โรงกลั่น , TV-Digital และทยอยสะสมหุ้น Defensive และ Downside จำกัดนำโดย EGCO, GPSC
Investment theme
เมื่อวานที่ผ่านมาตลาดหุ้นเผชิญกับแรงขาย โดยหุ้นกลุ่มพลังงานมีแรงขายเด่นใน KBANK, BBL กลุ่มอสังหานำโดย ORI และ LPN หลังประชุมนักวิเคราะห์ผู้บริหารมีมุมมองไม่สดใสต่อกลุ่ม กลุ่มโรงกลั่นนำโดย TOP, IRPC, SPRC ในขณะที่หุ้นอย่าง PTG, BEAUTY, RS เผชิญกับแรงขายสูง ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,654.8 จุด (-13.6 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 2.8 หมื่นลบ. ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 3.4 หมื่นลบ.
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 ที่ 917 ล้านบาท และกลับมาเปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิ 10,997 สัญญา
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา กลุ่มซีพี เข้ายื่นซองประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน / ธปท.เผยสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 3 ขยายตัวสูง 6.3% สูงขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 5.4% / กลุ่ม BSR (BTS 60%, STEC 20%, RATCH 20%) และ กลุ่ม CP จับมือ CK, BEM (รวม15%), ITD 5% เข้าร่วมประมูลรถไฟ 3 สนามบิน / Dollar แข็งค่าสุดในรอบ 20 เดือนที่ 97.6
Stock pick : -
Trading idea - เลี่ยงการลงทุนกลุ่มโรงกลั่น และกลุ่มอสังหา CKP งบออกมาเด่น อย่างไรก็ตามราคาหุ้นปรับขึ้นมาสะท้อนไปบางส่วนแล้ว แนะทยอยขายทำกำไร และ Switch เข้าโรงไฟฟ้า IPP อย่าง EGCO, GULF/ ทยอยสะสม VGI (ราคาเป้าหมาย 10.20 บาท)
Technical View
แนวโน้มกลับเป็นขาลง หากปิด Gap ที่ 1645 แล้วไม่เด้ง มองแนวรับถัดไป 1620: ดัชนีปรับตัวลงจากแรงขายของหุ้นกลุ่มธนาคาร พลังงานและค้าปลีก ทำให้ดัชนีปรับตัวลงหลุดแนวรับ 1665 ซึ่งทำให้เทรนของดัชนีเปลี่ยนจาก "Sideway" เป็น "ขาลง" อีกครั้ง ประกอบกับ Modified Stochastic ที่ปรับตัวลงจากเขต Overbought จึงมองว่ามีโอกาสปรับตัวลงปิด Gap ที่ 1645 ซึ่งหากบริเวณนี้ไม่มีการ Rebound มองว่า Downside จะเปิดมากขึ้น มองแนวรับถัดไปที่ 1620 แนะนำ รอดูแนวโน้มที่แนวรับจนกว่าจะหยุดลง หรือหาก Rebound ระหว่างวันมองเป็นโอกาสขายทำกำไรเพื่อลดพอร์ตการลงทุน
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: หลุด 1665 ต้อง Lock Profit หรือ Stop Loss เนื่องจากแนวโน้มจะกลับเป็นขาลง หรือจังหวะ Rebound ระหว่างวันมองเป็นโอกาสขายเพื่อลดพอร์ต 2) ไม่มีหุ้น: แนะนำรอดูแนวโน้มที่แนวรับถัดๆไปจนกว่าดัชนีจะเริ่มหยุดลงหรือ Rebound อย่างมีนัยยะ
แนวรับ : 1620, 1645 แนวต้าน : 1660, 1665
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ: Trump พบ Abe สัปดาห์หน้า
ปัจจัยในประเทศ: 14 พ.ย. ประชุมกนง. / 15 พ.ย.สนช.พิจารณาภาษีที่ดิน
หุ้นเทคนิค:
GULF (B 77.00-78.00, Tp 80.00//83.00, Cut 76.00)
BWG (B 1.23-1.25, Tp 1.30//1.36, Cut 1.20)
ข่าวเด่นเช้านี้
DRT โชว์ยอดขายโต 7.42% เล็งบุกตลาดเพื่อนบ้าน (แนวหน้า)
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร หรือ DRT เปิดเผยผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/61 (กรกฎาคม-กันยายน 2561) บริษัท มีรายได้รวม 1,014.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 944.57 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตที่ดีกว่าแผนงาน โดยมีกำไรสุทธิ 79.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.82% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 76.71 ล้านบาท
ความเห็น : กำไร 3Q18 ยังเติบโตได้ แม้ไม่เด่น แนวโน้มปี 2561 เราประเมิน ยอดขาย 4,347 ล้านบาท เติบโต 4% และ มีกำไรสุทธิ 425 ล้านบาท โต 3% DRT มีกระแสเงินสูง มีการชำระหนี้อย่างต่อเนื่อง มีสัดส่วนหนี้ต่อทุนต่ำเพียง 0.28 เท่า ทำให้ DRT ยังมีการจ่ายปันผลอัตราที่สูงได้ต่อเนื่องมากกว่า 75% ของกำไร ราคาหุ้นปัจจุบันมีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ดี 6.5% เราคงแนะนำ TRADING BUY ช่วงอ่อนตัว รับปันผล เราประเมินราคาเป้าหมาย ปี 2562 เท่ากับ 6.3 บาท เทคนิคแกว่งในกรอบแคบ 5.4-5.7 บาท
VGI สยายปีกธุรกิจสื่อดีมานด์หนุนเป้ารายได้ (ทันหุ้น)
VGI แบไต๋ดีมานด์หนุนความต้องการใช้สื่อนอกบ้านพุ่ง อัพเป้ารายได้งวดปี 2561/62 ชน 5,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ที่ 4,400-4,600 ล้านบาท ด้านโบรกส่องอนาคตมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้อีก เคาะราคาเป้าหมาย 10 บาท
ความเห็น : 3Q61/62 (ต.ค.-ธ.ค.) ถือเป็นไตรมาสที่เข้าสู่ฤดูกาลใช้สื่อประชาสัมพันธ์เต็มรูปแบบ อีกทั้งบริษัทย่อย (Trans Ad.) และ บริษัทร่วม (Kerry Express) จะส่งกำไรเข้ามาเต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก ดังนั้น คาดกำไรจะขยายตัวได้ทั้ง QoQ และ YoY ยังคงแนะนำสะสม ราคาพื้นฐาน 10.2 บาทต่อหุ้น เทคนิคแกว่งขึ้น ต้าน 8.3 รับ 7.8 บาท
PTT มาตามนัด 9 เดือน กำไรทะลุแสนล้านแล้ว (ข่าวหุ้น)
"ปตท." มาตามนัด 9 เดือนฟันกำไรสุทธิทะลุ 1 แสนล้านบาท บุ๊กค่าใช้จ่ายภาษีปรับโครงสร้างธุรกิจน้ำมันแล้ว 6 พันล้านบาท โชว์งบไตรมาส 3 มีกำไรสุทธิ 3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.8% แรงหนุนธุรกิจสำรวจและผลิต-ธุรกิจก๊าซเติบโตเด่น ฟาก GPSC ยื่นอุทธรณ์ซื้อ GLOW ต่อกกพ.แล้ววานนี้
ความเห็น : : ผลประกอบการ 3Q61 เป็นไปตามคาด และยังคงแข็งแกร่งแม้มีรายการพิเศษจากภาษีกำไรโอนสินทรัพย์ให้ PTTOR แนวโน้มผลประกอบการปกติ 4Q61 คาดปรับขึ้น QoQ คงประมาณการและ แนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 58 บาท เทคนิคแกว่ง sideway ในกรอบ 48-52 บาท
IVL ซื้อกิจการเพื่อโตเก็บเกี่ยวเงินลงทุนดันผลงานพุ่งตามนัด (ทันหุ้น)
IVL มั่นใจ EBITDA ปี 2562 แตะ 1.75 พันล้านดอลลาร์ เล็งรับรู้กำไรจากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการในปี 2561 อัดฉีดงบลงทุนปี 2562 กว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ ใช้ในโครงการต่อเนื่อง เจรจาซื้อกิจการเพิ่ม คงเป้ารายได้ปีนี้ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ จากกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 13.3 ล้านตัน
ความเห็น : เป้าหมาย EBITDA ตามข่าวสูงกว่าที่เราประเมินไว้ที่ 1.5 พันล้านเหรียญประมาณ 14% จากปริมาณขายส่วนเพิ่มหลังซื้อกิจการเพิ่มเติม ขณะที่อาจมี Upside จาก margin ที่เราประเมิน เราชอบ IVL ในฐานะที่เป็นหุ้น Growth แนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 72 บาท เทคนิคแกว่งในกรอบ 53-55 บาท
PRM บุ๊ก 'Big Sea' ดันกำไร Q3 โต 39% ย้ำรายได้ปีนี้ตามนัด (ทันหุ้น)
PRM อวดผลงานไตรมาส 3/2561 ทำกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 39.4% ที่ 229.6 ล้านบาท เติบโตแบบก้าวกระโดด จากความสำเร็จปรับพอร์ตกองเรือ หนุนศักยภาพการดำเนินงานแถมรับรู้รายได้จาก Big Sea มั่นใจทั้งปีเติบโตได้ตามเป้าหมาย
ความเห็น : ภาพรวมกำไร 3Q61 ที่ 218 ลบ. +10% QoQ และ +54% YoY ยังคงเป็นทิศทางที่ออกจากจุดต่ำสุดใน 4Q60 โดยมีแรงผลักดันจาก 1) รายได้จากเรือของ Big Sea เริ่มบันทึกเข้ามาตั้งแต่ ก.ค. 2) มีกำไรพิเศษจากการขายเรือ FSU เก่า 3) เรือ Alframax ส่งขาดทุนลดลงต่อเนื่องเหลือเพียง -6 ลบ. จาก -63 ลบ. ใน 3Q60 ส่วนแนวโน้ม 4Q61 คาดกำไรจะเดินหน้าขยายตัวได้ทั้ง QoQ และ YoY ขณะที่เทคนิคระยะสั้นปรับฐาน รอย่อ แนวรับ 7.0 ต้าน 8.0 บาท
Go with the Flow : กระแสเงินทุนต่างชาติ / ธุรกรรม Short-Selling / NVDR
กระแสเงินทุนต่างชาติ - กระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออก ยกเว้นประเทศไต้หวันที่ไหลเข้า ทางด้าน TFEX ยัง Short สุทธิใน SET50 Futures สูงถึง 10,997 สัญญา และ shrot สุทธิใน Single Stock Futures ที่ 3,661 สัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ ขายต่อ จำนวน 916 ล้านบาท
ธุรกรรม Short Selling - ปริมาณ Short Selling ไม่แตกต่างจากวันก่อนหน้า อยู่ที่ 801.16 ล้านบาท นำโดยหุ้น BEAUTY, KBANK, AOT, TKN และ PTTEP ตามลำดับ
การซื้อขาย NVDR - ปริมาณการซื้อขาย NVDR ไม่หนาแน่นมาก ฝั่งซื้อนำโดย SCC, PTTGC, BEM, PTT และ KKP ตามลำดับ สำหรับฝั่งขาย 2 อันดับแรก นำโดยกลุ่มธนาคาร ได้แก่ KBANK และ BBL ลำดับที่ 3 ได้แก่ ADVANC อันดับ 4 และ 5 เป็นกลุ่มพลังงาน ได้แก่ SPRC และ TOP
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000