---------------------------------------------------------------------------------

•    วานนี้ SET Index ปิดที่ 1,681.73 จุด +6.40จุด (+0.38%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด 4.9 หมื่น ลบ.โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ในมูลค่า 1.4 พัน ลบ. สำหรับวันนี้คาด SET Index Sideway ในกรอบ 1,670-1,700 จุด โดยคาดมีแรงกดดันจากสัญญาน้ำมันดิบที่ร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 9 และจับตาผลประกอบการช่วง 3Q61 หลายบริษัทในวันนี้ 

Market Factors

•    (-) แถลงการณ์หลังจบการประชุม Fed ครั้งล่าสุด ยังคงมุมมอง Hawkish หลังตัวเลข ศก. สหรัฐฯ ทั้งอัตราเงินเฟ้อ และการจ้างงานออกมาดีขึ้นต่อเนื่อง หนุนให้ Fed สามารถเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้ตามแผน

•    (-) ราคาน้ำมันดิบปรับลงต่อ หลังตลาดกลับมากังวลต่อแนวโน้มกำลังการผลิตน้ำมันดิบของหลายประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างเร่งตัว ขณะที่ความต้องการใช้พลังงานโลกมีทิศทางอ่อนตัวลงจากผลของสงครามการค้าที่เริ่มส่งผ่านมายังภาค ศก. จริง

•    (Alert) ติดตาม ธปท. เตรียมแถลงออกมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หลังผ่านช่วงรับฟังความเห็นจากหลายฝ่ายแล้ว โดยเบื้องต้นจะเป็นการปรับเงินเงินดาวน์ขั้นต่ำ สำหรับการกู้หลังที่ 2 ขึ้นไป หรือที่อยู่อาศัยมูลค่ามากกว่า 10 ลบ. เป็นอย่างน้อย 20%

•    (+) วานนี้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติให้เรียกเก็บค่า Ft สำหรับงวดม.ค.-เม.ย.62 เพิ่มขึ้นอีก 4.30 สตางค์ต่อหน่วย เป็นการปรับเพิ่มครั้งแรกในรอบ 16 เดือน ส่วนแนวโน้มเดือนพ.ค.-ส.ค.62 มีโอกาสปรับสูงขึ้นตามต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติ

•    (-) วานนี้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติปรับลดราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ถูกกว่าราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลปกติจากเดิมอยู่ที่ 3 บาทเพิ่มเป็น 5 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.61- 28 ก.พ.62

•    สัปดาห์หน้าคาด SET Index ผันผวนในกรอบ โดยประเมินแนวรับ 1,645 จุด (Fwd PE 15.2x) และแนวต้าน 1,700 จุด (Fwd PE 15.7x) พร้อมจับตาหุ้นเข้าสู่ช่วง Earning Season ในตลอดทั้งสัปดาห์ โดยในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยคาด SET Index จะปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจาก 1) ช่วง High Season ของธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจอุปโภคบริโภคที่จะมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น และ   2) การเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ในเดือน ก.พ.จะเป็นตัวกระตุ้นหลายภาคธุรกิจเริ่มฟื้นตัวมากขึ้น ดังนั้นในสภาวะที่ SET Index มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง เราได้คัดเลือกหุ้น 2 กลุ่มซึ่งมาจากการใช้ Blooomberg Screening ดังนี้ 1) Earning Growth (หุ้นกลุ่มที่ Consensus คาดกำไรช่วง 3Q61/หรือประกาศแล้ว โต YoY, กำไรช่วง 4Q61 และปี 61-62 โต YoY) ได้แก่ STEC (S24.3,R25.5), BDMS (S24.5,25.5) 2) Q3 Bottom (หุ้นกลุ่มที่คาดกำไรช่วง 3Q61/หรือประกาศแล้ว หดตัว QoQ ต่อเนื่องจากช่วง 1Q61-2Q61 และช่วง 4Q61 คาดกำไรฟื้นตัว QoQ) ได้แก่ BLA (S29.75,R33), AH (S23.6,R25) 

*** (S,R) = (Support, Resistance) ใน 1 สัปดาห์ ***

•    TWPC (Under Review): ช่วง 3Q61 กำไรสุทธิลดลงเหลือ 8.4 ล้านบาท จากช่วง 3Q60 ที่ 108.7 ล้านบาท จากผลผลิตหัวมันสำปะหลังในช่วง 3Q61 น้อยกว่าช่วง 3Q60 ส่งผลให้   ผลประหยัดต่อขนาดที่ลดลงทําให้ต้นทุน overhead ในการผลิตต่อหน่วยสูงขึ้นและราคาวัตถุดิบ (หัวมันสำปะหลัง) เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ปัจจุบันเราอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการกำไรทั้งปี 60 และ 61 

•    SMPC (BUY:[email protected]): ช่วง 3Q61 ประกาศกำไรสุทธิ 172.4 ลบ. เติบโต 9.7%YoY และ 5.2%QoQ ตามลำดับ โดยแม้ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นกดดันมาร์จิ้น แต่ถูกชดเชยด้วยค่าขายเศษซากที่เพิ่มขึ้น บวกกับค่าใช้จ่ายที่ลดลงทั้งค่าส่งเสริมการขายและค่าขนส่งที่ลดลง ส่วนทั้งปี 61 คงคาดกำไรโต 13.9%YoY และโตต่อ 6.1%YoY ในปี 62  + มี Upside 15.4% จากมูลค่าพื้นฐานปี 62 ที่ 15.7 บาทจึงแนะนำ ”ซื้อ” 

•    IVL (BUY:[email protected]) : ช่วง 3Q61 กำไรโต  182%YoY หลังธุรกิจ PET มี Core EBITDA โต 113%YoY ส่วนธุรกิจเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์มี Core EBITDA โต 9%YoY  โดยมีปัจจัยบวกจากกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการ ส่วนธุรกิจ Feedstock มี Core EBITDA โต 15%YoY จากปริมาณผลิตที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน อีกทั้งช่วง 4Q61 ยังมีปัจจัยบวกจากการปิดดีลซื้อกิจการอีก 3 บริษัท คือ Medco, Sorepla, Schoeller จึงคาดหนุนปี 61 กำไรโต 60%YoY และโตต่อ 10.8% ในปี 62 + Upside 29% แนะนำ “ซื้อ”

 8-Nov-18    Change (pts.)    7-Nov-18

SET Index    1,681.73    6.40    1,675.33

SET50 Index    1,112.57    4.45    1,108.12

SET100 Index    2,464.12    10.30    2,453.82

High    1,688.90    Gainers                           762 

Low    1,681.25    Unchanged    500

Value (Bt m)    49,166.72    Losers                           561 

Volume (*000)    11,756,205          

 

SET Data    2018F    2019F    Long Term

Fwd PER (x)    15.5    14.2    14.2

EPS Growth (%)    13.9    9.3    7.3

EV/EBITDA (x)    10.5    9.7    9.3

FWD PBV (x)    1.9    1.8    1.7

Dividend Yield (%)    3.1    3.4    3.6

ROE    13.2    12.4    12.4

 

Unit : M Bt    8-Nov-18    WTD    MTD    YTD

Institution    (3,485.41)    442.34    7,650.86    171,567.17

Proprietary    (12.09)    1,683.99    2,727.34    (5,984.09)

Foreign     1,459.18    3,981.21    1,791.78    (271,381.24)

Individual    (4,932.51)    (6,107.53)    (12,169.98)    105,798.16

 

AECS ( Fundamental and Strategic Team )