- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 08 November 2018 16:19
- Hits: 4802
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
Divided US Govt. ดีต่อตลาดเกิดใหม่
เมื่อวาน หุ้นไทยดีดกลับ หลังปรับลงไปในระหว่างเทรด โดยได้ปัจจัยหนุนจาก ผลเลือกตั้งสหรัฐฯ ออกมาตามที่เราและตลาดคาด ส่งผลบวกต่อ แนวโน้มตลาดหุ้นเกิดใหม่ และ แรงซื้อคืนสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก เราคงเน้น กลยุทธ์ เข้าลงทุนหุ้นเป็นรายตัว ต่อไป...
1) เลือกจากผลการดำเนินงานเป็นหลัก ซึ่งอิงได้จาก งบ บจ. กลุ่มเชื่อมโยงการบริโภคในประเทศที่หลาย ตัวกำไรดีเกินคาด เชื่อว่า จะสะท้อนไปที่การเข้าเก็งกำไร หุ้นในอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยง เช่น CPN BJC CPALL ROBINS
2) หุ้น Commodity โดยเฉพาะ กลุ่มพลังงาน จากแรงซื้อคืนสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก อิงจากผลเลือกตั้งสหรัฐฯหนุน หุ้น Late cycle และ USD อ่อนค่า BANPU PTT SGP PTTEP (คาดราคาน้ำมันดิบจะรีบาวด์ เร็วๆนี้)
3) หุ้น Events play เช่น GULF ลุ้นติด MSCI / กลุ่มนิคม WHA AMATA ลุ้นตัวเลขส่งเสริมการลงทุนประจำไตรมาส 3 (BOI) ฟืน และเร่งตัวแรงใน 4Q18 / กลุ่ม โรงแรมท่องเที่ยว สินค้าเชื่อมโยงทัวร์จีน AOT CENTEL / ASAP BEAUTY DDD รับมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว / พ่วงมาตรการ Grand sale นักท่องเที่ยวโชว์แค่ พาสปอร์ต แลกลดราคาสินค้าได้ทันที
ระยะสัปดาห์ คาดหุ้นไทย จะมีปัจจัยหนุน ให้ Sideways up ได้ ตาม 1) กำไร บจ.ไทย 3Q ที่มีแนวโน้มการปรับลงจำกัด สะท้อน Downside ตลาดขาลง จะมีจำกัดเช่นกัน 2) คาดผลเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ จะหนุนตลาดหุ้นเกิดใหม่รีบาวด์ 3) แรงขายฝรั่งคาดว่าจะเริ่มลดลงตลอดเดือน พย.-ธค. ตามธรรมชาติของฤดูกาลส่งท้ายปี
What to watch:
(+) ผลเลือกตั้งกลางเทอม สหรัฐฯ พรรคเดโมแครต กลับมาชนะ ครองเสียง สส. ขณะที่ พรรครีพัลบริกัน ยังคงครองเสียง สว. MS คาด...
1) นโยบายต่างๆที่ รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมา เช่น มาตรการการค้าระหว่างประเทศ, การลดภาษีในประเทศ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง, แต่จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการผ่าน ร่างงบประมาณฯ อาจเกิด Government shutdown (หนุนดอลล์อ่อน ซึ่ง ร่างงบฯ จะออกช่วง ครึ่งหลังเดือน พย.)
2) คาด US bond yield จะลง หุ้นเกิดใหม่จะขึ้น (แต่ต้องรอดูท่าทีหัวหน้าพรรคเดโมแครต ต่อนโยบายโครงสร้างพื้นฐานอีกที) เพราะตลาดพันธบัตร เล่นนำล่วงหน้าไปก่อนว่า รีพับลิกันจะชนะขาด (ตลาดเลยขายพันธบัตร ด้วยเดาว่าจะมี Supply พันธบัตรออกมาในตลาดเพิ่มขึ้นอนาคต จากการกู้เงินมาโปะงบประมาณ) ซึ่งจะนำไปสู่การออกพันธบัตรเพิ่มเติม เพื่ออุดหนุน การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และ อุดหนุนนโยบายลดภาษีฯ แต่เมื่อผลออกมาแบบนี้ เชื่อว่าจะแรงขายพันธบัตรจะลดลง และ US Bond yield จะลง บวกกับ USD จะอ่อนค่าในระยะยาว ซึ่งช่วยลดแรงกดดันตลาดหุ้นเกิดใหม่ และตลาดหุ้นสหรัฐฯ ระยะสั้น (เงินวิ่งเข้าสินทรัพย์เสี่ยง)
(+) วันนี้ผลการประชุมเฟด คาดคงดอกเบี้ย 2-2.25% (ไปขึ้นอีกทีเดือน ธค.) แต่คาดจะเริ่มส่งสัญญาณผ่อนคลาย จากคาดเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มเสี่ยงชะลอตัวตั้งแต่ไตรมาส 1/19 จากผลกระทบค่าแรง ต้นทุนการผลิต พุ่ง
หุ้นแนะนำ
SEAFCO PYLON จับตางานเร่งสร้างอุโมงค์ และทางข้ามแยก สำคัญ กว่า 50 จุด แก้ปัญหารถติด สรุปภายใน 1 เดือน เดินหน้าสร้างทันทีจากงบปี 62 / อุโมงค์ สะพาน ข้ามแยก เป็นงานที่สร้างได้เร็ว และ หนุนงานเสาเข็มเจาะ โดยตรง
AMATA WHA ซื้อดักยอดขอส่งเสริมการลงทุนไตรมาส 3 (คาดว่าจะออกช่วงกลางเดือน พย.นี้) ฟืนตัวแรงกว่า 2Q18 และคาดยอดขาย/เช่า พื้นที่นิคม ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ลุ้นโตแรง 4Q18 หลังรัฐบาลเคาะวันเลือกตั้ง
VGI กำไรดีกว่าเราและตลาดคาด (ดูรายงานวันนี้)
รายงานวันนี้
สรุปผลประกอบการ
วันนี้บริษัทที่ BLS Research ทำการ cover หุ้นอยู่ รายงานผลประกอบการ 7 บริษัท
กำไรดีกว่าคาด 3 บริษัท: VGI PTTGC PSL
กำไรตามคาด 3 บริษัท: ITEL BH DDD
กำไรน้อยกว่าคาด 1 บริษัท: BCPG
โดยมี BCPG บริษัทเดียวที่มีการปรับกำไรลง ที่เหลือคงประมาณการ
นับแต่ผลประกอบการ 3Q18 ประกาศ (ประกาศแล้วประมาณ 30% ของจำนวนบริษัทที่เรา cover) มีจำนวนบริษัทที่รายงานกำไรดีกว่าคาด 28% ตามคาด 38% แย่กว่าคาด 34%
เทียบกับสถิติ 2Q18 ที่ กำไรดีกว่าคาด 33% ตามคาด 37% แย่กว่าคาด 30%
KCE Electronics: Stay aside for now
เรายังไม่เห็นปัจจัยบวกระยะสั้นที่จะหนุนราคาหุ้นได้ เนื่องจากความเสี่ยงจาก WLTP ที่จะกระทบการสั่งซื้อสินค้า, โอกาสที่ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าเมื่อเทียบกับ US$ หลังจากผลการเลือกตั้ง Midterm ของ US ออกมาวานนี้ และกำไรที่คาดจะอ่อนตัวต่อเนื่องในระยะสั้น เรามีการปรับราคาเปาหมายไป ณ สิ้นปี 2019 ที่ 30 บาทอิง PER ที่ 15 เท่า (ค่าเฉลี่ยระยะยาว) โดยมีการ De-rate ลงจาก 23 เท่า (+1SD) เนื่องจากความเสี่ยง Supply chain และค่าเงิน เราปรับคำแนะนำลงจาก ซื้อเก็งกำไร เป็น ขาย
หุ้นมีข่าว
(+) รัฐจัดหนักกระตุ้นท่องเที่ยวโค้งสุดท้าย ถกบิ๊กค้าปลีก-ห้างยักษ์อัดแคมเปญใหญ่ "แกรนด์เซล พาสปอร์ตพริวิเลจ" 2 เดือน 15 พ.ย.61- 15 ม.ค.62 แถลงข่าวเปิดตัว 12 พ.ย.นี้ โชว์พาสปอร์ตแลก สิทธิประโยชน์ชอปปิง ลดแลกแจกแถม ขณะ"ททท."พบ ซีทีเอส รัฐวิสาหกิจท่องเที่ยวใหญ่สุดจีน ช่วยดึงนักท่องเที่ยว อีกแรง มองมาตรการเว้นวีซ่า ดันตลาดจีน-อินเดีย ด้าน แอร์ไลน์ -โรงแรม แจงเว้นวีซ่า ส่งผลจิตวิทยากระตุ้นตลาด (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)
(+) GPSC GULF BGRIM ชงกพช.เคาะแผน'พีดีพี'ธ.ค. เลื่อนโรงไฟฟาถ่านหินไว้หลังปี70 กระทรวงพลังาน เร่งเครื่องถกแผนพีดีพีฉบับใหม่ หวังชง "กพช." เคาะธันวาคมนี้ เพื่อเปิดประชาพิจารณ์และประกาศใช้ได้ภายในต้นปี 2562 แย้มโรงไฟฟาก๊าซฯ จะมาเป็นลำดับแรกให้เป็นโรงไฟฟาหลักเพื่อความมั่นคง ผสมกับพลังงานทดแทน ขณะที่โรงไฟฟาถ่านหินใส่ไว้หลังปี 2570 เพื่อรอผลศึกษา SEA ว่าจะเกิดหรือไม่ (ที่มา ผู้จัดการ)
(+) SEAFCO PYLON สนข.ปัดฝุนแผนแก้รถติด เช็คเส้นทางสร้างอุโมงค์-สะพานข้ามแยกนายสราวุธ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เปิดเผยว่า จากกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ศึกษาและสำรวจเส้นทางในกรุงเทพมหานครที่มีปัญหาการจราจรติดขัดและวิกฤติ เพื่อดำเนินการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดหรือสะพานลอยข้ามแยกเพื่อแก้ปัญหาการจราจรอย่างมีประสิทธิภาพให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือนนั้นสนข.จะนำผลการศึกษาที่เคยศึกษาไว้อยู่แล้วมาทบทวน ซึ่งการทำทางลอดอุโมงค์และสะพานข้ามแยกตรงบริเวณทางแยกในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เบื้องต้นมีทางแยกประมาณ 500 แห่ง ในจำนวนนี้มีจุดวิกฤติที่ยังไม่ทำอุโมงค์ทางลอดและสะพานข้ามแยก 50 กว่าแห่ง (ที่มา แนวหน้า)
(+) MBK ได้ฤกษ์เปิด "ไอคอนสยาม" วันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 นี้ ปลื้มได้รับการตอบรับแน่น มีผู้เช่าเต็มพื้นที่ 100% หนุนกำไรเติบโต (ที่มา ทันหุ้น)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
Trend Forecasting
SET Index ปิด 1675.33(+0.36%) มูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาท
Weak dollar help the recovery in EM markets
ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงหนุนตลาดหุ้นเกิดใหม่ฟนตัวขึ้นได้หรือไม่....
มุมมองตลาด: นับจากต้นปี 2561 ตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัวลดลงเฉลี่ย 10% ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 5% อย่างไรก็ตามหากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง สวนใหญ่ตลาดหุ้นเอเชียจะปรับตัวขึ้น ปัจจุบันดัชนีดอลลาร์ทดสอบจุดต้านสำคัญและเริ่มอ่อนค่าลง สอดคล้องกับเครื่องมือวัดโมเมนตัม MACD บ่งชี้สัญญาณเตือนการปรับฐาน อาจส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มฟืนตัวกลับขึ้นไปได้ นอกจากนี้ผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ พรรค Republican ได้เสียงข้างมากในวุฒิสภา พรรค Democrat ได้คะแนนเสียงในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่เนื่องจากนโยบายแข็งกร้าวของประธานาธิบดีทรัมปจะลดดีกรีความร้อนแรงและดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลง
แนวโน้มตลาด: เราประเมินดัชนีมีโอกาสฟืนตัวกลับขึ้นไปที่แนวต้าน 1700 จุด / แนวรับ 1660 จุด
ตลาดฟื้นตัวเราจะเลือกซื้อหุ้นอะไร? 1.หุ้นที่เกิดสัญญาณบวกเกิดขึ้นคล้ายตลาด 2.หุ้นทีมีสภาพรองรับกับกระแสเงินลงทุน 3.โครงสร้างราคาถึงจุดกลับตัวจากราคาลงแรง 4.แนะใช้เครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้หาจุดกลับตัวของราคา เช่น Moving average, MACD Stocahstic และ Volume
Technical screen bull signal: SCC,TISCO,DDD
Technical screen bear signal: KCE,PTG,BH
Port หุ้นคงเหลือ: KKP,PTTEP, IVL ,AOT, CENTEL, BEAUTY, SCC, SAWAD, BWG
แนวโน้มระยะสั้นมอง SET Index แนวรับ 1,665 แนวต้าน 1,690 / SET100 รับ 2440 ต้าน 2475 BSET100 รับ 10.70 ต้าน 10.90 / BMSCITH รับ 12.40 ต้าน 12.60
ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค
[email protected] +662-618-1334
Track with Technical
SCC
แนะนำ:ซื้อ
เป้าหมาย: 460.00
Stop loss < 424.00
เหตุผล: หุ้นกลับขึ้นมายืนปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลางได้อย่างแข็งแกร่ง หนุนด้วยเครื่องมือวัดโมเมนตัม MACD บ่งชี้สัญญาณกลับตัว
TISCO
แนะนำ:ซื้อ
เป้าหมาย:85.00-88.00
Stop loss <79.00
เหตุผล: หุ้นขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ 81-82 บ.กรณีทะลุผ่านจะส่งผลให้โครงสร้างระยะกลาง เปลี่ยนเป็นขาขึ้น ขณะที่ MACD บ่งชี้รูปแบบกลับตัว
DDD
แนะนำ:ซื้อ
เป้าหมาย:38-42
Stop loss <29
เหตุผล: ราคาหุ้นส่งสัญญาณฟืนตัวภายหลังจากการปรับลงแรง ปัจจุบันฐานราคายกสูงขึ้น Higher low หนุนด้วยเครื่องมือวัดโมเมนตัม Stochastic และ RSI