- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 22 October 2018 20:05
- Hits: 4539
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET ยังคงเผชิญกับแรงขายตามภูมิภาค โดยหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวมีแรงขายเด่น นำโดย AOT, CPALL และกลุ่มธนาคารอย่าง KBANK, BBL, KTB ในขณะที่หุ้นขนาดกลางยังเผชิญกับแรงขายเช่น DDD, JMART และ GPSC หลังมีข่าวบริษัทเตรียมยื่นอุทธรณ์กรณี GLOW และ SONIC เข้าตลาดเป็นวันแรก ราคา 1.84 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 826 ล้านบาท ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,667.9 จุด (-15.1 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6.1 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 4.6 หมื่นลบ.
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 13 ติดต่อกันที่ 6,182 ล้านบาท (และขายรวมกัน 13 วันทำการมากกว่า 5.0 หมื่นล้านบาท) และเปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิ 10,468 สัญญา
Investment theme
กลุ่มธนาคารรายงานผลประกอบการ Q3 ใกล้กับที่ตลาดคาด / ปัจจัยต่างประเทศยังเป็นลบ :กลุ่มธนาคาร (9 บริษัท) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 กำไรสุทธิที่ 5.4หมื่นล้านบาท (+15.9%YoY, +3%QoQ) แต่หากไม่นับ TMB จากการบันทึกกำไรพิเศษจากการขาย Asset management กว่า1.2 หมื่นล้านบาท พบว่าภาพรวมกำไรใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดไว้ (Q2 กำไรสูงกว่าที่คาดถึง 15%) โดย KBANK และ KTB ออกมาดีกว่าคาด , SCB, BBL, KKP ใกล้เคียงกับที่คาด ในขณะที่ Core profit ของ TMB, TISCO, BAY ต่ำกว่าคาด ทำให้โอกาสที่กลุ่มธนาคารเป็นแรงผลักดัน SET เหมือนอย่างช่วง Q2 ต่ำลง ในขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังคงกดดันการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดประเทศซาอุดิอาระเบียได้แถลงถึงการเสียชีวิตของ Khashoggi เป็นเหตุให้ผู้นำหลายประเทศไม่พอใจ และล่าสุดยกเลิกการเข้าร่วมประชุมใหญ่ FII แล้ว อีกทั้ง Trump ได้เตรียมนำสหรัฐออกจากสัญญานิวเคลียร์ (INF) ทั้ง 2 ถือเป็นปัจจัยกดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง
Investment Theme: สัปดาห์นี้เราคาด SET อาจเกิด Technical rebound ประเมินแนวต้าน 1,685+/- อย่างไรก็ตามเราแนะนักลงทุนให้เพิ่มความระมัดระวัง ถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% โดยประเมิน SET ปรับฐานในกรอบ 1,670-1,710 จุด จนกว่าจะเห็นปัจจัยสนับสนุนใหม่จากทั้งต่างประเทศและในประเทศ แนะทยอยสะสมกลุ่มค้าปลีกที่มีหลายปัจจัยสนับสนุน และคาดรัฐออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ (CPALL, BJC) กลุ่มก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง (TEAMG, STEC, SCCC)
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – จีนรายงาน GDP ไตรมาส3 ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 6.5% (คาด 6.6%) และรายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. เติบโต 5.8%YoY / PTT ถอนตัวประมูลรถไฟฟ้า 3 สนามบิน รอหลังทราบผลผู้ชนะประมูล
Stock pick : -
Trading idea – ทยอยสะสม CPALL บริเวณ 65.0+/- / เก็งกำไร STEC คาดกำไร 3Q18 เติบโตเด่น YoY, QoQ พร้อมให้เป็น stock pick กลุ่มก่อสร้าง ราคาเป้าหมาย 29.0 บาท / ทยอยสะสม BEM คาดผลประกอบการ Q3 ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์/ /หลีกเลี่ยงการลงทุนกลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL
Technical View
มีหากหลุด 1665 จะเป็นขาลงในรอบใหม่ Downside จะเปิดมากขึ้น : ตลอด 3 วันสุดท้ายของสัปดาห์ดัชนีปรับตัวลง และปิดเกือบ Low โดยระหว่างวันไม่มีแรง Rebound ที่แข็งแกร่งมากพอจะผ่าน Low ของวันก่อนหน้าได้เลย จึงมองว่าดัชนีมีแนวโน้มหลุดแนวรับสำคัญที่ 1665 ซึ่งจะทำให้ในระยะกลางดัชนีจะเปลี่ยนแนวโน้มเป็น “ขาลง” ในรอบใหม่ จึงแนะนำให้ชะลอกาเก็งกำไรเพราะแนวโน้มระยะกลางมีโอกาสกลับตัวเป็นขาลงและ Downside เปิดมากขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน 1) ต้อง Stop Loss เมื่อดัชนีหลุด 1680 หรือ1690 ตามคำแนะนำก่อนหน้า โดยหากยังมีหุ้นแนะนำใช้ 1665 เพื่อ Stop Loss
2) ไม่มีหุ้น : แนะนำ เลิกเก็งกำไร และรอดูแนวโน้มตามแนวรับจนกว่าดัชนีจะเริ่มหยุดลงหรือมีสัญญาณ Rebound ที่ชัดเจนกว่านี้
แนวรับ : 1640, 1665 แนวต้าน : 1675, 1680
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: 24 ต.ค. ยุโรปรายงาน PMI การผลิต / 26 ต.ค. สหรัฐรายงาน GDP ไตรมาส 3 / จีนเตรียมออกมาตรการพยุงดัชนีหลักทรัพย์
ปัจจัยในประเทศ: สัปดาห์นี้ SCC, PTTEP รายงานงบ
หุ้นเทคนิค:
PTTEP (B 142.00-143.00, Tp 148.00//150.00, Cut 140.00)
KTC (B 33.50, Tp 36.00, Cut 33.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO15277