ทยอยสะสมหุ้น Domestic Play / เก็งกำไรงบกลุ่มแบงก์

 

  ราคาปิด 45.25 บาท

  ราคาเหมาะสม 53.00 บาท

          ราคาหุ้นวานนี้ +6.5% เด่นเหนือกลุ่ม หลังเราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น "ซื้อ" จากผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 3Q61 และคาดพลิกเป็นกำไรตั้งแต่ 4Q61 ราว 1.0 พันล้านบาท จากค่าเสื่อมราคาที่ลดลงหลังหมดสัมปทานคลื่น 850MHz

          ขณะที่ภาพทางเทคนิคเป็นบวก หากผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 45.25 บาทได้ เราคงมุมมองบวกและคาดว่า DTAC จะเด่นเหนือกลุ่มจาก EV/EBITDA เพียง 4.8 เท่า vs กลุ่มเฉลี่ยที่ 8 เท่า

 

  ราคาปิด 420.00 บาท

  คาเหมาะสม 490.00 บาท

          กลุ่มปูนซีเมนต์ได้ Sentiment บวกวันนี้ จากราคาน้ำมันดิบ NYMEX, BRENT ปรับตัวลงแรง  หลังสหรัฐฯ รายงานสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4  

          ราคา ณ ปัจจุบันมี Downside Risk จำกัด ซื้อขายที่ PER2561 เพียง 10 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.5% รวมทั้งแนวโน้มธุรกิจปูนซีเมนต์ผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 1H61 และมีทิศทางกลับมาขยายตัว YoY ใน 2H61

 

  ราคาปิด 142.00 บาท

  ราคาเหมาะสม 153.00 บาท

          SCB รายงานกำไร 3Q61 เย็นวันนี้ เราคาดกำไรที่ 1.11 หมื่นล้านบาท +9.8% YoY และ +0.1% QoQ ซึ่งมีโอกาสที่กำไรจะดีกว่าคาดจากการตั้งสำรองที่ลดลง และเป็น Positive Surprise ให้กับตลาด

          ขณะที่การลงทุนระบบ IT ขนาดใหญ่ได้ผ่านไปแล้วในช่วงก่อนหน้า ดังนั้น เรามองว่ามีโอกาสที่ตลาดจะปรับประมาณการและราคาเหมาะสมขึ้นได้

 

  ราคาปิด 20.30 บาท

  แนวต้านทางเทคนิค 20.80 บาท 

          ภาพทางเทคนิคจะเป็นบวกหากปรับตัวผ่าน 20.50 บาทได้ มีโอกาสขึ้นทดสอบ 20.80-21.00 บาทเป็นแนวต้านถัดไป แนวรับ20.10 บาท และ Stop Loss หากต่ำกว่า 19.90 บาท 

          ราคาหุ้นมี Sentiment บวก หลังวานนี้กรมบังคับคดีเสร็จสิ้นการขายทอดตลาดที่ดินของ AQ รวม 8.9 พันล้านบาท ส่งผลบวกต่อ KTB ในฐานะเจ้าหนี้ และมีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษใน 4Q61 เนื่องจากได้ตั้งสำรองหนี้ดังกล่าวแล้วทั้งจำนวนในอดีต

 

          ทิศทางการลงทุนในวันนี้กลับมา "อ่อนแอ" อีกครั้ง จาก 1) วานนี้ SET INDEX ไม่สามารถปิดยืนเหนือ 1700 จุดได้ 2) Dollar Index แข็งค่าเด่น หลังรายงานการประชุมเฟดเดือนก.ย. ยืนยันการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้นจับตาการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทไทยวันนี้ หากอ่อนค่าแรงกลายเป็นปัจจัยลบเชิงจิตวิทยาการลงทุน และ 3) ราคาน้ำมันดิบทั้ง NYMEX และ Brent ปิดลงแรง บนความกังวลต่อด้านอุปทานจากสหรัฐฯ ทำให้เราประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1680/85 - 1705 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายกลับมาต่ำกว่า 5.0 หมื่นล้านบาทอีกครั้ง

          อย่างไรก็ตาม การที่ราคาน้ำมันดิบ / ถ่านหินปรับตัวลงนั้น กลายเป็น Sentiment เชิงบวกให้แก่กลุ่มวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มปูนซิเมนต์ / ยางมะตอย ที่มีต้นทุนจากสินค้าโภคภัณฑ์ทั้ง 2 นี้เป็นหลัก แม้ว่าผลการดำเนินงานใน 3Q61 จะไม่โดดเด่นก็ตาม แต่โอกาสเกิดแรงเก็งกำไรระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีความเป็นไปได้สูง

  ปัจจัยสำคัญวันนี้ เรายังคงแนะนำให้นักลงทุนติดตามการประกาศงบการเงิน 3Q61 ของ BAY หลังปิดตลาดรอบเช้า และ SCB ในช่วงเย็น ส่วน BBL/ KBANK / KTB จะประกาศในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเราประเมินว่า SCB มีโอกาสที่จะออกมาดีกว่าคาดจากค่าใช้จ่าย ขณะที่ KBANK มีโอกาสออกมาต่ำกว่าคาดจากค่าใช้จ่ายด้านไอที ซึ่งอาจเป็นประเด็นการเก็งกำไรช่วงสั้นได้

  ดังนั้นกลยุทธ์ช่วงนี้ เรายังคงแนะนำให้เก็งกำไรต่อผลการดำเนินงาน 3Q61 เน้นหุ้นกลุ่มการเงิน / กลุ่มโรงพยาบาล/ กลุ่มยานยนต์/ กลุ่มโรงไฟฟ้า/ กลุ่มน้ำมัน / กลุ่มค้าปลีก / กลุ่มห้างสรรพสินค้า ที่แนวโน้มกำไรปกติรอบนี้เด่น เพราะเข้าสู่ช่วง High season ของธุรกิจ หุ้นเด่นได้แก่ SAWAD/ BCH/ BDMS/ SAT/ GULF/ PTTEP/ BJC/ ROBINS/ CPN เป็นต้น

          สำหรับบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจวันนี้คือ TOP วานนี้ปิดบวกถึง 3.94% สวนทางกับภาพรวมของตลาด เราคาดว่ากำไรใน 3Q61 จะฟื้นตัวกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับ 2Q61 ที่ฐานต่ำ ขณะที่แนวโน้มกำไรใน 3-6 เดือนต่อจากนี้ไปขาดความโดดแด่น ซึ่งเชิงกลยุทธ์นักลงทุนอาจรอขายทำกำไรเมื่อผลการดำเนินงานประกาศในรอบนี้

 

          1. ติดตามการรายงานงบ 3Q61 ของ SCB, BAY วันนี้

          2. น้ำมันดิบ NYMEX หลุด US$70.00/barrel เป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน

          3. KTB มี Sentiment บวก หลังกรมบังคับคดีเสร็จสิ้นขายทอดตลาดที่ดิน AQ มูลค่า 8.9 พันล้านบาท 

          4. โอกาสขึ้นดอกเบี้ยเดือน ธ.ค.ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก 75.9% เป็น 80.7% หลังรายงานการประชุมเฟดเมื่อคืนนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง

 

          วานนี้ SET INDEX ขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 1710 จุด ก่อนมีแรงขายทำกำไรออกมากดดันดัชนีหลุด 1700 จุด มาปิดที่ 1695.04 จุด (-2.83 จุด, -0.17%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.3 หมื่นล้านบาท โดยหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดวานนี้ คือ OSP ราว 1.4 หมื่นล้านบาท

          กระแสเงินทุน : กลุ่มสถาบันในประเทศยังคงเป็นผู้ซื้อสุทธิหลักเป็นวันที่ 6 อีกราว 4 พันล้านบาท รวม 6 วันทำการซื้อสุทธิสะสมกว่า 2 หมื่นล้านบาท สวนทางกับนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 11 อีกราว 3.4 พันล้านบาท รวม 11 วันทำการขายสุทธิสะสมสูงถึง 4.1 หมื่นล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 2.6 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 2.5 หมื่นสัญญา เช่นเดียวกับนักลงทุนต่างชาติที่มีสถานะ Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการราว 1.8 พันสัญญา โดย S50Z18 มี Discount จาก SET50 Index อยู่ราว 2.98 จุด ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Short สุทธิคงเหลือเพียง 4.5 พันสัญญา 

          ตลาดตราสารหนี้ : นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิราว 1.4 พันล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ขายสุทธิราว 1.4 ล้านบาท ขณะที่ค่าเงินบาททรงตัวอยู่ที่ระดับ THB32.53/USD

 

 

กระทรวงการคลังสหรัฐฯรายงานต่อสภาคองเกรสว่า ไม่มีประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯที่เข้าแทรกแซงค่าเงิน แต่ต้องติดตามนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศ จีน เยอรมัน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสวิตเซอร์แลนด์ อย่างใกล้ชิด

ประธานาธิบดีสหรัฐฯเตรียมให้ทุกกระทรวงลดงบประมาณลง 5% เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดดุลงบประมาณ หลังจากปีงบประมาณ 2561 ขาดดุลเพิ่มขึ้นสูงถึง 17%

รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed Minutes) เมื่อวันที่ 25-26 ก.ย.2561 ส่งสัญญาณเตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังคงขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง แม้มีความไม่แน่นอนจากผลกระทบของสงครามทางการค้า

EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 6.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.2 ล้านบาร์เรล

อังกฤษรายงานเงินเฟ้อเดือน ก.ย. ขยายตัว 2.4% YoY ต่ำกว่าตลาดคาดเพิ่ม 2.6% YoY

อียูรายงานเงินเฟ้อเดือน ก.ย. ขยายตัว 2.1% YoY เท่ากับคาดการณ์ของตลาด

วันนี้หุ้น BGC เข้าเทรดในตลาด SET วันแรก ที่ราคา IPO 10.20 บาท/หุ้น

ติดตามการประชุมระหว่างทูตพาณิชย์ และรองนายกรัฐมนตรี ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ วันนี้

ติตตามการรายงานเงินเฟ้อ ญี่ปุ่น เดือนก.ย. ตลาดคาดขยายตัว 1.3% YoY และการรายงาน GDP 3Q61 ของจีน ตลาดคาดขยายตัว 6.6% YoY วันที่ 19 ต.ค.

ติดตามการประกาศงบการเงิน 3Q61 ของ BAY/ SCB วันนี้