- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Saturday, 13 October 2018 00:24
- Hits: 22939
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
SET จะประคองตัวได้ดีกว่าตลาดหุ้นโลก (Buy on dips 2)
หุ้นที่ลงแรงส่วนใหญ่เมื่อวานนี้ เป็นกลุ่มที่เราให้เลี่ยงๆไปก่อนในช่วงนี้ คือ Global play-พลังงาน สินค้าโภคภัณฑ์ (น่ำมัน ปิโตรฯ โรงกลั่น) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ลงหนักกดดันดัชนีฯ ขณะที่หุ้น Domestic อย่าง แบงก์ โรงไฟฟ้า กระทบจำกัด (Outperform)
คาดหุ้นไทยวันนี้ลงอีกไม่เยอะ แล้วจะเริ่มรีบาวด์สั้นๆ กรอบ 1672-1692 จุด ทั้งนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลงมาตามที่ MS คาด ซึ่งเราพบว่านักลงทุนมีการปรับพอร์ตรอรับมือกับการปรับฐานของ S&P500 ครั้งนี้ มาตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมาแล้ว ดังนั้นเชื่อว่าการลงต่อของตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะไม่มากไปกว่านี้ (ลงมารอบนี้ 5% แล้ว ถ้าเทียบกับการปรับฐานปกติ 7-8% เชื่อเหลือช่องให้ลงอีกไม่มาก)
กลยุทธ์ คงคำแนะนำ เลือกหุ้นลงทุน โดยซื้อกลุ่ม แบงก์ สะสมบ้าน โรงไฟฟ้า ค้าปลีก ส่วนพลังงาน สินค้าโภคภัณฑ์ รอให้ราคานิ่งอีก 1-2 วัน ค่อยกลับมาเก็บหุ้น
ระยะสัปดาห์ แนะเลือกหุ้น Mid-Small Cap-หุ้น Domestic play เน้น กลุ่มธนาคาร ประกันชีวิต โรงไฟฟ้า และ เน้นไปที่ Earnings 3Q Bottom out หรือ มีลุ้นดีขึ้น เพื่อเล่นรอบระหว่างรอตลาดปรับฐาน โดยการปรับฐานคาดว่าจะสิ้นสุดลง ภายในสัปดาห์หน้าเป็นอย่างช้า
What to watch :
(+/-) MS ประเมินตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะมีการปรับฐานลงราว 10% (ดูรายงานของเรา Weekly Tactical 27 สค.) และได้แจ้งเตือนนักลงทุนมาโดยตลอด และพบว่าตลาด มีการปรับตัวตามที่ MS แนะนำ พิจารณาได้จาก ผลตอบแทนหุ้นรายกลุ่มอุตสาหกรรมที่ส่วนใหญ่มีการปรับลง ช่วง ก.ย. และ ต่อเนื่อง ต.ค. ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรม Technology, Discretionary, หุ้น Small Cap (Russell 1000) ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูง และ High beta
ขณะที่เงินลงทุนที่ขายได้มีการจากกลุ่มข้างต้นมีการหมุนเข้าพักไว้ใน หุ้น Defensive อย่าง กลุ่ม Utility หุ้น Value stock และหุ้น Low beta อย่าง ค้าปลีก Staple goods โดยดูจากผลตอบแทนล่าสุดที่ Outperform ดัชนีฯ S&P 500
(*) ก.คลังสหรัฐฯ จะออกรายงานรอบครึ่งปี ว่าด้วยการปั่นค่าเงิน วันที่ 15 ต.ค.นี้
(+) สัญญาณดีจากงบ KTC TISCO กำไร 3Q ดีกว่าคาด และยังมีช่องให้ปรับกำไรขึ้นได้อีกสำหรับกำไรปีหน้าของ KTC เพราะตั้งสำรองเผื่อ IFRS 9 เกินไปเยอะมาก จากงบ KTC พบว่าการตั้งสำรองอยู่ที่ 615% เกินพอ IFRS9 ไปมาก (LLR/NPL: TISCO 193.5%)
หุ้นแนะนำ
KTC TISCO กำไรดีกว่าคาด ดูรายงานวันนี้
รายงานวันนี้
SCC : Sluggish earnings but yield support
เรามองว่ากำไรใน 3Q18 จะยังคงชะลอตัว โดยธุรกิจ CBM และ Packaging ที่คาดแข็งแกร่งขึ้นไม่สามารถที่จะหักกลบกับกำไรของธุรกิจ Chemical ที่อ่อนตัวลงได้ เราประเมินกำไรใน 3Q18 ปรับตัวลดลง 5% YoY และ 10% QoQ มาที่ 11.2 พันล้านบาท ธุรกิจซีเมนต์เติบโตได้ดีโดยอุปสงค์ฟื้นตัว 2-3% YoY จากการก่อสร้างของโครงการภาครัฐที่ออกมา และการลงทุนจากภาคเอกชน ธุรกิจ Packaging โตจากฐานต่ำมีการปิดปรับปรุงโรงงาน และอุปสงค์ยังดีจากเทรนด์การซื้อขายสินค้าออนไลน์ แต่ในด้านของ Chemical ยังโดนกดดันจาก Spread ที่ปรับตัวลดลง เรามองว่าการเติบโตของกำไร YoY จะเริ่มเห็นในปี 2019 เราปรับประมาณการกำไรปี 2018-2019 ลง 4-6% และปรับราคาเป้าหมายลงจาก 580 บาทเป็น 500 บาท อย่างไรก็ตามอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ราว 4.3% ยังน่าสนใจ เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ
CPF : Recovery in core operations on track
เราประเมินกำไรสุทธิ 3Q18 ที่ 5.2 พันล้านบาท เติบโต 6% Yoy และ 12% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษทั้งกำไรจากอตัราแลกเปลี่ยน, กำไรจากการเทรดดิ้ง CPALL, กำไรจากการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ชีวภาพ และการตั้ง provision ของสินทรัพย์ชีวภาพในรัสเซียจากไข้หวัดหมู เราคาดกำไรหลักที่ 3.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% YoY และ 47% QoQ โดยคาดกำไรหลักเติบโต YoY จาก SG&A ที่ลดลง ยอดขายขยายตัวมากขึ้น ในขณะที่คาด QoQ เติบโตจาก High season ของการส่งออกและอัตรากำไรที่ขยายตัวจากกำไรในเวียดนาม เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ปรับราคาเป้าหมายไป ณ สิ้นปี 2019 ที่ 31 บาท
HUMAN : Strong profit growth outlook, exciting new ventures
เราคาดกำไรหลัก 3Q18 ที่ 33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% YoY แต่ทรงตัว QoQ แต่คาดกำไรสุทธิปรับตัวลดลง 11% QoQ เนื่องจากมีรายการพิเศษใน 2Q18 และใน 4Q18 เราคาดกำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่หนุนโดยปัจจัยฤดูกาลของการขายซอฟต์แวร์ บริษทัยังมีแผนจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้ง HRM ซอฟต์แวร์ สำหรับ SMEs ซึ่งคาดจะเริ่มภายในปลายปีนี้โดยการเป็นพาร์ทเนอร์ผ่านธนาคารขนาดใหญ่ อีกทั้งบริษัทยังมีแผนที่จะออก HR development services (HRD) และธุรกิจ personal lending โดยใช้ฐานลูกค้าของบริษัทที่มีอยู่ในมือเป็นตัวต่อยอด เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 13 บาท
Quick Take
ResDev (กลุ่มบ้าน) : Feedback from BOT's public hearing for macroprudential on mortgage
เราเข้าร่วมฟัง public hearing ที่จัดโดย ธปท. เกี่ยวกับมาตรการคุมสินเชื่อบ้าน ซึ่งผู้ประกอบการ (developer) ได้ให้ความเห็นในหลายมุมที่น่าสนใจ เช่น
1) เห็นด้วยเรื่องการคุมสินเชื่อส่วนเพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล ที่ใช้บ้านเป็นหลักประกัน แต่ควรคุมที่ธนาคารมากกว่าการคุมที่ผู้กู้
2) คำว่าบ้านหลังที่2 ควรเปลี่ยนเป็นสัญญาเงินกู้ที่2 เพราะลูกค้าหลายรายอาจมีบ้านหลายหลัง แต่หลังแรกผ่อนไปหมดแล้ว รวมถึงการขอผ่อนผันให้เริ่มจากสัญญาที่3 หากเป็นไปได้
3) ขอเลื่อนการบังคับใช้ไปเป็น 1 มิ.ย. 2019 แทน 1 ม.ค. 2019
4) ขอให้ยกเว้นเกณฑ์ใหม่ให้ผู้ที่จองคอนโดมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ และอยู่ในช่วงผ่อนดาวน์
ความเห็น BLS Research : เรามองว่า ธปท. น่าจะออกเกณฑ์ควบคุม แต่มีแนวโน้มที่เกณฑ์ จะผ่อนคลายในบางข้อตามที่ developer มีความคิดเห็น ขณะที่ปัจจุบันราคาหุ้นลงมาลึกในระดับ valuation PE 8 เท่า ต่ำสุดในรอบ 5 ปี แนะเลือกซื้อ GOLD LPN และ SPALI
GPSC : คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเป็นเอกฉันท์ไม่อนุมัติให้ GPSC ซื้อหุ้น GLOW
หลังพิจารณาแล้วขัดต่อระเบียบพ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงานว่าด้วยการส่งเสริมการแข่งขัน แม้ว่าประเด็นดังกล่าวจะมีผลกระทบเชิงลบต่อราคาหุ้นในระยะสั้น เรามองว่าขั้นตอนต่อไปอาจจะเข้าสู่กระบวนการของศาลอุทธรณ์และศาลปกครอง ด้านปัจจัยพื้นฐานในมุมมองของเรา เราชอบ GPSC ที่ไม่มี GLOW มากกว่า เนื่องจากกำลังการผลิตจะเติบโตในปี 2562-67 ที่ 5.4% (ก่อนการซื้อหุ้น) มากกว่าหลังจากที่ซื้อหุ้นอยู่ที่ 1.1% นอกจากนี้บริษัทยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากและไม่ต้องเพิ่มทุนและหนี้สิน ดังนั้นจะไม่มีผลกระทบจาก dilution ต่อหุ้น และบริษัทจะมีโอกาสในการลงทุนขยายกำลังการผลิตมากขึ้นในอนาคต แม้ว่าดีลดังกล่าวยังไม่ได้ข้อสรุป เรามองว่าไม่มีเหตุผลที่จะต้องรอผลสุดท้าย เนื่องจากราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ต่ำกว่าการประกาศก่อนและหลังการซื้อขายหุ้น อีกทั้งยังมีปัจจัยหนุนจากการเติบโตของกำไรในปีหน้า เรายังคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ด้วยราคาเป้าหมายที่ 72 บาท
หุ้นมีข่าว
(+) RML บอร์ด RML ตั้ง"ระเฑียร ศรีมงคล"เป็นรองประธานกรรมการ มีผลตั้งแต่ 12 ต.ค.นี้ (ที่มา ตลท.)
(+) NPPG บอร์ดNPPGไฟเขียว บ.ย่อย เอ็นพีพี ฟูด ซื้อกิจการแฟรนไชส์ร้านอาหารคิทเช่น พลัส บ้านครัวไทย (ที่มา ตลท.)
(*/-) S เครดิต สวิส (ยุโรป) ตัดขายหุ้นSออก0.2176% คงเหลือ4.9083% (ที่มา กลต.)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO15014