SET ปิดที่ระดับ 1,682.89 จุด ลดลง 38.93 จุด (-2.26%) มูลค่าการซื้อขาย 82,888.83 ล้านบาท ดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐ ปัจจัยลบที่มาจากเงินเฟ้อและดอกเบี้ยของสหรัฐ รวมถึงการมีแรงซื้อพันธบัตรของสหรัฐฯ ที่เข้ามาในช่วงปลายตลาด ซึ่งสะท้อนถึงการพุ่งเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงต่ำของนักลงทุน ในขณะที่น้ำมันดิบลดลง 0.61 เหรียญ

 

  คาดดัชนีฯ ยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงต่อตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ และผันผวนไปตามตลาดหุ้นเอเซีย ความกังวลต่อผลกระทบของสงครามการค้าและแนวโน้มดอกเบี้ยของสหรัฐฯ กดดันตลาดหุ้นทั่วโลก ......ดัชนี Dow Jones ปรับตัวลง 545 จุด เท่ากับสัปดาห์นี้ปรับตัวลงไปแล้ว 1,574 จุด หรือ 5.9% สอดคล้องกับดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกวัดด้วย Bloomberg World Index ที่ลดลงระดับใกล้เคียงกัน  ทั้งนี้ผลกระทบจากสงครามการค้าหนุนต้นทุนภาคธุรกิจของสหรัฐฯขยับขึ้น แม้รายงานตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐฯ คืนที่ผ่านมาจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% MoM ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 0.2% ก็ตาม ผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่นๆ จะแรงกว่าของสหรัฐฯ เพราะมีเรื่องของเงินไหลออกจากตลาดและบางประเทศอาจต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเองดึงเงินทุนเหล่านี้ไว้ ตลาดหุ้นไทยแม้จะไม่มีความเสี่ยงแต่ถูกกระทบจากนักลงทุนลดความเสี่ยงลงในทุกๆตลาด แต่วันนี้ ความแรงของดัชนีฯในขาลงอาจไม่มากนัก แนวรับสำคัญของดัชนีฯจะไปอยู่ที่ 1680 และ 1666 จุดตามลำดับ .....  ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงมา Brent แตะ $80 เหรียญอีกครั้ง คาดยังมีผลลบต่อหุ้นน้ำมัน-ปิโตรเคมี แต่บวกกับภาพรวมทางเศรษฐกิจจากแรงกดดันเงินเฟ้อที่จะลดลง .....  รายงานกำไร 3Q  ของ 3 สถาบันการเงิน KTC, LHFG, TISCO ออกมาดีกว่าที่คาด น่าจะหนุนภาพรวมหุ้นกลุ่มนี้ ....   ตัวแปรที่ควรติดตามในวันนี้ คือ ทิศทางตลาดหุ้นเอเซียและ Dow Jones Futures ซึ่งจะชี้ทิศทางตลาดหุ้นไทย

 

  ตัวแปรภายนอกยังกดดันต่อตลาด แต่คาดแรงขายจะบางลงเพราะ          นักลงทุนจะรอดูทิศทางของตลาดว่าจะไปในทางใด วันนี้ดัชนีฯหากยังไม่หลุดจากระดับแนวรับสำคัญที่ 1666 ลงไป นักลงทุนน่าจะเลือกถือหุ้นต่อไปก่อน .....   หุ้นที่เป็น top picks ของเราวันนี้  เรามองเป็นจังหวะรับหุ้นที่คาดจะดีดตัวได้เร็ว ให้ความสนใจกับหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวหรือราคาลงมามาก ประกอบด้วย BBL, BGRIM, WHA ,AMATA , BH, BDMS,  GUNKUL*

 

  * เป็นหุ้นที่แนะนำโดย KTBST ยังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์