SET ปิดที่ระดับ 1721.82 จุด สูงขึ้น 24.90 จุด (+1.47%) มูลค่าการซื้อขาย 46,879 ล้านบาท มีแรงซื้อกลับของนักลงทุนหลังตลาดหมดแรงขาย ปัจจัยลบที่มาจากผลพวงสงครามการค้าซึมซับไประดับหนึ่ง หุ้นน้ำมัน-ปิโตรเคมี ได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยนักลงทุนสถาบันเป็นกลุ่มนำในการซื้อหุ้นในวันนี้

 

  ประเมินดัชนีฯ มีแนวโน้มอ่อนตัวลง ผลจาก Dow Jones ปรับตัวลง 831 จุด แรงซื้อหุ้นไทยอาจชะลอลงและนักลงทุนจะรอดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯคืนนี้   ....  การร่วงลงของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถึง 3.15% หลังตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตพื้นฐานเพิ่มขึ้นถึง 0.4% MoNซึ่งเป็นสัญญาณของเงินเฟ้อและต้นทุนของผู้บริโภคส่งผลให้หุ้นส่วนใหญ่ของตลาดปรับตัวลง ทั้งนี้ เรามองว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯเพิ่งจะมารับรู้ผลของเงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่กำลังพุ่งทะยานหลังจากที่ปัจจัยตัวนี้ มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่นๆมาก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ตามสัญญาณลบอย่างหนึ่งที่เห็น คือมีแรงซื้อพันธบัตรของสหรัฐฯเข้ามาในช่วงปลายตลาด สะท้อนถึงการพุ่งเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงต่ำของนักลงทุน ซึ่งเป็นเรื่องที่เราพะวงมากกว่าการร่วงลงของดัชนี Dow Jones  .......  ตัวแปรอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันดิบ เช้านี้ Brent ลดลง 0.61 เหรียญ จากคืนที่ผ่านมาและตลาดหุ้นเอเซียที่เปิดทำการคือ ญี่ปุ่นลดลงกว่า 3% บ่งชี้ว่าดัชนีฯตลาดหุ้นไทยวันนี้น่าจะปรับตัวลงตาม ....   ตัวแปรที่ควรติดตามในวันนี้ คือ ทิศทางตลาดหุ้นเอเซีย ผู้บริหารของ PTT พบรองนายกฯ ดร.สมคิด  การเก็งผลประกอบการของหุ้นต่างๆ และหุ้น PTT ขึ้น “XD” วันนี้  @0.80 บาท

 

  ตลาดหุ้นไทยมีแรงซื้อกลับเข้ามา ซึ่งน่าจะมาจากปัจจัยภายในของไทยเองในเรื่องของความแข็งแรงด้านเศรษฐกิจและการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นต้นปีหน้า แต่ด้วยตัวแปรภายนอกที่เข้ามากดดันต่อตลาด จะทำให้มีแรงขายทำกำไรเข้ามาในวันนี้ แต่หากดัชนีฯยังไม่หลุดจากระดับ 1700-1710 จุด ถือว่าตลาดยังมีความแข็งแรงดี นักลงทุนน่าจะถือหุ้นต่อไปก่อน .....   หุ้นที่เป็น top picks ของเราวันนี้  เรายังเลี่ยงหุ้นที่อิงทิศทางตลาด และให้ความสนใจกับหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวหรือราคาลงมามาก ประกอบด้วย BGRIM, WHA ,  AP, BH, GUNKUL*

 

  * เป็นหุ้นที่แนะนำโดย KTBST ยังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์