- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 11 October 2018 17:51
- Hits: 3347
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET เกิด Technical rebound โดยมีแรงซื้อเด่นในหุ้นใหญ่นำโดยกลุ่มพลังงานอย่าง PTT, PTTEP กลุ่มโรงไฟฟ้า GULF, GPSC, CKP กลุ่มการเงิน MTC, SAWAD, KTC ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,721.8 จุด (+24.9 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.6 หมื่นลบ. ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 5.2 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 ติดต่อกันที่ 1,806 ล้านบาท (นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิที่ 4,711 ล้านบาท) และเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิ 548 สัญญา
Investment theme
ฝรั่งยังคงเทขายทำกำไรตลาดหุ้น EM อย่างต่อเนื่อง: ในอดีตที่ผ่านมา สหรัฐดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินและดอกเบี้ยในระดับต่ำ ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้ามาในตลาดฝั่งเอเชียและตลาดเกิดใหม่เพื่อแสวงหาผลกำไรที่สูงขึ้นจากการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและการกู้ยืมหนี้สินเป็นสกุลเงินต่างประเทศเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามภายหลังการเข้ามาของปธน. Trump ใต้นโยบาย America First ประกอบทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐที่ฟื้นตัวเด่นในรอบหลายปี อีกทั้งตัวเลขสำคัญอย่าง อัตราเงินเฟ้อ, การจ้างงาน และอื่นๆ มีทิศทางดีขึ้นเป็นผลให้ธนาคารกลางเริ่มนโยบาย Hawkish มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นผลให้ค่าเงินดอลลาร์เริ่มกลับมาแข็งค่า ในขณะที่ประเทศในฝั่ง EM และ Asean เริ่มมีความเสี่ยงผลกระทบทางอ้อมจากสงครามการค้า เป็นผลให้เราเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรในตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง (YTD นักลงทุนต่างชาติขายทำกำไรตลาดหุ้น เอเชีย, EM โดยเฉพาะ TIP ที่สูงกว่า 4.0 แสนล้านบาท) ประกอบกับต้นทุนการกู้ยืมเริ่มสูงขึ้นจากการอ่อนค่าของค่าเงินในประเทศต่างๆใน EM เป็นผลให้ตลาดเริ่มกังวลกับความสามารถการชำระหนี้โดยเฉพาะเจ้าหนี้อย่างธนาคารหลายประเทศในยุโรป เราประเมินปัจจัยดังกล่าวจะยังคงเป็นปัจจัยกดดันการลงทุนในระยะยาว
Investment Theme: คาด SET ปรับฐานในกรอบ 1,670-1,710 จุด จนกว่าจะเห็นปัจจัยสนับสนุนใหม่จากทั้งต่างประเทศและในประเทศ แนะทยอยสะสมกลุ่มค้าปลีกที่มีหลายปัจจัยสนับสนุน และคาดรัฐออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ (CPALL, BJC) กลุ่มก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง (TEAMG, STEC, SCCC)
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – บอร์ด กสทช.มีมติมอบหมายให้ประธานบอร์ดตัดสินยื่นอุทธรณ์หรือไม่ / สหรัฐรายงาน PPI เดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 0.2%
Stock pick : -
Trading idea – ทยอยสะสม TU คาดผลประกอบการ Q3 เติบโต 17%QoQ จาก High season และ Margin(%) ที่ขยายตัวเป็น 14.7% / ทยอยสะสม BEM บริเวณ 8.20 บาท +/- คาดผลประกอบการ Q3 ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติกาณ์/ หลีกเลี่ยงการลงทุนกลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL / กลุ่มโรงกลั่นเริ่มมี Upside จำกัด ในขณะที่ Catalyst เริ่มหมด มองว่าการปรับตัวขึ้นเป็นจังหวะขายทำกำไร
Technical View
ดีดตัวที่แนวรับและกลับมายืนเหนือ EMA200Day ยังคงแนวโน้มขาขึ้น : แรงซื้อจากหุ้นกลุ่ม Big Cap. แทบทุกกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มพลังงานและธนาคาร ทำให้ดัชนีดีดตัวขึ้นจากแนวรับของกรอบ Uptrend ระยะยาวและกลับทมายืนเหนือเส้น EMA200Day พร้อมกับ Modified Stochastic ที่ดีดตัวขึ้นจากเขต Oversold ทำให้ระยะกลางถึงยาวดัชนียังคงแนวโน้มขาขึ้น ขณะนี้แนะนำให้กลับมาเก็งกำไรได้โดยให้พิจารณาแรงขายตามแนวต้านเป็นขั้นๆที่ 1730 และ 1745
กลยุทธ์การลงทุน 1) Let Profit Run และพิจารณาแรงขายที่แนวต้านเป็นขั้นๆบริเวณ 1730 และ 1745 เพื่อทำกำไรเล่นรอบ หากหลุด 1711 แนะนำ ชะลอการเก็งกำไรในระยะสั้น 2) ไม่มีหุ้น : จังหวะอ่อนตัวสู่แนวรับแนะนำเก็งกำไรในกรอบ 1715-1730
แนวรับ : 1711, 1715 แนวต้าน : 1730, 1745
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ: Trump เตรียมเจรจาการค้าญี่ปุ่น / Worldbank ประชุม IMF เรื่องเศรษฐกิจโลก
ปัจจัยในประเทศ: -
หุ้นเทคนิค:
AMATA (B 23.50-23.70, Tp 25.00//26.50, Cut 23.00)
EA (B 46.50, Tp 49.00, Cut 45.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ/ จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO14923