- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 10 October 2018 21:08
- Hits: 4860
บล.ฟินันเซียไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Domestic and Energy Play//Accumulate and Hold
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัวค่อนข้างผันผวนโดยปรับตัวบวกได้ในช่วงเช้าขึ้นไปทดสอบใกล้เคียงระดับ 1,710 จุดก่อนที่จะย้อนลงมาในแดนลบและปิดทรงตัว ณ สิ้นวัน แรงกดดันยังมาจากกระแสเงินทุนที่ไหลออกโดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นหนักถึง 4.6 พันลบ. (แต่เริ่มพลิกมา Long ใน Index Futures 7.4 พันสัญญา) ส่วนสถาบันในประเทศเริ่มพลิกมาซื้อสุทธิ 2.8 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index คาดว่าจะแกว่งตัวสร้างฐานและมีโอกาสเกิดการรีบาวด์ได้ โดยเรามองว่าดัชนีได้ซึมซับประเด็นลบในตลาดไปมากแล้วทั้งเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนและงบประมาณของอิตาลี ส่วนค่าเงินบาทเริ่มพลิกมาแข็งค่าอีกครั้งทำให้แนวโน้มกระแสเงินทุนจะเริ่มชะลอการไหลออก นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูงคาดว่ายังหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน ส่วนปัจจัยในประเทศทั้งเศรษฐกิจและการเมืองที่มีเสถียรภาพมองว่าจะยังช่วยหนุนให้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้ในระยะกลาง-ยาว
กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้น Domestic และพลังงาน//ถือลงทุนหลังจากสะสมเพิ่มช่วงพักตัวไปแล้ว
หุ้นเด่นเดือนต.ค. : BDMS, CPALL, CPN, MINT, PTTGC
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$346ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$183ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$140ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคจากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกหลัง IMF ปรับลดประมาณการ GDP โลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐและจีนเนื่องจากมาตรการทางการค้าที่เกิดขึ้น
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> TOP <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 88 บาท
แนวโน้มกำไร 3Q18 จะชะลอทั้ง Q-Q และ Y-Y เพราะฐานสูงซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้หมดแล้ว แต่น่าจะออกมาดีกว่าที่คาดกันตอนแรก เพราะ Stock gain มากกว่าคาด ค่าการกลั่นฟื้นเร็ว และ Spread สายอโรเมติกส์กว้างขึ้น
กลุ่มพลังงานกลับมา Outperform ตลาด แต่ TOP ยัง laggard อยู่ราว 3% ขณะที่ NVDR เริ่มกลับมาซื้อในสัปดาห์ก่อน และ PBV ปี 2018-19 ยังต่ำเพียง 1.1-1.2 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลังที่ 1.5 เท่า
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) กลุ่มพลังงาน คาดการณ์กำไร 3Q18 ของกลุ่ม +14% Q-Q, +56% Y-Y จากกำไรของ PTTEP และ PTT ที่ฟื้นกลับมาปกติ จาก 2Q18 และ 3Q17 ที่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ ขณะที่ กำไรของกลุ่มโรงกลั่นจะชะลอ จาก Stock Gain ที่น้อยลงเพราะฐานที่สูงใน 2Q18 และแม้ GRM จะฟื้นตัว แต่ก็เทียบไม่ได้กับ 3Q17 ที่มีพายุฮาร์วี่ ส่วนกลุ่มอโรมาติกส์ฟื้นตัวได้แรงเนื่องจาก Supply ที่หายไประยะสั้น สวนทางกับ Spread กลุ่มโอเลฟินส์ที่ปรับตัวลงจาก Supply ใหม่ที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนการผลิตอย่าง Naphtha ที่สูงตามน้ำมันดิบ เราเลือก PTTGC (ราคาเป้าหมาย 110 บาท) เป็น Top Pick จากพื้นฐานในระยะยาวที่แข็งแกร่ง และแนะนำเก็งกำไรระยะสั้นใน TOP (ราคาเป้าหมาย 88 บาท) จากการฟื้นตัวของ GRM และอโรมาติกส์รับ High Season ใน 4Q18
(0) BAY ขายเงินติดล้อ 50% ให้กลุ่ม Siam Asia Credit Access PTE LTD ถ้าอิง PBV ที่ 3-5 เท่า คาดว่ามูลค่าการซื้อขายจะอยู่ที่ 5-7 พันลบ. และ BAY น่าจะมีกำไรหลังภาษีราว 2-3.7 พันลบ. คิดเป็น 0.27-0.50 บาท/หุ้น ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น BAY วานนี้น่าจะสะท้อนประเด็นนี้ไปแล้วพอควร ส่วน MTC และ SAWAD ที่ปรับตัวลงแรง 3-4% จากความกังวลด้านการแข่งขันที่อาจสูงขึ้นในอนาคต แต่เรามองยังไม่ทำให้เงื่อนไขการแข่งขันที่รุนแรงอยู่แล้วเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะ MTC ที่มีสาขามากกว่า และถนัดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นคนละตลาดกับเงินติดล้อที่ถนัดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ เรายังคงแนะนำซื้อ MTC ราคาเป้าหมายปี 2019 เท่ากับ 60 บาท
(0) ROBINS คาดกำไรสุทธิ 3Q18 ที่ 704 ลบ. +1.4% Q-Q, +15.2% Y-Y งที่เป็นช่วง Low Season ของธุรกิจ โดยที่คาดโต Q-Q เล็กน้อยมาจากรายได้การขายและรายได้ค่าเช่า ที่รับรู้สาขาใหม่ชลบุรีเต็มไตรมาสนี้ ส่วนที่คาดเติบโตดี Y-Y แม้อัตรากำไรขั้นต้นอาจจะทำได้เพียงทรงตัวจากปีก่อนมา แต่ยังคาด SSSG บวกเล็กน้อย รายได้ค่าเช่าโตต่อเนื่อง และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมโตดี แนวโน้มกำไรจะทำจุดสูงสุดของปีใน 4Q18 จากกำลังซื้อที่ฟื้นตัว และการเปิดสาขาใหม่ที่ชัยภูมิ รวมถึงคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะกลับมาสูงขึ้น ตามสัดส่วน Private Brand ที่กลับมาเพิ่มขึ้น ยังคาดกำไรสุทธิปี 2018 - 2019 เติบโต +13.5% Y-Y อยู่ที่ 3,112 ลบ. และ +15% Y-Y อยู่ที่ 3,579 ลบ. คงราคาเป้าหมายที่ 78 บาท คำแนะนำซื้อ
(0) ERW คาดกำไร 3Q18 ที่ 61 ลบ. +107.1% Q-Q, -39.6% Y-Y โดยจะเป็นไตรมาสสุดท้ายของการพักตัวจากนักท่องเที่ยวรัสเซียและจีนที่หายไป ก่อนจะกลับมาเติบโตอีกครั้งใน 4Q18 ต่อเนื่องปี 2019 นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากโรงแรม JW Marriott กลับมาดำเนินงานตามปกติอีกครั้งหลัง Renovate แล้วเสร็จ เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2018-2019 +18.1% Y-Y อยู่ที่ 623 ลบ. และ +9.5% Y-Y อยู่ที่ 682 ลบ. ตามลำดับ ทำ New High ต่อเนื่อง ราคาหุ้นปรับลงสะท้อนปัจจัยลบระยะสั้นไปมากและทำให้ Upside เปิดกว้างอีกครั้ง จึงถือเป็นโอกาสซื้อลงทุน โดยปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 2019 ที่ 9.80 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
11 ต.ค.- สหรัฐฯ: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ย.)
12 ต.ค.- จีน: ดุลการค้า (ก.ย.)
- IMF: ประชุมประจำปี
19 ต.ค.- ไทย: SONIC ซื้อขายวันแรก ราคา IPO 1.95 บาท
(-) ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลงหลัง IMF ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีหน้าลงจากความกังวลเรื่องสงครามทางการค้า
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น จากความหวังในการบรรลุข้อตกลงเรื่อง Brexit
(+) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลัง Bond Yield สหรัฐเริ่มทรงตัวได้บริเวณ 3.20% ช่วยให้เงินทุนไหลออกชะลอตัวลง
(0) ค่าเงินบาทยังทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 32.86 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 0.67 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 74.96 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังตัวเลขการส่งออกน้ำมันของอิหร่านปรับตัวลง และความกังวลเรื่องพายุไมเคิลในสหรัฐ
(+) ค่าการกลั่นสิงคโปร์ปรับตัวขึ้น +7.1% ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ 5.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
() ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.90 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1191.5 ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO14875