- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 09 October 2018 20:46
- Hits: 3239
บล.ฟินันเซียไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Domestic Play//Accumulate on Dip
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index เปิดบวกได้ในช่วงต้นชั่วโมงการซื้อขายก่อนที่จะปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ปิดลบถึง 24.30 จุดและหลุดระดับ 1,700 จุดลงมา แรงขายส่วนใหญ่มากจากสถาบันในประเทศ 3 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายอีก 2.4 พันลบ. (ต่างชาติยัง Short ใน Index Futures อีก 5.8 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index คาดว่ายังมีโอกาสอ่อนตัวลงต่อในระยะสั้นหลังจากหลุดระดับแนวรับสำคัญบริเวณ 1,700-1,710 ลงมาด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น โดยถูกดดันจากทั้งประเด็นงบประมาณขาดดุลของอิตาลีและสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ส่งผลให้กระแสเงินทุนไหลออกหนาแน่นและเข้าถือดอลลาร์ อย่างไรก็ตามเราคาดว่าตลาดซึมซับปัจจัยดังกล่าวไปมากพอสมควร และคาดว่ามีโอกาสเกิดการรีบาวด์ได้ในระยะถัดไป ซึ่งเรายังเน้นลงทุนหุ้นในกลุ่ม Domestic Play เป็นหลักเช่นเดิมโดยเฉพาะกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนและการเลือกตั้ง
กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้น Domestic //ทยอยสะสมกลับในช่วงลบ
หุ้นเด่นเดือนต.ค. : BDMS, CPALL, CPN, MINT, PTTGC
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$660ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$366ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$72ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยเนื่องจากกังวลต่อแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเศรษฐกิจโลกที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> BBL <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 232 บาท
เป็นหนึ่งในไม่กี่แบงก์ที่คาดว่ากำไร 3Q18 จะโตทั้ง Q-Q และ Y-Y เราคาด 9,283 ลบ. +1% Q-Q, +14% Y-Y จากค่าใช้จ่ายสำรองที่คาด -23.5% Q-Q
แบงก์ใหญ่จะได้ประโยชน์จากทั้งการขยายตัวของเศรษกิจและการลงทุน รวมถึงดอกเบี้ยในประเทศที่กำลังเป็นขาขึ้น
ราคาหุ้นยังต่ำกว่าบุ๊ค แต่เคลื่อนไหวแข็งแรงกว่ากลุ่มในช่วง 1-3 เดือนที่ผ่านมา และเป็นแบงก์เดียวที่ NVDR ซื้อเพิ่ม 4 วันทำการติดต่อกัน
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) IMF ปรับลดประมาณการ GDP โลกเล็กน้อย โดยปรับลง 0.2% ทั้งปี 2018-19 จากที่เคยประเมินไว้ในเดือน เม.ย. เหลือโต 3.7% เท่ากัน 2 ปี (2018-19) เหตุมาจากสงครามการค้า การปรับลด GDP ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศ EM และยูโร เราไม่ถือเป็นข่าวลบเพราะไม่ได้เหนือความคาดหมาย สำหรับไทย IMF คาด GDP ปีนี้ +4.6% ปัหน้า +3.9%
(0) กลุ่มสื่อสารฯ ADVANC และ TRUE แจ้งตลาดฯว่าจะไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 900 MHz ในรอบนี้ เป็นไปตามที่ตลาดคาด เพราะมีคลื่นในมือเพียงพอก่อนเทคโนโลยี 5G จะเข้ามา ขณะที่ DTAC เตรียมเข้ายื่นเอกสารประมูลรอบใหม่ หาก DTAC เข้าประมูล จะทำให้ประมาณการและราคาเหมาะสมปี 2019 ปัจจุบันที่ 57 บาท มี Downside (เราไม่ได้ใส่คลื่น 900 MHz ไว้ในประมาณการ) อย่างไรก็ตาม เรายังให้น้ำหนักการลงทุน Overweight จากภาวะอุตสาหกรรมที่เอื้อต่อการทำกำไรมากขึ้นในระยะถัดไป โดยเลือก ADVANC (ราคาเหมาะสมปี 2019 ที่ 235 บาท) เป็น Top Pick
(+) รัฐบาลเร่งเดินหน้าทุกโครงการก่อนเลือกตั้ง ตั้งเป้าประกวดราคารถไฟฟ้าอย่างน้อย 1-2 สายภายใน 1-2 เดือนนี้ และก่อนสิ้นปีนี้เตรียมเสนอ ครม. โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ศูนย์ซ่อมอากาศยาน และการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ของสนามบินสุวรรณภูมิ วัฏจักรการลงทุนรอบใหม่กำลังจะเริ่มเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มรับเหมาและธนาคารในระยะต่อไป
(+) TKN แนวโน้มกำไรสุทธิ 3Q18 จะกลับมาโต +15% Q-Q และ +11% Y-Y เป็น 177 ลบ. จาก High Season โดยคาดว่าตลาดจีนจะโตต่อเนื่อง สินค้าใหม่อย่างสาหร่ายเทมปุระไข่เค็มได้รับการตอบรับดีมาก รวมถึงรับรู้ต้นทุนสาหร่ายที่ถูกลงเต็มไตรมาส แนวโน้ม 4Q18 ดีต่อ เราคาดกำไรทั้งปี +8.5% Y-Yและจะโตดีขึ้นเป็น +23% Y-Y ปีหน้าภายหลังรับรู้กำลังการผลิตโรงงานใหม่ทั้ง 3 เฟสเต็มปี และมีวัตถุดิบราคาถูกไปอีกอย่างน้อยถึงกลางปี 2019 คงราคาเป้าหมายปี 2019 ที่ 18 บาท แนะนำ ซื้อ
(+) BCH แนวโน้มกำไรปกติ 3Q18 แข็งแกร่ง +38% Q-Q และ +14% Y-Y ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 345 ลบ. จากรายได้ที่โดดเด่น +17% Q-Q และ +12% Y-Y เพราะ High Season หนุนให้ผู้ป่วยเงินสดเติบโตดีและ WMC โตสูงจากผู้ป่วยต่างชาติหลังเปิดศูนย์แผลเบาหวาน รวมถึงการบันทึกค่าภาระเสี่ยงส่วนเพิ่ม เรายังคงคาดกำไรปกติปีนี้โต 17.4% Y-Y และแม้จะโตชะลอเหลือ +15.2% Y-Y แต่ถือเป็นระดับที่สูง ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงเป็นจังหวะ “ซื้อลงทุน” ราคาเป้าหมายปี 2019 ที่ 21 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
9 ต.ค.- เยอรมัน: ดุลการค้า (ส.ค.)
11 ต.ค.- สหรัฐฯ: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ย.)
12 ต.ค.- จีน: ดุลการค้า (ก.ย.)
- IMF: ประชุมประจำปี
19 ต.ค.- ไทย: SONIC ซื้อขายวันแรก ราคา IPO 1.95 บาท
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวผสมผสาน แม้ดาวโจนส์จะพลิกกลับมาปิดในแดนบวกได้ สวนทางกับตลาดอื่นทั้งในสหรัฐและยุโรป หลังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่ม Defensive ในขณะที่หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยียังคงเป็นตัวฉุดดัชนี
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง หลังข่าวที่อิตาลียังคงยืนยันแผนการใช้จ่ายขาดดุลงบประมาณตามเดิม ซึ่งขัดกับแผนการของ EU
(-) ตลาดเอเชียเช้านี้ยังคงปรับตัวลง จากเงินทุนที่ยังคงไหลกลับสหรัฐอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ค่าเงินที่อ่อนค่าลงก็เป็นอีกปัจจัยที่เร่งการขายของต่างชาติ
(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 32.87 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ย. ลดลง 0.05 ดอลลาร์ 74.29 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังข่าวที่ปธ.ทรัมป์อาจพิจารณาผ่อนคลายการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านให้กับบางประเทศที่ให้ความร่วมมือในการคว่ำบาตร
(+) ค่าการกลั่นสิงคโปร์ปรับตัวขึ้น +4.2% ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ 5.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
() ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 17.00 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1188.6 ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO14805