กลยุทธ์ : ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกต่างดิ่งลงอย่างแรง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10ปีพุ่งขึ้นสร้างสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2011 เหตุที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในสหรัฐพุ่งขึ้นมาจาก กาตอบรับความแข็งแกร่งของตัวเลขเศรษฐกิจ ที่จะนำไปสู่การปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ที่สุดการขึ้นดอกเบี้ยจะยังมีต่อ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปีขึ้นสูงสุดที่ 3.232 แล้วปิดย่อตัวลงเล็กน้อย หากทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐยังผันผวน คาดตลาดหุ้นไทยรวมทั้งในเอเชียจะยังผันผวนตามไปถึงอาทิตย์หน้า ซึ่งจะเป็นอาทิตย์ที่จะมีการทยอยประกาศงบกลุ่มธนาคารใหญ่ในสหรัฐ เรามองว่าในอาทิตย์หน้ายังแนวโน้มสูงที่ตลาดหุ้นไทยจะยังผันผวน แต่จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับมุมมองของนักลงทุนในสหรัฐต่อทิศทางของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร และยังมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดแรงขายหุ้นในสหรัฐเพื่อลดความเสี่ยงหลังขึ้นไปสร้างสิถิติสูงสุด แล้วค่อยกลับมาซื้อคืนในช่วงหลังงบกลุ่มธนาคารทยอยประกาศแนวโน้มทิศทางตลาดหุ้นไทยในตอนนี้ ถือว่ายังต้องเฝ้าระวัง หลังแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศและกองทุนเพิ่มสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เรามองว่าหากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ไม่ทวีความรุนแรง ดัชนี SET ไม่น่าจะหลุด 1700 จุด เพราะระดับดังกล่าวเป็นต้นทุนของกองทุนที่ดันดัชนีขึ้นในรอบนี้ (แต่หากกองทุนเกิดขายหนักๆ ก็มีสิทธิหลุด) วันนี้มองแนวโน้มดัชนี SETน่าจะยังผันผวนตามดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาครวมทั้งแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยวันนี้ยังมีสิทธิที่ดัชนีจะลงไปเล่นที่กรอบ 1710-1720 จุด วันนี้มองกรอบรับที่ 1710-1720 และแนวต้านที่ 1735-1740 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร KCE CENTEL และ CPF

 

  LH : เราแนะนำ ซื้อ LH โดยมีราคาเป้าหมาย 13.00 บาท โดย LH เป็นบริษัทที่ได้รับผลกระทบจำกัดจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเตรียมที่จะปรับเปลี่ยนเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อต่อมูลค่าบ้าน (Loan to Value : LTV) จาก 90% เป็น 80% โดย LH มียอดbacklog รวม 9.86 พันล้านบาท ณ สิ้น 2Q18 ซึ่งสามารถประกันรายได้ 69.5% ในปี2018 และ 3.2% ในปี 2019 ทำให้เรายังกังวลกับรายได้ที่ไม่ชัดเจนในปีหน้า อย่างไรก็ตาม LH มีแผนจะเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเพิ่มเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้นในปี 2019รวมทั้งมีแผนขายโรงแรม Grande Centre Point Thonglor ให้กับ REIT ในปี 2019ปัจจุบันโรงแรมแห่งนี้มีอัตราการเข้าพักสูงถึง 90% และมีอัตราค่าห้องพักโต 7% เราจึงมองว่าแผนดังกล่าวจะกลายเป็น upside ต่อประมาณการกำไรของเรา เรามองบริษัทมีแนวโน้มทำกำไรสม่ำเสมอและคาดจะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง 6-6.5% ในปีFY18-19

 

  5 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Change in nonfarm payrolls เดือนก.ย. โดยตลาดคาด188,000 ราย จากเดือนก่อนหน้าที่ 201,000 ราย

  5 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Unemployment rate เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 3.8% จากเดือนก่อนหน้าที่ 3.9%

  11 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข CPI MoM เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 0.2% จากเดือนก่อนหน้าที่0.2%

  12 ต.ค. : จีนประกาศตัวเลข Export YoY เดือนก.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ 9.8%

  15 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Retail Sales Advance MoM เดือนก.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่0.1%

  16 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Industrial Production เดือนก.ย. โดยตลาดคาด -0.1% จากเดือนก่อนหน้าที่ 0.4%

  17 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Housing Starts เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 1.2 ล้านยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 1.282 ล้านยูนิต

  17 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Building Permits เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 1.275 ล้านยูนิตจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.229 ล้านยูนิต

 

  PROPERTY : Sector Flash Note คำแนะนำ: Overweight

 

  กลยุทธ์ : SET Index ปรับตัวลดลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1725-1730 จุด ซึ่งเรากำหนดให้เป็นจุดขายหุ้นออก สำหรับการเข้าซื้อที่แนวรับ 1740 และ 1730จุด เนื่องจากแนวโน้มหลักกลับมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1700 จุด โดยมีแนวต้านสำคัญในระยะสั้นที่ 1740 จุด

  Indorama Ventures (IVL TB; THB 61.25) – ซื้อ

  L.P.N. Development (LPN TB; THB 10.30) – ซื้อ