เมื่อวานที่ผ่านมา SET ผันผวนสูง โดยในช่วงเช้ามีแรงซื้อเด่นในกลุ่มการเงินอย่าง MTC, SAWAD และ IVL อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายมีแรงขายเด่นในกลุ่มโรงไฟฟ้านำโดย EA, GULF, CKP, BCPG และหุ้นขนาดกลางหลายตัวเช่น STA, DOD, S, TKN ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,741.9 จุด (-6.1 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.8 หมื่นลบ. ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 6.4 หมื่นลบ.

นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 1,017 ล้านบาท (นักลงทุนสถาบันขายสุทธิเช่นกันที่ 1,566 ล้านบาท)  แต่กลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิ 2,546 สัญญา

 

  เพิ่มความระมัดระวังการลงทุนในกลุ่มอสังหา  : สัปดาห์ที่ผ่านมา คุณวิรไท ให้สัมภาษณ์ถึงความกังวลต่อแรงเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์ โดยเริ่มเห็นสัญญาณหนี้เสีย (Mortgage NPL) ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เป็น 3.39% ใน 2Q18  ล่าสุดธปท.เตรียมหารือก่อนวางแผนใช้มาตรการ Macro-Prudential ควบคู่กับ Micro -Prudential เพื่อเพิ่มความเข้มงวดออกการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ เราเห็นด้วยกับแผนการดังกล่าวและมองว่ามีโอกาสที่ธนาคารจะหันมาควบคุม Loan-to Value (LTV) ที่ปัจจุบันอยู่ในระดับสูงกว่า 90-95% ในขณะที่ต่างประเทศอยู่ในระดับเพียง 70-80% โดยเตรียมทำประชาพิจารณ์ในวันที่ 11 ต.ค. ก่อนออกเป็นมาตรการลักษณะคล้ายสินเชื่อรถยนต์ ประกอบกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธปท.ที่เริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และ ภาษีอสังหาที่มีโอกาสถูกใช้ในปีหน้า ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความเสี่ยงโดยตรงต่อกลุ่มอสังหา โดยเราประเมินอัตราการเติบโตของกำไรกลุ่มอสังหา (Coverage) ปีหน้าเติบโตเหลือต่ำเพียง 6-8% เทียบกับปีนี้ที่คาดเติบโตประมาณ 13% เป็นผลให้เราแนะนักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มนี้

  Investment Theme: ยังคงแนะนำถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% แนวรับสำคัญบริเวณ 1,730 และ 1,710 จุด และทยอยสะสมกลุ่ม Domestic เช่นกลุ่มค้าปลีกที่มีหลายปัจจัยสนับสนุน และคาดรัฐออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ (CPALL, BJC) กลุ่มก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง (TEAMG, STEC, SCCC)

 

  เมื่อคืนที่ผ่านมา –  ก.คลังเตรียมเปิดขายหน่วยลงทุน TFFIF 12-19 ต.ค. คาดอัตราผลตอบแทน 4.75-5.30% / โรงพยาบาลพระราม 9 คาด IPO ในไตรมาสสี่

 

  Trading idea – หลีกเลี่ยงการลงทุนกลุ่มอสังหา / ชะลอแรงเก็งกำไร CKP พร้อมแนะนำทยอยขายบริเวณแนวต้าน 5.30 และ 5.50 บาท , ทยอยขาย WORK งบ Q3 ไม่สวย / หลีกเลี่ยงการลงทุนกลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL / ทยอยสะสม PTTGC โดยมองว่างบ Q3 จะไม่ได้แย่เหมือนที่ตลาดเคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ คาดกำไรดำเนินงาน 1.2 หมื่นล้านบาท   (+35%YoY, + 12%QoQ) หนุนจาก Aromatic

 

 

 

  หลุด 1745 Downside เปิด แนวรับถัดไป 1730:  ดัชนีปรับตัวลงจากแรงขายกลุ่มพลังงานและค้าปลีก ทำให้ดัชนีปรับตัวลงหลุดแนวรับกรอบ Sideway ที่ 1745 พร้อม พร้อมกับ MACD ที่เริ่มตัดเส้น Signal ลงเกิดเป็นสัญญาณลบ ทำให้ Downside เปิดมากขึ้น มองแนวรับสำคัญถัดไปที่ 1730 (Neckline Double Top) เนื่องจากหลุด 1745 แนะนำ Lock Profit ในขาขึ้นรอบนี้ และชะลอการเก็งกำไรระยะสั้น จังหวะ Rebound ระหว่างวันยังมองเป็นโอกาสขายทำกำไรเช่นเดิม

  กลยุทธ์การลงทุน 1) หลุด 1745 ต้อง Lock Profit ในขาขึ้นรอบนี้ หากยังมีหุ้นหากหลุด 1740 แนะนำ Stop หรือจังหวะ Rebound ระหว่างวันยังแนะนำขาย    2)  ไม่มีหุ้น : รอดูแนวโน้มที่แนวรับ 1730 หากไม่หลุดอาจเล่น Rebound ในกรอบ 1730-1745 แต่หากหลุด 1730 แนะนำ ชะลอการลงทุน

แนวรับ : 1730, 1735 แนวต้าน : 1745, 1755

 

  ปัจจัยต่างประเทศ: Trump เตรียมเจรจาการค้าญี่ปุ่น / Worldbank ประชุม IMF เรื่องเศรษฐกิจโลก

  ปัจจัยในประเทศ:  -

 

  IVL (B 60.50-61.50, Tp 63.00//65.00, Cut 60.00)

  PTTGC (B 81.00, Tp 84.00, Cut 80.00)