ดัชนีฯหุ้นไทยเมื่อวานลงผิดคาด อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองแนวโน้มตลาดรอบนี้ ให้น้ำหนักไม่หลุด 1,730 จุด และแนวโน้มหลักจะยังคงเป็นขาขึ้น เหมือนเดิม โดยเมื่อวานหุ้นที่วิ่งสวนตลาด ล้วนแล้วแต่เป็นหุ้นเล่นแบบ One man show เช่น BLA SVI TPCH AU SGF ASAP GULF MTC STEC การขึ้นค่อนข้างกระจายตัวเล่น ไม่ได้เลือกขึ้นยกกลุ่มตาม theme (ตามที่ระบุในรายงานเมื่อวาน)

          วันนี้แนะเลือกเล่นรายตัว โดยโฟกัสไปที่ หุ้นม้า นอกสายตา (Wild cards) อาจใช้แนวโน้มทางเทคนิคนำ ในการเลือกหุ้น (เช่น เล่นตำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน) และ เน้นสะสมหุ้นที่กำลังจะมีประเด็นหนุนในระยะถัดไป เช่น แผนพัฒนาไฟฯ ฉบับใหม่ (PDP2018), การเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐาน EEC, กกพ.ชี้ขาด กรณี GLOW GPSC, การเก็งกำไรงบ 3Q18 เป็นต้น       

          ระยะสัปดาห์ คาดหุ้นไทยจะเดินหน้าขึ้นต่อ พร้อมสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 4 เดือน (แม้เมื่อวานจะลง แต่ยังไม่หมดหวัง) โดยปัจจัยหนุนจะมาจาก การเก็งดัก คาดการณ์ผลการดำเนินงาน บจ.ไตรมาส 3/18 โดยนักลงทุนจะเริ่มให้ความคาดหวังกับงบที่ทยอยประกาศตลอดทั้งเดือนนี้ ไปถึงกลางเดือนหน้า ซึ่งจะมีผลต่อราคาหุ้นรายตัว และเป็นประเด็นหนุนบรรยากาศการลงทุน (อย่างน้อยทำให้รู้ว่าซื้อหุ้นไปแล้ว เราจะคาดหวังอะไรจากหุ้นตัวนั้นได้) และสภาพคล่องที่กันเงินไว้จองหุ้น IPO อย่าง OSP คาดว่าจะกลับมาหลังจากรู้ผลจอง  

 

          (+) รัฐบาลจีน จะปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าสิ่งทอและโลหะ รวมทั้งสินค้ากลุ่มเหล็ก ลงมาเหลือ 8.4% จากระดับปัจจุบันที่ 11.5% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ปีนี้

          ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.ค. จีนได้ปรับลดภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าของใช้ประจำวันมาแล้วหลายประเภท รวมทั้งเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ของใช้ไฟฟ้าในบ้าน และเครื่องออกกำลังกาย เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายที่จะเปิดตลาดจีนให้กว้างขึ้น

          ประกาศของกระทรวงการคลังกล่าวว่า ภาษีนำเข้าสำหรับสินค้ากลุ่มไม้ และ กระดาษ แร่ธาตุ และ แร่อัญมณี จะปรับลดลงมาที่ 5.4% จาก 6.6% โดยอัตราเฉลี่ยของภาษีนำเข้าสำหรับสินค้ามากกว่า 1,500 กลุ่ม จะลดลงมาเหลือ 7.8% จาก 10.5%    

          (+) สหรัฐฯได้บรรลุข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับแคนาคา แล้ว โดยข้อตกลงระหว่าง สหรัฐฯ เม็กซิโก แคนาดา ฉบับใหม่ ที่เรียกว่า USMCA จะเข้ามาแทนที่ NAFTA ซึ่งถูกใช้มานานกว่า 24 ปี 

 

          MBK  กำหนดเปิด ไอคอนสยาม แล้ว 10 พ.ย.นี้

 

          เรามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นหลังจากแบงค์ชาติให้แนวทางที่ชัดเจนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 1) เพดานดอกเบี้ยที่ 28% ซึ่งสูงกว่าปัจจุบันที่บริษัทคิดลูกค้าที่ 23% 2) ต้องมีทุนจดทะเบียนมากกว่า 50 ล้านบาท เรามองว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้สินเชื่อ MTC โตได้ดีกว่าเดิม เพราะผู้ประกอบการรายอื่นๆในตลาดที่ยังไม่เข้าเกณฑ์ยังมีอีกมาก ซึ่งเรามองว่าลูกค้าจะหันมาใช้ MTC ดังนั้นเราปรับ loan growth ขึ้น และปรับกำไรขึ้น 7% เป็น 3.7 และ 4.8 พันล้านบาทในปี 2018-19 ตามลำดับ และ roll over ราคาเป้าหมายไปอิงปี 2019 ที่ 65 บาท แนะนำ ซื้อ

 

          เราคาดกำไร 3Q18 ที่ 8 พันล้านบท เพิ่มขึ้น 7%YoY และ ทรงตัว QoQ เราคาดรายได้ค่าบริการเพิ่มขึ้น 3.8%YoY และ 0.7%QoQ เราเริ่มเห็นการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นทั้งจากโทรศัพท์มือถือ และ fixed broadband ซึ่งจะกดดันให้ ARPU เพิ่มขึ้นได้ไม่มาก แต่ที่กำไรยังโตได้เพราะการคุมต้นทุนที่ดี นอกจากนี้เราไม่คิดว่าบริษัทจะเข้าประมูลคลื่น 900 MHz ใบใหม่ เราแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 225 บาท บนเงินปันผล 4%

 

          เรามองว่าราคาหุ้นจะสามารถยืนได้ในระดับสูงต่อเนื่องในระยะสั้นหนุนโดย 1) โอกาสที่จะมีการปรับเพิ่มสัดส่วน renewable capacity ในแผน PDP ใหม่, 2) โอกาสการลงทุนในเวียดนามหลังจากมีการขยายเวลา COD ที่ Ninh Thuan และการปรับค่าไฟขึ้น และ 3) คาดกำไรใน 3Q18 เติบโตแข็งแกร่งจากการขายการลงทุนและปัจจัยด้านค่าเงิน เรายังคงคำแนะนำ ถือ Let profit run จนถึงหลังการประกาศงบ 3Q18

 

          (+)ก.อุตสาหกรรม เร่งเครื่องกำหนดออก TOR 4 (จากทั้งหมด 5 โครงการ) ขีดเส้นประมูลจบในรัฐบาลนี้ : โครงการโครงสร้างพื้นฐาน อีอีซี มูลค่างานราว 4 แสนล้านบาท และ โครงการวางระบบอินเตอร์เน็ต 4G มูลค่าประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท เตรียมเสนอบอร์ด กพอ. เห็นชอบในวันที่ 4 ต.ค. นี้ และจะนำเข้า ครม.ในวาระต่อไป (โพสต์ทูเดย์ระบุ TOR4 โครงการ เข้า ครม 16 ต.ค.) หุ้นเชื่อมโยง WHA AMATA WHAUP GULF BGRIM GPSC EASTW 

          (+) ครม.เห็นชอบมาตรการพักหนี้เกษตรกร สามารถผ่อนเงินต้นแค่ครึ่ง นาน 15 ปี ใช้เงิน 6 พันล้านบาท อุ้ม 3.6 หมื่นราย (ที่มา เดลินิวส์) 

          (+) MBK  ไอคอนสยามเปิด 10 พ.ย. นี้ (ที่มา มติชน) / 4 บิ๊ก อีเวนต์รับงาน จัดแสดงงานเปิดตัว     

          (-) "แบงก์ชาติ" เตรียมออกมาตรการคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เร่งหารือ ผู้เกี่ยวข้อง พร้อมเปิดรับฟังความเห็น เร็วๆนี้ หวังสกัดการเก็งกำไรป้องกันหนี้เสียลาม  ด้านสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัยหนุนออกมาตรการคุม ยอมรับ "แอลทีวี" ผ่อนปรนเกินไป หวั่นสร้างปัญหาต่อระบบในระยะข้างหน้า ขณะ ศูนย์วิเคราะห์ทีเอ็มบี ชี้การปล่อยแอลทีวีระดับสูงส่งผลต่อหนี้เสียเพิ่ม จับตาบ้านหรู กลุ่ม 10-20 ล้าน เอ็นพีแอลพุ่งมากสุด (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)