- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 03 October 2018 21:18
- Hits: 8613
บล.โนมูระพัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“Selective Play”
CNS Daily Strategy: คาดตลาด “ย่อแล้วดีด” 1758/1762จุด รับ 1741/1735จุด แม้ตลาดจะย่อตัวผิดคาดวานนี้ แต่พื้นฐานของไทยยังดี หลังฟิทซ์ประเมินภาคธนาคารและเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง รองรับการปรับนโยบายดอกเบี้ยของสหรัฐฯได้ ผสานราคาน้ำมันยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น น่าจะทำให้ตลาดยังมีแรงพยุงในแนวโน้มหลักขาขึ้นได้ กลยุทธ์จึงเน้นหุ้นที่มีปัจจัยหนุนรายตัว วันนี้แนะนำ Theme “Selective Play” : TMB, GUNKUL, STEC
Nomura : Key Factors
(+) US: Jerome Powell ยังส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยยังเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไปและไม่ได้เร่งตัว
(*)US: ติดตามการรายงานสต็อกน้ำมันของ API คืนนี้ Consensus คาดเพิ่มเล็กน้อยราว 9.07แสนบาร์เรล
(*)US: ติดตามการรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ โดย ADP ตลาดคาด 1.84 แสนราย
(*) Ex Factor: วันนี้ติดตาม เทเรซ่า เมย์ นายกฯ อังกฤษแถลงความคืบหน้าเรื่อง BREXIT
(+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ Brent –0.21% สู่ 84.8 $/bbl
(*) Fund Flow:ล่าสุดขายหุ้น -3274 ลบ., Short Future -6032 สัญญา, ซื้อ Bond +5188 ลบ.
Nomura Daily Top Picks: TMB, GUNKUL, STEC
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “ย่อแล้วดีด” ต้าน 1758/1762จุด รับ 1741/1735จุด วานนี้นาย Jerome Powell ประธานเฟด ยังส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยยังเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไปและไม่ได้เร่งตัว หลังประเมินว่าเฟดใช้นโยบายการเงินนำตลาดที่ค่อนข้างเหมาะสม ทำให้เงินเฟ้อและอัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ สอดคล้องกับ Nomura คาดเฟดจะปรับขึ้นในปีนี้อีก 1 รอบ และปีหน้าเพียง 2 รอบ เป็นปัจจัยหนุนสินทรัพย์เสี่ยง สอดคล้องกับ ฟิทช์ ที่ประเมินภาคธนาคารของประเทศภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังแข็งแกร่ง และรับมือกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯอย่างค่อยเป็นค่อยไปได้ โดยเฉพาะภาคธนาคารไทยที่ยังแข็งแกร่งทั้งเงินกองทุนและสภาพคล่อง เช่นเดียวกับเศรษฐกิจไทยที่คาดว่า GDP ไทยปีนี้จะเติบโตสูง 4.4% ทำให้ตลาดหุ้นไทยน่าจะมีแรงพยุงในทิศทางขาขึ้นต่อเนื่อง สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามคืนนี้ 1) วันนี้เทเรซ่า เมย์ นายกฯ อังกฤษ จะแถลงความคืบหน้าเรื่อง BREXIT น่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด 2) การรายงานสต็อกน้ำมันของ API คืนนี้ Consensus คาดเพิ่มเล็กน้อยราว 9.07แสนบาร์เรล เป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันดิบ BRENT น่าจะยืนเหนือ 83 เหรียญ 3) การรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ โดย ADP ตลาดคาด 1.84แสนราย และ 4) ปัจจัยภายใน ธปท. เตรียม Hiring การควบคุมการเก็งกำไรคอนโดหลังที่ 2 ซึ่งประเด็นนี้กระทบจิตวิทยาการลงทุนกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย แต่บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่เน้นเงินดาวน์สูง น่าจะช่วยให้คุณภาพของ Backlog(โครงการรอโอน) ไม่มีปัญหา โดยหุ้นเด่นที่เราแนะนำในกลุ่มนี้ คือ SC, GOLD, AP
Asset allocation : หุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : ถือหุ้น 75% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play BBL, KBANK, TMB, CPALL, ROBINS, ADVANC, CK, STEC, PYLON, AMATA, GOLD, SC, ERW, BH, และ Global Play (PTT, PTTEP) วันนี้เน้น “Theme “Selective Play”
ราคาน้ำมันดิบ BRENT แกว่ง 85+/- เหรียญฯต่อบาร์เรล หนุน PTT, PTTEP เด่น
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน คาดเข้าซื้อขายปลายต.ค. ผสาน TOR 4 โครงการเร่งด่วน (มาบตาพุดเฟส 3, แหลมฉบังเฟส 3, สนามบินอู่ตะเภา, ศูนย์ซ่อมอู่ตะเภา) ซึ่งมีกำหนดนำเข้าบอร์ด EEC 4 ต.ค.นี้ หนุนอิงการลงทุนฟื้นรอบใหม่ STEC, AMATA, CK, TOA, PYLON
CPALL(TP92) เคาเตอร์เซอร์วิสได้รับสิทธิเป็นผู้บริหารให้บริการคืน VAT นักท่องเที่ยว ผสาน Banking Agent และกำลังซื้อภาคเกษตรฟื้นตัวเด่น
กระทรวงการท่องเที่ยวอนุมัติมาตรการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจีนชั่วคราว “Double entry visa” และลุ้นการช่วยเหลือเพิ่มเติมหลังการประชุมแก่ส่วนที่เกี่ยวข้อง 18 ต.ค.
กลุ่ม รฟฟ เด่นการเติบโต เน้น GULF(เก็งเข้า MSCI พย นี้) BGRIM PSTC BWG
Health Update ช่วง Seasonal จะหนุนกลุ่ม รพ BH(TP235) และ BDMS(TP31.2)
Oct top picks : AMATA GUNKUL PTT TMB SC STEC
Road to Election 2019 : PTT, PTTEP, BBL, KBANK, TMB, CPALL, ROBINS, ADVANC, STEC, AMATA, SC, GOLD, PLANB
2H18 Theme Domestic : Election play when oil surge
Best Picks 2H18 : PTT, IVL, BBL, KBANK, CPALL, CK, STEC, SEAFCO, PYLON, AMATA, GOLD
1. Index Driver : PTT, BBL, KBANK, CPALL, PTTEP, IVL
2. Government Spending : STEC, CK, PYLON, SEAFCO, AMATA, ROJNA, SCC
3. Property : GOLD, SC
4. Tourism & Transport : ERW, BTS
5. Global Play : IVL, PTL
6. ICT : ADVANC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
GUNKUL (TP19F 4.46*) Support 3.24/3.2 Resistant 3.3/3.34
Theme: Earnings Play
Earning outlook: ประเมินผลประกอบการผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้วใน 1H18 และคาดฐานกำไร 3Q18F จะทำ New record high รายไตรมาสที่ 453 ลบ. (+223% y-y, +275% q-q) จากโรงไฟฟ้าพลังงานลมถึง 170 MW (WED 60 MW, KWE 50 MW และ GNP 60 MW) จะรับรู้รายได้เต็มไตรมาส และมีโมเมนตัมดีต่อเนื่องถึง 1Q19F จากจะมีโครงการ Solar ทยอย COD อีก 70 MW (SENDAI 32 MW เริ่ม 4Q18F + KIMITSU 38 MW เริ่ม 1Q19F)
Valuation: เป็นจุดลงทุนที่ดีมาก อยู่ในโซน Deep valuation มี PER19F 14x เทียบ GULF/EA/BGRIM ที่สูง 23-41x และราคายัง Laggard กลุ่มมาก โดย YTD ยัง -27% + ราคามี Downside จำกัด ทั้งจากการซื้อหุ้นคืน (เหลือโควต้าซื้อได้อีกราว 200 ล้านหุ้น) และราคานี้ยังต่ำกว่าราคา Big lot ตอน มิ.ย. 17 @ 4.1 บาท
Catalyst: แนวโน้มธุรกิจเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ความเสี่ยงธุรกิจและความผันผวนลดลง จากฐานกำไร Recurring income เพิ่มขึ้นเป็น 70% + คาดแนวโน้ม Earning momentum จะเป็นฐานกำไรที่สูงไปถึง 1Q19F
STEC (TP19F 32.0*): Support 24.6/24.4 Resistant25.25/26
Theme: Investment related Play
Earnings Outlook: คาด 2H18F จะเด่นกว่า 1H18 มาก เติบโตสูงต่อเนื่องทั้ง y-y และ h-h ตามรายได้ก่อสร้างที่เร่งขึ้นจากงานรถไฟฟ้าสายสีส้ม และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และเหลืองที่ส่งมอบพื้นที่และเริ่มเร่งก่อสร้าง และเป็นงาน Margin ดี นอกจากนี้มี Backlog secure รายได้ถึง 2020F
Valuation: ยัง under own โดยซื้อขายเพียง P/BV19F 2.93x ยังเหมาะสมจากความสามารถในการทำกำไรสูง, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง upside เปิดกว้าง 30%
Catalyst: ภาพระยะกลางยาว ได้ประโยชน์จากการลงทุนรอบใหญ่โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและEEC สอดรับกับภาพระยะสั้นที่คาดรัฐจะเร่งงานประมูลออกมาก่อนเลือกตั้ง (รถไฟ High speed เชื่อม 3 สนามบิน, รถไฟฟ้าสีส้ม, รถไฟทางคู่, มาบตาพุดเฟส 3 ฯลฯ) + คาดไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์เปิดขายปลาย ต.ค.18 นี้ หนุน Sentiment กลุ่มอิงการลงทุน
TMB (TP19F 2.5*): Support 2.32/2.3 Resistant 2.38/2.44
Theme: Laggard play
Earnings Outlook: เราคาดกำไรสุทธิผ่านจุดต่ำสุดแล้ว โดย 3Q18F คาดทยอยฟื้นตัวอยู่ที่ 2.15 พันลบ. (+2% y-y, +6% q-q) จากสินเชื่อฟื้นตัว, สำรองทรงตัว และคาดกำไร 4Q18F ยังเป็นภาพเติบโต y-y, q-q และต่อเนื่องใน 2019F ที่ +11% y-y นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยี จึงพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิตัลของกลุ่มธนาคาร
Valuation: ราคาหุ้น Laggard กลุ่ม Bank โดย YTD -23% VS กลุ่ม -3.2% ตอบรับการลดประมาณการของตลาดก่อนหน้านี้ไปแล้ว และยัง Under-owned อยู่มาก โดยราคาปัจจุบันเป็นโซนซื้อที่ได้เปรียบ PER19F 11 เท่า และ PBV19F เพียง 1.1 เท่า โดยหลังปี 2010 เป็นต้นมา PBV Zone 1.0-1.1เท่า คือจุดซื้อในเชิงพื้นฐานที่ดีที่สุดของ TMB เกิดขึ้น 4 ครั้งในช่วง 8 ปีหลัง และมักให้ผลตอบแทนที่ดีจากการซื้อหุ้นที่ Zone นี้
Catalyst: ยอดสินเชื่อแก่ลูกหนี้สุทธิเดือนส.ค.18 เติบโตในอัตราเร่งที่สุดในปีนี้ +1.5% m-m ฟื้นตัวโดดเด่น เป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการใน 2H18 + สถิติกลุ่ม Bank มัก Outperform ก่อนเลือกตั้ง 6-9 เดือน + ดอกเบี้ยช่วงถัดไปจะกลับทิศสู่ขาขึ้นบวกต่อ Bank
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2081-2771
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2081-2783
OO14566