บรรยากาศการลงทุนหุ้นยุโปรและสหรัฐฯ เป็นบวกมากขึ้นหลังสหรัฐฯ-แคนาดา-เม็กซิโกบรรลุข้อตกลงการค้า USMCA เพื่อใช้แทนที่ข้อตกลง NAFTA อย่างไรก็ตามการทำข้อตกลงแบบไตรภาคี ที่ไม่ได้มีเงื่อนไขแบบเสมอภาคและเป็นการทั่วไป อาจทำให้ตลาดกังวลต่อการกีดกันทางการค้า และก่อบรรยากาศเชิงลบต่อตลาดเกิดใหม่ (EM)  ทั้งนี้ค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น เป็นอีกปัจจัยที่อาจสร้างแรงกดดันต่อตลาดเอเชียเช้านี้

  สำหรับตลาดหุ้นไทย ยังมองภาพใหญ่คือการลุ้นขึ้นทดสอบ 1780-1800 จุด ตามลำดับ แต่ในระยะสั้นตลาดเสี่ยงต่อการปรับลงจากแรงทำกำไร อย่างไรก็ตามอานิสงค์จากราคาน้ำมันที่ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องและหนุนจิตวิทยาการเก็งกำไรกลุ่มพลังงาน คาดช่วยประคองการปรับตัว กลยุทธ์ยังคงเป็นการทยอยสะสมกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเลือกตั้งและการบริโภคภายในประเทศ อาทิ ค้าปลีก ธนาคาร รับเหมาฯ ทั้งนี้ผลจากวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น จะทำให้หุ้นในกลุ่มที่ซื้อขายไม่แพง Outperform ตลาดกว่าหุ้นที่ PER สูง ยังชอบ BANPU, AEONTS*, PSH, EGCO, RATCH, SCB, KTB, PTT, PTTEP ขณะที่หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น เลือก TKN*, PM*, TTA*, PSL*, SCN*, NNCL* // หุ้นที่ราคายังขึ้นน้อย (laggard) เมื่อเทียบกับตลาด+แนวโน้มผลการดำเนินงานเป็นบวก อาทิ GFPT, CPF, MAJOR, CPALL, CK

  Investment Theme หุ้นใหญ่และกลุ่มหุ้นเลือกตั้ง BBL, SCB, STEC, CPALL, PTT, PTTEP/ หุ้นเล็กที่น่าสนใจ GUNKUL*, PSTC*, DTC*, EASTW*, AEONTS* / หุ้นกระแสเงินสดมั่นคง-ปันผล CPNREIT, CPN, PSH, AP, SPF*, EA, BCPG / กลุ่มการแพทย์ BDMS, BH, CHG, BCH / 

  ภาพรวมกลยุทธ์: ค่าเงินสหรัฐฯแข็งกดตลาดช่วงสั้นแกว่งตัวลง ก่อนเดินหน้าขึ้นทดสอบ 1780-1800 ถือหุ้นที่มี หรือทยอยสะสมหุ้นใหญ่ รวมทั้งสามารถเลือกเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก  // หุ้นแนะนำวันนี้ CPALL, PTTEP / เก็งกำไร JWD* (เป้า 9.50 ตัดขาดทุน 7.80), NNCL* (เป้า 2.10 ตัดขาดทุน 1.80)

  แนวรับ 1750 / แนวต้าน : 1762-1780 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%

 

  ท่องเที่ยว - กระทรวงต่างประเทศ พร้อมหนุนมาตรการวีซ่า "ดับเบิล เอ็นทรี่ วีซ่า" ยื่นขอวีซ่าเข้าไทย 1 ครั้ง เดินทางได้ 2 ครั้ง กระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีน เตรียมถกหน่วยงานเกี่ยวข้องสางปัญหาตลาดจีน 18 ต.ค.นี้ 

  จี้ฟิทช์ปรับเรทติ้งไทย – เศรษฐกิจโตสมดุล - "สมคิด" จี้ "ฟิทช์" ปรับเพิ่ม เรทติ้งไทย หลังเศรษฐกิจโตต่อเนื่อง สร้างสมดุลดีขึ้น การเมืองชัดเจน ย้ำไม่แฟร์ หากมองแต่ปัจจัยการเมือง 

นิคมอุตสาหกรรม - อานิสงส์พิพาทสหรัฐ-จีนทำย้ายฐานผลิต หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดออกทีโออาร์ 4 โครงสร้างพื้นฐานอีอีซีในเดือน ต.ค.นี้ พร้อมเตรียมข้อมูลเสนอบอร์ด กพอ.เห็นชอบในวันที่ 4 ต.ค.นี้ พร้อมเตรียมแผนพัฒนาสมาร์ท ซิตี้

  ตลท. พิจารณาแก้เกณฑ์ SP - ตลาดหลักทรัพย์เล็งแก้เกณฑ์เครื่องหมาย "เอสพี" เปิดโอกาสผู้ลงทุนขายหุ้นได้ กรณีไม่ยอมชี้แจงข้อมูล ชี้ถือเป็นสัญญาณที่พิจารณาได้ว่าบริษัทเริ่มมีปัญหา ขณะ ข้อมูลเพียงพอต่อการตัดสินใจแล้ว เผยอยู่ระหว่างเฮียริ่งผู้เกี่ยวข้อง

  สื่อสาร - กสทช. เปิดให้รับคำขอใบอนุญาตประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz เมื่อ 1 ต.ค. โดยบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ DTAC เข้ารับคำขอเป็นรายแรก

 

ประเด็นติดตาม: 2 ต.ค. – ประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์/ 6 ต.ค. – บอร์ดกพอ.พิจารณา TOR 4 โครงสร้างพื้นฐาน EEC/ 6 ต.ค. – ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)

 

2 ต.ค. – ประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์

6 ต.ค. – ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ  

1-5 ต.ค. – วันชาติจีน (national day)

 

 

CPALL (84) : หุ้น top pick ในกลุ่มค้าปลีก ราคาที่ปรับลดลงสะท้อนการชะลอตัวของผลการดำเนินงานไปแล้ว ขณะที่ลงมาถึงโซนซื้อ 63-67 ทำให้มีโอกาสเข้าสู่จุดฟื้นตัว/ซื้อกลับโดยนักลงทุน อีกทั้งได้ประโยชน์จากสัญญาณการบริโภคที่ฟื้นตัว

PTTEP* (170) : ได้อานิสงค์จากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ทำให้มีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการจากราคาพื้นฐานที่ 151 บาท อาจเพิ่มได้จาก 1) เพิ่มราคาน้ำมันอีก 5 เหรียญ 7 บาท และชนะประมูลได้แหล่งผลิดเพิ่ม มีผลต่อราคาเหมาะสม 20-27 บาท ทำให้หุ้นมีโอกาสถูกผลักดันขึ้นทดสอบ 170-180 บาท

JWD* (9.50) : เก็งกำไรแบบตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 7.80 บาท

NNCL* (2.10) : เก็งกำไรแบบตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 1.80 บาท

หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ: กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ / SSP*, AEONTS*, EGCO, GULF*, EA*, TTA*, PSL*, SCN*, CNT*, NNCL* (ควรตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5%)