เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มปตท. นำโดย PTT, PTTEP, PTTGC กลุ่มนิคมอย่าง WHA, AMATA และหุ้นขนาดกลางอย่าง S, STA, THAI, HUMAN อย่างไรก็ตาม หุ้นการท่องเที่ยวและโรงกลั่นเผชิญกับแรงขายอย่าง AOT, CENTEL, IRPC, TOP ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,760.4 จุด (+4.0 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.3 หมื่นล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 5.7 หมื่นล้านบาท

  นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ที่ 474 ล้านบาท (นักลงทุนสถาบันพลิกกลับมาขายสุทธิเช่นกันที่ 132 ล้านบาท)  พร้อมเปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิ 2,848 สัญญา

 

  จีนหันพึ่งพึงการบริโภคในประเทศ สหรัฐหันมาพันธมิตรใหม่  : ภายหลังเข้าสู่ภาวะการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ทั้ง 2 ประเทศยังไม่มีท่าทีจะยอมถอย โดยล่าสุดจีนได้หันพึ่งการบริโภคและการลงทุนในประเทศ ด้วยการปรับแผนภาษีบุคคลธรรมดา (สำหรับคนจีนที่เงินเดือนอยู่ระหว่าง 5,000-20,000 หยวนต่อเดือน ปรับลดฐานภาษีมากกว่า 50%) อีกทั้งเตรียมปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ โดยมีการคาดการณ์ไว้ว่าจะสามารถบรรเทาผลกระทบจากต้นทุนที่ลดลงมากกว่า 6.0 หมื่นล้านหยวน คาดมีผลในวันที่ 1 พ.ย. ในขณะที่สหรัฐเองก็หันสร้างพันธมิตรใหม่ในการระบายสินค้า ล่าสุดเซ็นข้อตกลงสนธิสัญญาการค้าใหม่กับแม็กซิโกและแคนาดา อีกทั้งสามารถบรรลุข้อตกลงกับเกาหลีใต้สำเร็จ การกระทำดังกล่าวเหมือนเป็นการส่งสัญญาณอ้อมๆ แสดงถึงท่าทีที่ยังไม่ยอมถอยจากทั้ง 2 ฝั่ง โดยเราแนะนักลงทุนจับตาการประเมินผลกระทบต่อการค้าโลกและเศรษฐกิจโลก จาก World Bank และ IMF ในสัปดาห์หน้า   

  Investment Theme: เดือนตุลาคมเราประเมินกรอบ SET บริเวณ 1,740 -1,780 โดยยังคงแนะนำถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% และทยอยสะสมกลุ่ม Domestic เช่นกลุ่มค้าปลีกที่มีหลายปัจจัยสนับสนุน และคาดรัฐออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ (CPALL, BJC) กลุ่มก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง (TEAMG, STEC, SCCC)

 

  เมื่อคืนที่ผ่านมา –  พาณิชย์รายางานเงินเฟ้อเดือนก.ย.ที่ 1.33% / Brent ปรับตัวขึ้นที่ 85 เหรียญ/ บาร์เรล ค่าการกลั่นปรับขึ้น 6.3% ที่ 6.19 เหรียญ

  คาด Demand ปูนไตรมาส 3 กลับมาฟื้นตัวเด่นอีกครั้งในรอบหลายไตรมาส โดยคาดเติบโตระดับ 5-6% ภายหลังติดลบ 2.3% ในช่วงต้นปี ด้านราคาขายปูนก็สามารถปรับขึ้นเช่นกัน บริเวณ 2%YoY เป็นผลให้เราคาดGPM(%) เติบโตสูงเป็น 37.5% จากระดับ 33% ในปีก่อน คาดกำไร 3Q18 เติบโตเด่นกว่า 80%YoY ที่ 1.1 พันล้านบาท

  ตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งจะขับเคลื่อนด้วยโครงการก่อสร้างระบบขนส่งพื้นฐาน การลงทุนจากภาคเอกชน และ โครงการอสังหาริมทรัพย์  ส่วนตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มจะโตดีต่อเนื่อง  โดยมีสัดส่วนยอดขายในประเทศ 55%  และต่างประเทศ 45%  คาดจะช่วยหนุนให้ยอดขายของ SCCC

  แนะนำเก็งกำไรกรอบ 280.0 บาท พร้อมปันผลสูงกว่า 4.7%

  Trading idea – เก็งกำไร PORT แนวต้าน 7.60 บาท / เก็งกำไร CPALL กรอบ 73-75 บาท / ชะลอแรงเก็งกำไร CKP พร้อมแนะนำทยอยขายบริเวณแนวต้าน 5.30 และ 5.50 บาท , ทยอยขาย WORK งบ Q3 ไม่สวย

 

 

 

  ลุ้น Break กรอบ Sideway ที่ 1765 เพื่อแกว่งขึ้นต่อ:  แรงซื้อหลักจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ทำให้ดัชนีเปิดโดดและทรงตัวอยู่ด้านบนตลอดทั้งวัน ระหว่างวันปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1765 แต่ยังไม่สามารถผ่านได้ ระยะสั้นเรายังคาดหวังการ Break แนวต้านกรอบ Sideway ที่ 1765 เพื่อลุ้นการแกว่งตัวขึ้นตามแนวโน้มหลักที่ยังเป็นขาขึ้น มองแนวต้านถัดไปที่ 1775 และ 1790-1800 (Target Double Bottom) ยังมองว่าจังหวะอ่อนตัวหากไม่หลุด 1750 ยังน่าทยอยสะสมตามแนวรับเพื่อ Trading ระหว่างวัน กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Trading ในกรอบ 1750-1775 และพิจารณาแรงขายที่แนวต้าน 1765 และ 1775 เพื่อขายทำกำไรเล่นรอบ   2)  ไม่มีหุ้น : หากอ่อนตัวไม่หลุด 1750 แนะนำทยอยสะสม เพื่อ  Trading ในกรอบ 1750-1775

  แนวรับ : 1745, 1750 แนวต้าน : 1765, 1775

  ปัจจัยต่างประเทศ: Trump เตรียมเจรจาการค้าญี่ปุ่น / Worldbank ประชุม IMF เรื่องเศรษฐกิจโลก

 

  PTTEP(B 157.00-159.00, Tp 165.00//170.00, Cut 155.00)

  MINT (B 41.00, Tp 43.50, Cut 40.00)