CNS Daily Strategy: คาดตลาด “Sideway Up” 1759/1766จุด รับ 1742/1736จุด FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ 2.0-2.25% ตามคาด และส่งสัญญาณจะขึ้นดอกเบี้ยอีก1ครั้งในเดือนธ.ค. แต่รอบนี้ FED ได้ตัดข้อความ "Accommodative" ออกไป ทำให้ตลาดกังวลว่านโยบายการเงินจะ Hawkish ขึ้น ทั้งนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED แถลง ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินแต่อย่างใด สะท้อนทิศทางดอกเบี้ยยังค่อยเป็นค่อยไป เป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง วันนี้แนะนำ Theme “Thailand Future Fund Play” : STEC, CK, AMATA

 

 

(*) US: ผลการประชุม FOMC วานนี้มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.0-2.25%

(+) US: รอบนี้ FED ได้ตัดข้อความ "Accommodative" ออกไป ทำให้ตลาดกังวลว่านโยบายการเงินจะ Hawkish ขึ้น ทั้งนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED แถลง ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินแต่อย่างใด

(+) OIL: สัญญาน้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้ายังคงปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

(+) Trade: สหรัฐฯและญี่ปุ่นเตรียมเจรจาทางการค้า ลดความเสี่ยงสงครามการค้า

(*) TH: แนะระวังความผันผวนในช่วงท้ายตลาด จากการ Rollover S50U18 สู่ S50Z18

(*) Fund Flow:ล่าสุดซื้อหุ้น+82ลบ., Short Future-11,257สัญญา, ซื้อBond +2,588

Nomura Daily Top Picks: STEC, CK, AMATA

 

Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway Up” ต้าน 1759/1766จุด รับ 1742/1736จุด ผลการประชุม FOMC วานนี้มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.0-2.25% ตามที่ Nomura และ Consensus คาด ขณะที่ส่งสัญญาณจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในเดือนธ.ค. ส่งผลให้ FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้ ส่วนในปี 2019 FED ยังคงส่งสัญญาณจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นกลางต่อตลาด เนื่องจากตลาดมีการตอบรับกับโอกาสดังกล่าวไปค่อนข้างมากแล้ว ทั้งนี้ สิ่งที่แตกต่างจากการประชุม FOMC ครั้งก่อน คือ FED ได้ตัดข้อความ "จุดยืนด้านนโยบายการเงินของเฟดยังคงมีความผ่อนคลาย (Accommodative)" ออกไป ทำให้ตลาดกังวลว่านโยบายการเงินจะ Hawkish ขึ้น แต่ล่าสุด นายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED แถลง ว่าไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังไม่เห็นภาพเงินเฟ้อที่เร่งตัวกว่าคาดหมาย สะท้อนทิศทางดอกเบี้ยยังค่อยเป็นค่อยไป และเป็นภาพ “Dovish” เป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง ส่วนทางฝั่งของมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ เริ่มมีสัญญาณบวก หลังสหรัฐฯและญี่ปุ่นเตรียมเจรจาทางการค้า ลดความเสี่ยงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับประเทศคู่ค้าลงได้ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้ายังคงปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง รับ supply ในตลาดน้ำมันดิบโลกทีจำกัด คาดหนุนกลุ่มพลังงานนำตลาดได้ต่อ ทั้งนี้ แนะระมัดระวังความผันผวนในช่วงท้ายตลาด(15.30-16.30น.) จากการ Rollover S50U18 สู่ S50Z18

 

 

Daily Strategy : ถือหุ้น 75% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play BBL, KBANK, TMB, CPALL, ROBINS, ADVANC, CK, STEC, PYLON, AMATA, GOLD, SC, ERW, BH, และ Global Play (PTT, PTTEP) วันนี้เน้น “Theme “Thailand Future Fund Play”

 

28ก.ย.นี้ จะมีสรุปข้อมูล IPO กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หนุนอิงการลงทุนฟื้นรอบใหม่ STEC, AMATA, CK, TOA, PYLON

CPALL(TP92) การแปลง Bond บางส่วนถือเป็นปัจจัยบวก ผสาน Banking Agent และกำลังซื้อภาคเกษตรฟื้นตัวเด่น/AOT เดินหน้าแบบก่อสร้างเฟส2 และดิวตี้ฟรี

ราคาน้ำมันดิบเหนือ 81เหรียญฯ หนุน PTT, PTTEP, PTTGC เด่น

รัฐเร่งแผนประมูล TOR 4 โครงการเร่งด่วน (มาบตาพุดเฟส 3, แหลมฉบังเฟส 3, สนามบินอู่ตะเภา, ศูนย์ซ่อมอู่ตะเภา) ให้ทัน ต.ค. นี้ มูลค่า 3.75 แสนลบ. เพิ่มเติมจากโครงการเชื่อม 3 สนามบิน (ยื่นซอง 12 พ.ย.) แนะนำ  AMATA, STEC

กลุ่ม รฟฟ เด่นการเติบโต เน้น GULF(เก็งเข้า MSCI พย นี้) BGRIM PSTC BWG

Health Update ช่วง Seasonal จะหนุนกลุ่ม รพ BH(TP235) และ BDMS(TP31.2)

Portfolio Top Picks SEP 2018 แนะนำ AMATA, AOT, BH, CPALL, TMB, TOA, AMANAH

Road to Election 2019 : PTT, PTTEP,  BBL, KBANK, TMB,  CPALL, ROBINS, ADVANC,  STEC, AMATA, SC, GOLD, PLANB

2H18 Theme Domestic : Election play when oil surge

 

Best Picks 2H18 : PTT, IVL, BBL, KBANK, CPALL, CK, STEC, SEAFCO, PYLON, AMATA, GOLD

1.  Index Driver : PTT, BBL, KBANK, CPALL, PTTEP, IVL

2. Government Spending : STEC, CK, PYLON, SEAFCO, AMATA, ROJNA, SCC

3. Property : GOLD, SC

4. Tourism & Transport : ERW, BTS

5. Global Play : IVL, PTL

6. ICT : ADVANC

 

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :

 

STEC (TP19F 32*):  Support 24.0/23.3 Resistant 25.25/26.0

 

Earnings Outlook: คาด 2H18F จะเด่นกว่า 1H18 มาก เติบโตสูงต่อเนื่องทั้ง y-y และ h-h ตามรายได้ก่อสร้างที่เร่งขึ้นจากงานรถไฟฟ้าสายสีส้ม และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และเหลืองที่ส่งมอบพื้นที่และเริ่มเร่งก่อสร้าง นอกจากนี้มี Backlog secure รายได้ถึง 2020F

Valuation: มองราคาหุ้นพักฐานระยะสั้นเสร็จแล้ว และลุ้นกลับมานำตลาดกลุ่มอิงการลงทุนต่อ + ยัง under own โดยซื้อขายเพียง P/BV19F 2.91x ยังเหมาะสมจากความสามารถในการทำกำไรสูง, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง upside เปิดกว้าง 31%

Catalyst: ภาพระยะกลางยาว ได้ประโยชน์จากการลงทุนรอบใหญ่โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและEEC  สอดรับกับภาพระยะสั้นที่คาดรัฐจะเร่งงานประมูลออกมาก่อนเลือกตั้ง (รถไฟ High speed เชื่อม 3 สนามบิน, รถไฟฟ้าสีส้ม, รถไฟทางคู่, มาบตาพุดเฟส 3 ฯลฯ) + พรุ่งนี้จะมีการให้ข้อมูล ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์อย่างทางการ และคาดเปิดขายทันเดือน ต.ค.18 นี้ หนุน Sentiment กลุ่มอิงการลงทุน

CK (TP19F 38.5*):  Support 26.0/25.5 Resistant 27.5/28.25

 

Earnings Outlook: คาดเป็นผู้มีโอกาสได้งานประมูลภาครัฐสูง โดยใน 2H18F และ 2019F คาดมีงานประมูลภาครัฐมูลค่า 2-3 แสนลบ. และ 4.8 แสนลบ. หนุนอัตราทำกำไรปรับเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันฐาน Backlog ที่มีสูงกว่า 5.9 หมื่นลบ. ขณะที่ กำไร 2H18F คาดทรงตัว h-h

Valuation: ราคาหุ้นที่ปรับลงมา เป็นจุดซื้อที่ดีอีกครั้ง และซื้อขายที่ PBV19F 1.79 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 1.93 เท่า

Catalyst: ภาพระยะกลางยาว ได้ประโยชน์จากการลงทุนรอบใหญ่โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและEEC  สอดรับกับภาพระยะสั้นที่คาดรัฐจะเร่งงานประมูลออกมาก่อนเลือกตั้ง (รถไฟ High speed เชื่อม 3 สนามบิน, รถไฟฟ้าสีส้ม, รถไฟทางคู่, มาบตาพุดเฟส 3 ฯลฯ) + พรุ่งนี้จะมีการให้ข้อมูล ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์อย่างทางการ และคาดเปิดขายทันเดือน ต.ค.18 นี้ หนุน Sentiment กลุ่มอิงการลงทุน

AMATA (CONSENSUS TP 26.56): Support 22.3/22.0 Resistant 23.7/24.0

 

Earnings Outlook: พรบ. EEC ที่มีผลแล้ว จะเริ่มขับเคลื่อนปริมาณขายที่ดิน พร้อมๆกับ Recurring income คาดผลประกอบการ 2H18F ฟื้นตัว h-h จากรายได้การขายที่ดินเพิ่มขึ้น และคาดกำไร 2019F +34% 

Valuation: ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER19F 13.6x และ PBV19F 1.39x มองเป็นจุดเริ่มทยอยสะสมรอบใหม่ได้ และคาดหุ้นจะกลับมาน่าสนใจเต็มที่อีกครั้งใน 2H19F

Catalyst: EEC จะเป็นนโยบายสำคัญ ผลักดันไทยไปสู่ valued-driven economy ซึ่งระยะสั้นคาดจะมีโครงการเกิดขึ้นก่อนเลือกตั้ง โดยเฉพาะการประมูลรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน พ.ย. นี้  + หากสงครามการค้ายืดเยื้อจะเอื้อต่อโอกาสย้ายฐานผลิตจากจีนมาไทย (คล้ายๆที่เกิดกับ กรณี Tender หุ้น DELTA) + ประมาณการปี 18F-19F มี Upside จากยอด Presales ทุกๆ 100 ไร่ที่เพิ่มขึ้นจะหนุนกำไรปกติ เพิ่ม 3% และ 2% ตามลำดับ ส่งผลต่อTP19F เพิ่ม 2%

Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)