SET ปิดที่ระดับ 1,747.99 จุด ลดลง 1.43 จุด (-0.08%) มูลค่าการซื้อขาย  42,321.65 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ดัชนีแกว่งตัวผันผวนในแดนบวก-ลบ จากปัจจัยต่างประเทศที่ไม่แน่นอน ในเรื่องสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน และนักลงทุนชะลอการลงทุน รอฟังผลการประชุมเฟด (25-26) ถึงแม้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ส.ค.61 โต 0.7% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16

 

  คาดดัชนีฯ แกว่งกรอบแคบนักลงทุนเน้นเล่นสั้นๆ รอผลประชุม FOMC คืนนี้  ประเด็นการค้าสหรัฐฯ-จีน ไม่มีอะไรใหม่ ......  นักลงทุนส่วนใหญ่น่าจะซื้อขายน้อยลงก่อนทราบผลประชุม FOMC แม้จะคาดอยู่แล้วว่าจะมีการปรับขึ้น 0.25% แต่ด้วยภาวะตลาดที่ขาดปัจจัยบวก ปฎิกิริยาของนักลงทุนในตลาดพันธบัตรและค่าเงินดอลล่าร์ที่อาจขยับขึ้นทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนในวันนี้ เพื่อรอดูว่าหลังการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้แล้วตลาดจะมีทิศทางอย่างไร ตลาดหุ้นและค่าเงินของตลาดเกิดใหม่ (EM) อ่อนตัวลงมาเล็กน้อยจากวันก่อน ....  ประเด็นสงครามการค้า สหรัฐฯ-จีน ยังไม่มีความคืบหน้า เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนยังไม่กล้าผลีพลามในเวลานี้ สองตัวแปรสำคัญ ยังคงเป็นตัวถ่วงดัชนีฯไม่ให้เดินหน้าไปได้ไกล .... ราคาน้ำมันดิบ ได้อานิสงค์จากคาดการณ์ว่า supply จะตึงตัวหลังการ sanction อิหร่านมีผล 4 พ.ย.นี้ ราคาน้ำมันสูงขึ้นเป็นบวกต่อผู้ผลิตน้ำมันแต่เป็นลบต่อผู้ใช้น้ำมัน อาทิ โรงกลั่นน้ำมัน โรงงานปิโตรเคมีและสายการบิน เป็นต้น .....  ปัจจัยในประเทศ รัฐบาลทยอยประกาศมาตรการเศรษฐกิจและระดมทุนเพื่อนำมาลงทุนนโครงการต่างๆ และมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองหลังกำหนดเลือกตั้งชัดเจนขึ้น ซึ่งเป็นปัจัยหนุนตลาด ขณะที่เงินบาท ที่แข็งค่า ล่าสุด 32.40 บาท/ดอลล่าร์ เป็นตัวแปรที่คอยหนุนตลาดหุ้นไว้........  ประเด็นที่มีผลในระหว่างวัน จะเป็นการตอบรับของนักลงทุนต่อการเข้าประมูลสัมปทานปิโตรเลียมของ PTTEP

 

  ตลาดยังอยู่รอบของการพักตัว ตลาดจะมีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้นหลังทราบผลประชุม FOMC ในคืนนี้ วันนี้ เราแนะนำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน หรือ “wait & see” การเข้าลงทุนในวันนี้ ควรเน้นเก็งกำไรช่วงสั้น ปิด position ในวันไปก่อน  ........หุ้น top picks วันนี้  เราคง  KBANK ไว้ และเพิ่มหุ้นที่เน้นเก็งกำไรช่วงสั้นหรือาคาลงมามาก  MINT, CENTEL, WICE , CPALL และ KCE

 

  * เป็นหุ้นที่แนะนำโดย KTBST ยังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์