KGI ประเมิน SET Index วันจันทร์ไซด์เวย์/ลดลงกรอบจำกัด...คาดว่าดัชนีฯ จะเริ่มทรงตัวในสัปดาห์นี้หลังแรลลี่ในสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลาง valuations ของดัชนีฯ ที่ตึงตัว (consensus forward PE2561 สูงกว่า 16 เท่า) และปัจจัยต่างประเทศที่เป็นลบเล็กน้อย เช่น i) เมื่อวันศุกร์ โดนัลด์ ทรัมป์กล่าวปราศรัยส่งสัญญาณว่าจะเดินหน้าเก็บภาษีนำเข้ากับจีนเพิ่มเติมอีกในระยะถัดไป ...ขณะที่ภาษีนำเข้าสินค้าจีน 10% ของสินค้า 2 แสนล้านเหรียญฯ และภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ 5-10% ของสินค้า 6 หมื่นล้านเหรียญฯ จะมีผลเที่ยงวันนี้เวลาไทย และ ii) ความกังวลต่อภาคการเงินในตลาดเกิดใหม่กลับมาอีกรอบ หลัง IL&FS Group ซึ่งเป็นสถาบันการเงินใหญ่ในอินเดียผิดนัดชำระหนี้เมื่อวันศุกร์ อย่างไรก็ดี ภาคการเงินของไทยแข็งแกร่งกว่าอินเดียมาก (NPL ratio ของไทยต่ำกว่า 3% แต่ NPL ratio ของอินเดียอยู่ที่ 12% ... เราจึงไม่กังวลต่อประเด็นนี้) ขณะที่ปัจจัยบวกในประเทศยังอยู่ครบ เรามองว่า SET Index จะยืนอยู่ในระดับสูงได้และไม่น่าลดลงแรง กลยุทธ์การเทรดดิ้งยังเน้นหุ้นไม้สอง (second tier) ซึ่งราคาหุ้นยังปรับขึ้นไม่มาก (laggards) และอยู่ในธีมการลงทุนที่น่าสนใจ เช่นรับความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและการเลือกตั้ง รวมทั้งหุ้นที่แนวโน้มกำไรเร่งตัวโดดเด่นในครึ่งปีหลัง เป็นต้น

 

 

TRUE* (เป้าพื้นฐาน 9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 5.95 บาท / แนวต้านแรก 6.10 บาท หากผ่านได้แนะนำ "เก็งกำไร" ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 6.3 บาท (Stop loss 5.75 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H61 จะมีกำไรจากการดำเนินงาน หลังมีการบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์ไปก้อนใหญ่ใน 2Q61 (ต้นทุนทางบัญชีลดลง) 3) ราคาหุ้นปรับลงสะท้อนความกังวลกรณีพิพาทกับทาง TOT ไปบ้างแล้ว

WHAUP* (เป้าพื้นฐาน 8.7 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.2 บาท / แนวต้าน 6.45 - 6.80 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 6.15 บาท) 2) ประเมินเป็นหุ้น Laggard กลุ่มโรงไฟฟ้าและสาธารณูปโภค (คาดเป็นผลจากนักลงทุนหาหุ้น Defensive ในช่วงภาวะตลาดผันผวน) 3) Valuation WHAUP* น่าสนใจที่สุดในกลุ่มฯ PE ปี 2561 และ 2562 ยังต่ำเพียง 14.1 เท่า และ 13.1 เท่า ตามลำดับ มี Upside จากราคาเหมาะสม +38% (สูงสุดในกลุ่มฯ) ขณะที่ฝ่ายวิจัยฯประเมินมูลค่าโรงไฟฟ้าและสาธารณูปโภคด้วยวิธี (DCF) + สมมติฐาน (WACC) บนฐานเดียวกันทุกตัว และคาดปันผลปี 2561 - 62 เท่ากับ 3.5% และ 3.8% ตามลำดับ

KTB* (เป้าพื้นฐาน 21.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 20.0 บาท / แนวต้านแรก 20.5 และถัดไป 20.9 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 19.8 บาท) 2) ประเมิน Valuation ไม่แพง PBV 0.98 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี = 1.1 เท่า) ขณะที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยกำลังเป็นขาขึ้น + แนวโน้มเศรษฐกิจที่ขยายตัว และ NPL ที่น่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ตามวัฏจักรเศรษฐกิจ ทำให้คาดว่า PBV มีโอกาสที่จะกลับสู่ระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยได้ 3) คาดปันผลปี 2561 - 62  เท่ากับ 4.0% และ 4.5% ตามลำดับ

หุ้นเชิงปริมาณ & พื้นฐาน "Quantamental"

 

หุ้นเด่น Quantamental เดือน ก.ย.61: MBK (Stop loss 24.0 บาท) / KTB* (Stop loss 18.5 บาท) / SF (Stop loss 8.6 บาท) / COL (Stop loss 28 บาท) / D (Stop loss 10.4 บาท) ... นักลงทุนสามารถเลือกพิจารณาหุ้น Top picks ตัวอื่นๆนอกเหนือจากที่เราเลือกมา 5 ตัวนี้ได้ใน บทวิเคราะห์ Quantamental

 

 

(+) ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้การทางพิเศาแห่งประเทศไทย (กทพ.) จ่ายเงินชดเชย NECL (บริษัทย่อยของ BEM*) จำนวนทั้งสิ้น 1.8 พันล้านบาท เนื่องจากการสร้างเส้นทางโทลล์เวย์ช่วงอนุสรณ์สถาน-รังสิต ซึ่งเป็นการแข่งขันกับเส้นทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด ซึ่งเป็นการผิดสัญญาสัมปทานที่มีอยู่ (ข่าวหุ้น) ข่าวดังกล่าวเป็นบวกต่อ BEM ในฐานะที่เป็นบริษัทแม่ของ NECL ขณะที่ค่าชดเชยที่จะได้รับตามคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดคิดเป็น 0.12 บาท/หุ้นสำหรับ BEM เรายังแนะนำซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายเท่ากับ 8.68 บาท ซึ่งยังไม่รวมมูลค่าที่จะได้รับเงินชดเชยจากคดีดังกล่าว

(+) GLOW* รอ GPSC* ฮุบหุ้นใหญ่ เดินหน้าโรงไฟฟ้าในเมียนมา (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) โกลว์ พลังงาน แย้มรัฐบาลเมียนมาไฟเขียวผลศึกษาโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ 640 เมกะวัตต์แล้ว รอดีล GPSC ซื้อหุ้นสำเร็จเดินหน้าต่อ พร้อมกับรอ กพช.มีความชัดเจนเรื่องต่ออายุสัญญา SPP 2 โครงการ และลุยเจรจาลูกค้าติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปแบบ PRIVATE PPA 100 เมกะวัตต์ (+) PTTEP* ลุยชิงหลุมก๊าซดีเดย์ 25 ก.ย. (โพสต์ทูเดย์) รมว.พลังงาน ตั้งโต๊ะแถลงวันนี้ ยันไม่เลื่อนประมูล ปตท.สผ.-เชฟรอน ควงพันธมิตร พร้อมยื่นชิงหลุมก๊าซ 25 ก.ย.นี้

(- กลุ่มท่องเที่ยว) ยอดเที่ยววันชาติจีนวูบ (โพสต์ทูเดย์) ชงรัฐออกมาตรการหนุนหลังโกลเด้นวีกพลาดเป้า หวังไฮซีซั่นโต ธุรกิจท่องเที่ยวโรงแรม ห่วงนักท่องเที่ยวจีนยังแผ่วช่วงโกลเด้นวีก หวังรัฐออกมาตรการช่วยดันไฮซีซั่น

(+) ANAN* ลุยเปิด 9 โครงการครึ่งหลังรับรู้ 2.1 หมื่นล. (ทันหุ้น) ANAN* ครึ่งปีหลังเตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 9 โครงการ มูลค่า 1.55 หมื่นล้านบาท ดันยอดขายทั้งปีเข้าเป้า 3.51 หมื่นล้านบาท มองผลงานครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง จ่อรับรู้รายได้จากการโอนไม่ต่ำกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันมี Backlog ในมือที่ 5.46 หมื่นล้านบาท มั่นใจรายได้ปีนี้ตามนัด 3.8 หมื่นล้านบาท

(+) TVD ทุ่มงบพันล้าน ซื้อหุ้นสปริงนิวส์ฯ เสริมแกร่งธุรกิจ (ข่าวหุ้น) TVD ทุ่มเงิน 1 พันล้านบาท เข้าซื้อหุ้น "สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น" ต่อยอดธุรกิจ-รุกโฆษณาขายสินค้าได้เต็มกำลัง ฟาก NEWS ปลดล็อกทีวีดิจิทัล ลั่นได้ TVD เข้าร่วมลงทุนช่วยหนุนผลการดำเนินงานสปริงนิวส์เติบโตในอนาคต เตรียมเปิดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติ 22 พ.ย.นี้

(- กลุ่มค้าปลีก / การบริโภคในประเทศ) ชาวไร่กระอักอ้อยราคาตก (เดลินิวส์) รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยว่า ราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 61/62 ที่จะประกาศเดือน ต.ค.นี้ มีแนวโน้มเฉลี่ย 680 บาทต่อตัน เนื่องจากราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกตกต่ำ ซึ่งเตรียมเสนอแนวทางการช่วยเหลือชาวไร่อ้อย ส่งเสริมให้ผู้ค้าน้ำมันนำน้ำตาลส่วนเกินที่ส่งออกในราคาต่ำไปผลิตเอทานอล เพื่อผสมน้ำมันเบนซินในการจำหน่ายเป็นแก๊สโซฮอล์มากขึ้นอาจต้องปรับราคาน้ำมันขึ้นประมาณ 2-3 สตางค์ต่อลิตร ให้มีเงินเข้าระบบมาช่วยเหลือชาวไร่อ้อยกว่า 1,000 ล้านบาท

 

 

SGP* (เป้าพื้นฐาน 14.9 บาท) ประเมินแนวรับ 12.2 บาท / แนวต้าน 13.0 บาท และลุ้นปิดแก๊บราคาที่ 13.6 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 12.0 บาท) ... วานนี้ราคาก๊าซ LPG สัญญาส่งมอบเดือน ต.ค. 638 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน (+6.3% QTD)

AMATA* (เป้าพื้นฐาน 30 บาท) ประเมินแนวรับ 22.0 บาท / แนวต้าน 23.7 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 21.5 บาท)

SEAFCO (เป้าพื้นฐาน 10.3 บาท) ประเมินแนวรับ 8.8 บาท / แนวต้าน 9.2 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 8.7 บาท)

SCCC (เป้าพื้นฐาน 310 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 249 บาท)  

TISCO* (เป้าพื้นฐาน 118 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 82.5 บาท) 

CPALL* (เป้าพื้นฐาน 87 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 69 บาท) 

BGRIM* (เป้าพื้นฐาน 31 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 27.25 บาท)  

COM7* (เป้า Consensus 21.5 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 19.8 บาท) 

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

          กลุ่มสื่อสาร น้ำหนักการลงทุน "เท่ากับตลาดฯ" ฝ่ายวิจัยฯรวบรวมเหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในเดือน ต.ค. 2561 ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบกับกลุ่ม ICT ได้แก่ วันที่ 8 ต.ค. 2561 ซึ่งเป็นกำหนดยื่นซองประมูลใบอนุญาตคลื่น 900 MHz / วันที่ 15 ต.ค. 2561  เป็นวันสุดท้ายที่ กสทช. มีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดในกรณีเยียวยาคลื่น 850 MHz ของ DTAC และกำหนดประมูลวันที่ 20 ต.ค. 2561 อย่างไรก็ตาม คาดว่ามีความเป็นไปได้สองแนวทาง i) DTAC* เข้าร่วมประมูล และ ii) ไม่มีผู้เข้าร่วมประมูล ซึ่งเรามองว่าแนวทางที่สองมีความเป็นไปได้มากกว่า เลือก ADVANC* และ TRUE* เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม