- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 24 September 2018 17:11
- Hits: 1492
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายหุ้นใหญ่หลายตัวแกว่งออกข้าง ในขณะที่หุ้น SMID Cap หลายตัวมีแรงเก็งกำไรเด่น นำโดย THAI, TKN, SIRI, KTC และหุ้นรถไฟฟ้า BEM ปรับขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตามหุ้นโรงไฟฟ้าที่ถูกเก็งกำไรเมื่อต้นสัปดาห์ถูกแรงขายทำกำไร นำโดย EA, SUPER , GPSC, CKP ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,756.1 จุด (+4.0 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 7.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 6.7 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาขายหุ้นไทยครั้งแรกในรอบ 7 วันทำการที่ 597ล้านบาท ด้าน SET50 index future ต่างชาติ Short สุทธิ 4,404 สัญญา
Investment theme
สัปดาห์นี้แนะรอซื้อเมื่ออ่อนตัว จับทิศทาง Dollar : ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้น รวมถึง SET ปรับขึ้น Outperform ประเทศอื่นๆ ในอาเซียนเป็นผลจากการผ่อนคลายประเด็นการเมืองและปัจจัยต่างประเทศ อย่างการประกาศตัวเลขวงเงินภาษีนำเข้าสินค้าที่ออกมาจากทั้ง 2 ฝั่งที่ต่ำกว่าตลาดคาด โดยสหรัฐจะขึ้นภาษี 10% วงเงิน 2.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษี 5-10% วงเงิน 6.0 หมื่นล้านเหรียญ สัปดาห์นี้เราประเมินว่า SET จะกลับมาแกว่งตัวในกรอบอีกครั้ง โดยวันนี้ทั้ง 2 ประเทศจะปรับเพิ่มวงเงินนำเข้าสินค้ารอบที่ 3 ประกอบกับเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นาย Liu he ตัวแทนการค้าจากฝั่งจีนแถลงยกเลิกการพบปะสหรัฐเพื่อเจรจาการค้า ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดคาดเพราะถือเป็นครั้งแรกที่ฝั่งจีนเปิดฉากก่อน (ใน 4 เดือนที่ผ่านมา สหรัฐจะเป็นฝั่งเริ่มและจีนเป็นฝั่งรอ เพื่อตอบโต้) และอีกเหตุการณ์สำคัญนั่นคือการประชุม FOMC ที่ตลาดคาด FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2.00-2.25% ซึ่งเราประเมินว่าตลาดได้ตอบรับปัจจัยดังกล่าวผ่าน Bond yield 10 ปีสหรัฐที่ปรับขึ้นที่ระดับ 3.09%+/- แต่สิ่งที่แนะนักลงทุนจับตานั่นคือแนวโน้มการปรับในอนาคต เพราะเราเชื่อว่า FED ยังไม่ได้รวมผลกระทบจากนโยบายกีดกันการค้า ฉะนั้นหากมีโทนคำพูดที่ชะลอการปรับขึ้นในอนาคต อาจส่งผลบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงฝั่งเอเชียได้
Investment Theme: สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,740-1,760 จุด คงคำแนะนำเน้นหุ้นกลุ่ม Domestic นำโดย CPALL, STEC, BEM, SCB และหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานดีแต่ราคายังไม่ขึ้น (มี Upside) นำโดย GOLD, PRM, BLAND พร้อมแนะเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มท่องเที่ยวและสายการบิน เนื่องจากมองว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังฟื้นตัวลำบาก
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – BoJ แถลงคงนโยบายผ่อนคลายการเงิน, Abe ได้รับเลือกเป็นนายกต่ออีกสมัย / Brexit เจอปัญหาหลังยุโรปไม่ให้ความร่วมมือ /ตลาดหุ้นสหรัฐ DJ, S&P ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
Stock pick : -
Trading idea – เก็งกำไร BEM โดยนอกเหนือจากประเด็นการชนะคดีความแล้ว ในแง่ปัจจัยพื้นฐานเราคาดกำไร 3Q18 ทำ All time high มองกรอบแนวต้าน 9.50 บาท , เก็งกำไร BDMS โดย Bloomberg ปรับอันดับ Health care Efficiency Index ประเทศไทยขึ้นเป็น 27 ของโลก (จาก อันดับ 41 ในปีก่อน) / ชะลอแรงเก็งกำไร CKP พร้อมแนะนำทยอยขายบริเวณแนวต้าน 5.30 และ 5.50 บาท
Technical View
แกว่งตัวในกรอบ 1745-1765 หลุด 1745 Lock Profit : ดัชนีแกว่งออกข้างเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยมีกรอบการแกว่งที่ 1745-1765 โดยตลอดทั้ง 3 วันดัชนีเกิดเป็นแท่งแดง (ปิดต่ำกว่าเปิด) แสดงถึงระหว่างวันไม่มีแรงซื้อที่ต่อเนื่อง จึงยังคงต้องระวังการปรับตัวหลุดแนวรับของกรอบที่ 1745 ซึ่งหากหลุดแนวรับดังกล่าว Downside จะเปิดมากขึ้น และมีโอกาสอ่อนตัวทดสอบแนวรับ 1730 ฉะนั้นหากหลุด 1745 แนะนำ Lock profit หรือหากปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1765 แนะนำทยอยขายทำกำไรบางส่วน
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Trading ในกรอบ 1745-1765 หากหลุด 1745 แนะนำ Lock Profit ในขาขึ้นรอบนี้ แต่หาก Rebound แนะนำพิจารณาแรงขายที่แนวต้าน 1765 หากยังมีแรงขายมากแนะนำ ขายทำกำไรเพื่อเล่นรอบ2) ไม่มีหุ้น : หากอ่อนตัวไม่หลุด 1745 อาจทยอยสะสมเพื่อ Trading ในกรอบ 1745-1765
แนวรับ : 1745, 1750 แนวต้าน : 1765, 1775
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: วันนี้ OSP จัดประชุมนักวิเคราะห์ / 26 ก.ย. ประชุม FOMC / Trump เตรียมเจรจาการค้าญี่ปุ่น
ปัจจัยในประเทศ: ยื่นซองประมูลบงกช –เอราวัณ 25 กย. นี้ รู้ผล ธค. /การประมูลคลื่น 900 MHz รอบใหม่
หุ้นเทคนิค:
BEAUTY (B 11.50, Tp 12.50//13.00, Cut 11.30)
TKN (B 17.00, Tp 18.00, Cut 16.80)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO14162